xs
xsm
sm
md
lg

“แต๊งส์ Superthankky” YouTuber สายสิว ผู้นำเสนอวิธีรักษาสิวแบบไม่เหมือนใคร!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สิว” ปัญหากวนใจใครหลาย ๆ คน ที่นอกจากจะส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพแล้ว สิวยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจด้วย กว่าจะรักษาหายก็ใช้เวลา กว่าจะเจอวิธีรักษาที่เหมาะสมก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูก เช่นเดียวกับ YouTuber สายรักษาสิวอย่าง “แต๊งส์ Superthankky” หรือ “แต๊งส์ ธัชพงศ์ จิรสินคุรกานนต์” ที่เคยเป็นสิวจนไม่กล้าออกไปไหน แต่ทุกวันนี้มีผิวหน้าเนียนใส พร้อมแชร์เคล็ดไม่ลับ ฉบับการรักษาสิวด้วยตัวเองให้ทุกคนได้นำไปเป็นแนวทางกัน


01. ช่วยแนะนำตัว และสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้หน่อยค่ะ

สวัสดีครับ ชื่อแต๊งส์นะครับผม ผลงานก็ตอนนี้ทำเพจกับ YouTube ชื่อ Superthankky ครับ เปิดมาประมาณ 1 ปีกว่า ๆ ครับ สาเหตุที่เปิดช่องนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า อยากลองทำอะไรเกี่ยวกับตัวเองขึ้นมา สกินแคร์ อะไรแบบนี้ คือตอนแรกเอาจริง ๆ ที่ทำช่องนี้คือไม่ได้เกี่ยวกับสิว ไม่ได้เกี่ยวกับสกินแคร์ แต่ทำเกี่ยวกับสิ่งที่เราชอบ คืออยากทำ YouTube เล่น ๆ อะไรแบบนี้ครับ เห็นช่องอื่นทำ YouTube ก็อยากทำบ้าง แล้วเหมือนพอเรามาทำเกี่ยวกับสิวแล้วคนให้ความสนใจเยอะ เพราะว่ามันเป็นวิธีที่เขาเอาไปลองใช้แล้วเห็นผล เราก็เลยกลายเป็นสายนี้ไป สายสกินแคร์ สายเกี่ยวกับสิวอะไรแบบนี้ครับ

02. จุดเริ่มต้นหรือแรงจูงใจในการรักษาสิวด้วยตนเองเกิดจากอะไรคะ?


จุดเริ่มต้นเหรอครับ เอาจริง ๆ ตอนแรกแต๊งส์แบบเป็นสิวค่อนข้างที่จะเยอะมากครับ ก็ลองไปหาทั้งคลินิก ลองไปหาทั้งหมอที่เก่ง ๆ ใครว่าอะไรดีก็ลองใช้ทุกอย่างนะครับผม แล้วทีนี้เหมือนกับสิวไม่หายขาดสักที แล้วจะมีช่วงที่เหมือนแบบมันเป็นช่วงคาบเกี่ยวก่อนที่เราจะไปรักษา คือสมมติว่าเรารักษาอยู่ที่คลินิกใช่ไหมครับ แล้วก่อนที่จะไปอีกที่หนึ่งเนี่ยเราก็มีการหยุด ช่วงที่หยุดทำไมหน้าเราดีขึ้นจังเลย ดีขึ้นมากอะไรแบบนี้ แต่พอไปรักษาปุ๊บก็เหมือนจะดีขึ้นแต่ก็กลับมาเป็นอีก ก็รู้สึกว่า เออทำไมตอนที่เราหยุดใช้ทุก ๆ อย่างไปเลยเนี่ย ทำไมหน้าเราดีขึ้นจังเลย ก็เลยลองหยุดใช้ ปรากฏว่ามันก็ดีขึ้น จุดนี้ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่รู้วิธีหยุดพักหน้า พักทุกอย่าง ก็เลยมาลองบอกต่อ ทำ YouTube ขึ้นมา แล้วก็บอกวิธีที่แบบคนไม่ค่อยเอามาพูดเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนใน YouTube จะแบบว่าให้ลองใช้นู่นใช้นี่ หรือว่าไปหาคลินิกนี้สิคลินิกนั้นสิ แต่ว่าของแต๊งส์เนี่ยคือให้หยุดใช้ทุกอย่างเลย มันก็เป็นวิธีที่แบบแปลก แล้วคนก็เลยให้ความสนใจครับ

03. สภาพผิวหน้าเป็นอย่างไรบ้างคะ? แล้วสิวที่เกิดขึ้นคือเกิดจากสาเหตุอะไร?


