ในชั่วยามนี้ กระแสการนำพืชผลมาช่วยบำรุงและต่อต้านโรคโควิด-19 โดยหลาย ๆ คน อาจจะเชื่อว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยต้านโรคดังกล่าวได้ ซึ่งรวมไปถึง ‘กระชาย’ ที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยหนึ่งในการช่วยต่อต้านโรคนี้
โดยความสำเร็จเบื้องต้น พบว่า “สารสกัดกระชายขาว” มีฤทธิ์ต้าน COVID-19 ในหลอดทดลอง นักวิจัย ม.มหิดล เร่งพัฒนาสารสกัดกระชายขาวเพื่อใช้เป็นยาสำหรับโรค COVID-19 คาดว่าใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ในการวิจัยและพัฒนาให้สำเร็จ โดยโครงการวิจัยต้านเชื้อไวรัสโคโรนาจากสมุนไพรไทย เป็นความร่วมมือระหว่าง คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS (ข้อมูลจาก : https://www.rama.mahidol.ac.th/ramaclinic/article/09sep2020-1522)
**แต่ทั้งนี้การใช้ใบกระชายในการต้านโควิด-19 นั้น ยังคงเป็นการศึกษาในห้องทดลอง**
แต่ในขณะเดียวกันพืชชนิดนี้มีสรรพคุณที่มากกว่าการต้านโรคโควิดอีกด้วย
สำหรับ ‘กระชาย’ นั้น เป็นพืชล้มลุกที่มักนิยมนำเหง้ามาใช้ประกอบอาหาร แต่พืชชนิดนี้มีสรรพคุณตั้งแต่รากไปถึงใบ
-ใบกระชาย ใช้ในการบำรุงธาตุ แก้โรคในปาก คอ ถอนพิษ และแก้โลหิตเป็นพิษ
-เหง้าและรากกระชาย แก้โรคบิด ขับปัสสาวะ และใช้เป็นยารักษาภายนอกทารักษาขี้กลาก
-เหง้าใต้ดินกระชาย จะช่วยในการแก้ปวดท้อง แก้มวนท้อง บำรุงกำลัง และ รักษาริดสีดวง
ประโยชน์จาก “กระชาย”
-แก้ท้องร่วง : ใช้เหง้ากระชายดำ 1-2 หัว แล้วนำไปปิ้งไฟ จากนั้นมาตำหรือฝนผสมกับน้ำปูนใสคั้นมารับประทาน 1-2 ช้องแกง
-แก้ท้องอืด จุกเสียด ปวดมวนท้อง : ใช้ราก และ เหง้า ครึ่งกำมือ นำมาต้มเอาน้ำหรือใช้ปรุงอาหาร
-แก้โรคบิด : ใช้เหงาสด 2 เหง้าบดละเอียดผสมน้ำปูนใส คั้นแต่น้ำดื่ม
-แก้ริดสีดวง : ใช้เหง้าสด 6-8 เหง้า ทำการผสมเนื้อมะขามเปียก และเกลือแกง จำนวน 3 ช้อนชา แล้วนำมาตำและต้มกับน้ำ 6 แก้ว ทำการเคี่ยวจนเหลือ 2 แก้ว นำมารับประทานครั้งละครึ่งแก้วติดต่อกัน 1 เดือน จนกว่าริดสีดวงทวารจะหาย
-บำรุงหัวใจ : ให้ใช้เหง้าและรากกระชายมาปอกเปลือก จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาด และหั่นตากจนแห้ง แล้วก็มาบดเป็นผง นำผงแห้งมาชงน้ำร้อนครึ่งถ้วยชา ดื่มให้หมดในครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม ในการบริโภคกระชายนั้น ก็มีข้อควรระวังเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้ารับประทานมากเกินไป อาจจะมีปัญหาในเรื่องของเหงือกร่น, ใจสั่นได้ อีกทั้งยังมีผลต่อการทำงานของตับ ซึ่งผู้ที่ป่วยโรคนี้ จะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็ไม่ควรรับประทานอย่างต่อเนื่อง เพราะกระชายมีฤทธิ์ร้อน อาจจะทำให้เกิดโรคร้อนใน หรือ แผลในปากตามมาได้