หลายคนอาจคิดว่าการปวดท้องเวลามีประจำเดือนเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง โดยการปวดมักจะปวดก่อนมีรอบเดือน 1-2 วัน หรือปวดระหว่างมีรอบเดือนในช่วงวันแรก ๆ ซึ่งจะมีอาการปวดแบบหน่วง ๆ หรือรุนแรงไปจนถึงบริเวณท้องน้อย
แต่การปวดประจำเดือนของผู้หญิงอาจจะไม่เท่ากัน เพราะบางคนก็ปวดมากจนถึงขั้นต้องลางานเวลาถึงวันนั้นของเดือน แต่กับบางคนอาจจะปวดไม่มาก มีอาการเพียงเล็กน้อยจึงมักมองข้ามปัญหานี้ไป แต่แม้จะปวดเพียงเล็กน้อย
แต่การปวดเป็นระยะเวลานานหรือแม้กระทั่งปวดท้องแบบรุนแรง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่จะตามมาได้
สาเหตุการปวดท้องประจำเดือน
อาการปวดประจำเดือนเกิดจากสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน ชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) ซึ่งก่อตัวขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูกระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้มดลูกมีการบีบตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันแรกของการมีประจำเดือนโพรสตาแกลนและยังอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หากร่างกายหลั่งสารนี้ในปริมาณมากจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของอาการบีบรัด ทำให้รู้สึกปวดประจำเดือนยิ่งขึ้น
วิธีลดอาการปวดง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
-ใช้ถุงประคบร้อนประคบบริเวณท้องน้อยและบริเวณหลัง เนื่องจากความร้อนมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงอยู่ค่อย ๆ ผ่อนคลาย ทำให้อาการปวดประจำเดือนทุเลาลง รวมไปถึงการอาบน้ำอุ่นก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
-จิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่ไม่ใช่ชาหรือกาแฟร้อน เป็นการปรับให้ภายในร่างกายอุ่นขึ้น ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนในระหว่างวันลงได้ ควรเลือกเป็นน้ำอุ่นธรรมดา น้ำผึ้งผสมมะนาว หรือน้ำขิงอุ่น ๆ แต่ไม่ควรดื่มเป็นชาหรือกาแฟร้อน เพราะเครื่องดื่มประเภทคาเฟอีนจะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ส่งผลให้อาการปวดประจำเดือนเพิ่มความรุนแรงขึ้นได้
-นวดบริเวณท้องน้อยแปบบเบา ๆ โดยนวดวนเป็นวงกลมเพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องผ่อนคลายลง อาการปวดประจำเดือนจากการตึงของกล้ามเนื้อก็จะลดลงตามไปด้วย
- ออกกำลังกายเบา ๆ การออกกำลังกายนอกจะจะช่วยปรับอารมณ์ในวันที่ฮอร์โมนแปรปรวน แต่สาร Endorphins ที่หลั่งออกมา ยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ แต่ควรเป็นกิจกรรมเบา ๆ เช่น การเดินเร็ว หรือ เล่นโยคะในท่าง่าย ๆ
อาหาร และเครื่องดื่มที่ควรกินในระหว่างเป็นประจำเดือน
-น้ำเต้าหู้ มีฮอร์โมนเพศหญิง ที่ช่วยบรรเทาอาการปวด และช่วยลดการเกิดอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี ควรกินก่อนประจำเดือนมาประมาณ 1 สัปดาห์
-ผักผลไม้ที่มีกากใยสูง มีส่วนช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ เพราะกากใยในผักผลไม้ จะทำหน้าที่ดักจับฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกิน และกำจัดทิ้งไป ทำให้มดลูกไม่หดตัวมากเกินไปแล้ว ผักผลไม้ที่มีแมกนีเซียม และวิตามินซีสูง ยังช่วยบรรเทาอาการปวดเกร็งท้องได้ดีด้วย
-ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลากระพง ปลาทู ปลาแซลมอน เป็นต้น เป็นปลาที่อุดมไปด้วยกรด EPA และ DHA ที่ ช่วยลดอาการปวดเกร็งในช่องท้องและยังอุดมไปด้วยสารอาหาร อีกทั้งยังช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงได้
-น้ำเปล่า ช่วยเติมน้ำให้กับร่างกายที่มีการสูญเสียเลือดในช่วงที่เป็นประจำเดือน แม้ว่าในช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือนฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้ตัวบวม อึดอัด เราควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน
เพราะจะช่วยขับโซเดียม หรือเกลือที่เป็นสาเหตุให้ตัวบวมออกมา และการดื่มน้ำอุ่น ๆ ยังช่วยลดการปวดของประจำเดือนได้อีกด้วย
เรื่อง : จณิสตา สิทธิ