คือสภาพผิวหน้าตอนนั้นต้องบอกว่าแบบ...พัง พังทั้งหน้า ทุกอณูอะครับผมที่มีต่อมไขมันคือสิวขึ้นทุกจุดจริง ๆ คือไม่มีจุดเว้นว่างเลยอะครับ สภาพผิวหน้าคือแบบแย่มาก ผิวหน้าแบบแปรปรวน เดี๋ยวมัน เดี๋ยวแห้ง สิวขึ้น สิวอุดตัน สิวหนอง สิวทุกอย่าง แล้วที่แพ้ตอนนั้น คือต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นเป็นสิวที่เหมือนจะเป็นสิวสเตียรอยด์อะครับ คือสิวจะขึ้นไม่ได้เยอะมาก ตอนแรกมีสิวประมาณ 3-4 เม็ด มีน้อยนะครับไม่เยอะมาก แต่สิวจะขึ้นวนอยู่ตลอด ทุกครั้งที่แต่งหน้าก็จะมีสิวขึ้น หรือว่าทุกครั้งที่เราแบบนอนดึก สิวก็จะขึ้น คือขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ ขึ้นแบบวน ๆ พอกดสิวเม็ดนี้เม็ดนั้นก็ขึ้น กดดสิวเม็ดนั้นเม็ดนี้ก็ขึ้นอะไรแบบนี้อะครับ จนกระทั่งเราไปเจอครีมตัวหนึ่ง เป็นครีมที่เขาบอกว่าจะทำให้สิวไม่ขึ้นอีกต่อไป คือแต๊งส์อะเคยเห็นคนปกติที่แบบว่า ถ้าโดนมลภาวะเยอะ ๆ สิวก็จะขึ้น หรือว่าคนที่นอนดึกมาก ๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่น่ากลัวมาก ๆ แล้วสิวจะขึ้นอะไรแบบนี้ แต่ของแต๊งส์ไม่เป็นแบบนั้น ของแต๊งส์จะขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ขึ้นแบบอยู่ดี ๆ ก็ขึ้น ขึ้นวน ๆ พอมีคนแนะนำครีมตัวนี้ว่า เป็นครีมที่ใช้แล้วมันจะดันสิวออกมาหมดเลย เราก็เลยลองเอามาใช้ดู ปรากฏสิวก็ขึ้นจริง ๆ ขึ้นแบบในรูปเลยครับ ขึ้นอย่างนั้นอะครับ ขึ้นทุกอณูจริง ๆ สิวอุดตัน สิวหนอง คือขึ้นแบบเยอะมาก มันก็เลยเป็นสาเหตุที่แบบสิวขึ้นมา คือไม่ได้ขึ้นเพราะว่าแพ้นะครับ แต่ขึ้นเพราะเราใช้ครีมที่มันดันสิว แต่คือมันดันแบบเยอะจนแบบว่าขึ้นแบบในรูป คือขึ้นเยอะมาก ๆ อะครับ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นอะครับ หน้าพังไปเลย

04. แล้วหาข้อมูลเรื่องการรักษาสิวด้วยเองอย่างไรบ้างคะ?


ตอนที่รักษาสิวจริง ๆ ตอนนั้นอย่างที่บอกคือเราพยายามดูทุกวิธีเลยครับว่าทำยังไงให้สิวหาย ตอนนั้นอย่างที่บอกคือจิตใจแบบตกต่ำมาก เพราะสิวขึ้นแบบเยอะมากจริง ๆ แล้วก็ไปหาทั้งคลินิก ศึกษาข้อมูล โรงพยาบาลไหนว่าดี คลินิกไหนว่าดี ยาตัวไหนที่คิดว่าดีคือเราศึกษาแบบเยอะมากเลยครับ ว่าแบบใช้ตัวไหนแล้วจะเป็นยังไง แต่อย่างที่บอกว่าจุดจบสุดท้ายคือใช้แค่น้ำเปล่าครับ ในการรักษาสิว ถามว่าศึกษาลึกซึ้งไหม ก็ไม่ได้ศึกษาลึกซึ้งจนแบบว่าคนเป็นสิวต้องห้ามใช้ AHA นะ หรือว่าห้ามใช้พวก Whitening นะ ไม่ได้ศึกษาลึกซึ้งขนาดนั้น ณ ตอนนั้นนะครับ

05. ช่วงแรก ๆ มีวิธีการจัดการกับความอดทนในการรักษาสิวอย่างไรบ้างคะ?


ถามว่าอดทน แต๊งส์ว่า แต๊งส์รู้สึกว่าแบบแต๊งส์ก็ไม่ได้อดทนเบอร์นั้นนะ แต๊งส์รู้สึกว่าตอนที่สิวขึ้นอะ ก็คือแบบว่า...พอสมควรเลยครับ คือแบบว่าทั้งเสียใจ ร้องไห้ แบบ...คือมันนอยด์ไปหมดทุกอย่าง เพราะว่าสิวขึ้นคือเราไปไหนไม่ได้ คือเมื่อก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ สมัยนี้เขาใส่แมสก์เป็นเรื่องปกติ แต่สมัยเมื่อก่อนที่แต๊งส์ใส่แมสก์คือใส่ตลอดเวลาครับ 3 เดือน 4 เดือน คือเราใส่แมสก์ตลอดเวลา ไปไหนมาไหนก็คือใส่แมสก์ตลอด เพราะว่าเราไม่มั่นใจในตัวเองเลย ถามว่าอดทนไหม อดทนระดับหนึ่งเลยครับ แต่ว่าคือ...พอเราจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ หมายถึงว่าเรารู้แล้วว่าสุดท้ายแล้วสิวมันต้องหายนะ ถ้าเราทำวิธีนี้ เพราะว่าหน้ามันดีขึ้นทุกวันครับ ทุกครั้งที่เรากดสิว ทุกครั้งที่เราพักหน้า หน้าดีขึ้นตลอดทุกวัน ๆ แต๊งส์ก็เลยคิดว่า เออ ในอนาคตมันต้องดีขึ้นแน่ ๆ อะไรแบบนี้ เราก็เลยแค่รู้สึกว่า โอเค เดี๋ยวเป้าหมายมันจะไปถึงตรงนั้นนะ จะนานหรือไม่นานไม่รู้ แต่ว่ามันจะถึงตรงนั้นแน่ ๆ เราก็เลยแบบไม่พยายามไปฟิกซ์วัน ไปฟิกซ์ว่ามันจะหายภายในระยะเวลาเท่าไหนอะไรแบบนี้ครับ


06. มีวิธีการอย่างไรให้รักษาสิวได้อย่างปลอดภัยและได้ผลคะ?

จริง ๆ การรักษาสิวแบบปลอดภัยสำหรับตัวแต๊งส์เอง แต๊งส์รู้สึกว่าการหยุดใช้ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เอาตอนนั้นที่แต๊งก์ใช้เลยนะ หนึ่งคือกดสิว สำคัญที่สุด คือแต๊งส์จะบอกตลอดในคลิปอะ ว่าสิวไม่สามารถหายได้โดยธรรมชาติครับ หมายถึงว่าใช้ยาแล้วหาย หรือว่าใช้เจลตรงนี้แต้มปุ๊บแล้วมันจะหายไปอะไรแบบนี้ สิวจริง ๆ แล้วอะคือมันอยู่ในหน้าเรา ต้องกดออกเท่านั้น สองก็คือการใช้น้ำเปล่า คือแต๊งส์จะไม่ใช้อะไรก็แล้วแต่ที่บอกว่าดีหรือว่าเหมาะกับคนเป็นสิว ณ ตอนนั้นนะครับ คือจะมีกดสิว น้ำเปล่า แล้วก็รวมถึงสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น การไม่เอามือจับหน้า การไม่เอาหน้าโดนหมอน การไม่กินของหวานมากเกินไป 

คือรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่วยกันไปหมดอะครับ ไม่เอามือจับหน้านี่คือสำคัญเหมือนกัน หรือการใช้สำลีแทนผ้าเช็ดตัวอะไรแบบนี้ คือรู้ว่าพวกนี้ถ้าเราเราทำผนวกกันทั้งหมดเนี่ย หน้าเราจะดีขึ้นเร็วมาก ๆ  ไม่ใช่แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คือทุกวิธีที่บอก ก็คือกดสิว ใช้น้ำเปล่า ไม่เอามือจับหน้า อย่าเอาหน้าโดนหมอน ใช้สำลีแทนผ้าเช็ดตัว หรือว่าอย่าเอาหน้าตากแดด อะไรแบบนี้อะครับ ก็คือมันมีวิธีประมาณนี้ที่รู้สึกว่าสำคัญและหน้าจะดีขึ้นแน่ ๆ ครับ

07. ช่วงที่รักษาสิว ชีวิตประจำวันค่อนข้างเปลี่ยนไปจากเดิมไหมคะ?


เปลี่ยนนะครับ ก็เปลี่ยนเหมือนกัน อย่างที่บอกพอเรารู้ว่ามันดีขึ้นจริง ๆ ของมันของทอดคือจะไม่กินเลย แล้วก็พวกหมอนไม่โดนหน้าเลยครับ มือไม่จับหน้าเลย โทรศัพท์มือถือก็ไม่โดนแนบหน้า คือแรก ๆ อาจจะแบบว่า...มันจะเป็นทีละข้อ จะไม่ได้ทำทั้งหมดภายในวันเดียวครับ ทั้งหมดจะไม่เอามือจับหน้า ไม่นู่นนี่นั่น จะไม่ได้ทำในวันเดียว ค่อย ๆ เป็น step by step คือ วันที่หนึ่งไม่เอามือจับหน้า อะ เราเริ่มชินแล้ว ใช้น้ำเปล่า ใช้สำลีแทนทิชชู่หรือผ้าเช็ดตัว เอาหน้าไม่โดนหมอน แรก ๆ อาจจะมีโดนบ้าง หลัง ๆ ก็คือเริ่มชิน ชินจนมันแบบมันไปเรื่อย ๆ ชีวิตประจำวันเราเลยเป็นอย่างนี้ไปแบบ...ไปโดยปริยายอะครับ โดยที่แบบไม่ฝืนตัวเอง แบบว่าเราจะไม่ทำโดยอัตโนมัติเองอะครับ เจอของมันของทอดก็จะไม่กิน กินหวานไปรู้นะว่าสิวจะขึ้นก็ไม่กิน กินช็อคโกแลตสิวขึ้นนะ อะ ก็จะไม่กิน อะไรแบบนี้อะครับ

08. มีหลักการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าอย่างไรบ้างคะ? / สิ่งสำคัญที่คนเป็นสิวง่ายต้องรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ามีอะไรบ้างคะ?


คือ ณ ตอนนี้จริง ๆ รู้สึกว่า สิ่งที่คนเป็นสิวเหมาะจริง ๆ คือจะเป็นทุกอย่างที่ไม่ใช่เนื้อครีมอะครับ เช่น เซรั่มที่เป็นเนื้อน้ำ เนื้อเจล เจลล้างหน้าที่เป็นเนื้อเจล อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เนื้อครีม คือคนเป็นสิวสามารถใช้ได้ จริง ๆ สำหรับคนเป็นสิวเนี่ย รู้สึกแค่ว่าหน้าสะอาดพอ คือถ้าเกิดว่าเราหน้าสะอาดเนี่ย คุณไม่ต้องกลัวแล้วว่าสิวจะขึ้นหรือไม่ขึ้น ในช่วงที่สมมติว่าหน้าคุณถูกพักมาแล้วเนี่ย สิ่งที่คุณใช้ได้ก็คือทุกอย่างที่เป็นเนื้อน้ำ เอสเซนส์ หรือว่าเจลล้างหน้าต่าง ๆ อะไรแบบนี้ครับ แต่ว่าจะไม่แนะนำให้ใช้อะไรที่มีกรดด่างเยอะเกินไป เช่น สารที่มี AHA, BHA เยอะเกินไป หรือว่า Whitening ต่าง ๆ อย่างกันแดดเนี่ยจริง ๆ เขาแนะนำให้ทา แต่แต๊งส์คือจะไม่ทาอะไรพวกนี้ เพราะว่าทาปุ๊บแล้วสิวขึ้น ก็จะไปทาอย่างอื่นที่มีส่วนผสมที่ช่วยกันแดดได้เหมือนกันอะไรแบบนี้

09. สุดท้ายนี้ขอคำแนะนำสำหรับคนที่กำลังรักษาสิว และให้กำลังใจพวกเขาหน่อยค่ะ


คือเอาจริง ๆ ส่วนตัวแต๊งส์ แต๊งส์รู้สึกว่า...จริง ๆ เราอย่าไปฝืนความรู้สึกครับ ว่าแบบเราจะเครียด หรือเราจะแบบรู้สึกว่าเราต้องห้ามเครียดนะ แต่ว่าสิวต้องหายภายในกี่วัน ๆ เราอย่าไปฟิกซ์ครับ เราแค่รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ สมมติว่าในอนาคต อย่างเหมือนแต๊งส์เลยคือ เราแค่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าเดี๋ยวเราสิวต้องหายนะ สุดท้ายเราต้องดีขึ้นนะ ถ้าเราทำแบบนี้เรื่อย ๆ อะครับผม ถึงเราจะไม่ต้องไปฟิกซ์ว่ามันมี 7 วัน 5 วัน 10 วัน คุณไม่ต้องไปฟิกซ์แบบนั้น แต่ว่าคุณแค่ใช้ชีวิตไปปกติ เพียงแต่ว่าอาจจะให้มันอยู่ในร่องในรอยในกรอบในชีวิตของการรักษาสิว เช่น อย่างที่บอกคือใช้น้ำเปล่า กดสิวอะไรแบบนี้อะครับผม คือทำแบบนั้นไปจนมันเป็นนิสัย เคยชิน แล้วหน้าคุณจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต๊งส์เชื่อว่ามันคุ้มมาก ๆ สำหรับตอนที่สิวเราหายแล้ว ตอนที่แต๊งส์รักษาสิวอยู่จริง ๆ คือเราเครียดมาก เราไม่รู้ว่าจะหายไหม จะหายเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราไม่ไปฟิกซ์มันจะรู้สึกเลยจริง ๆ ว่ามันผ่านไป 4 เดือนแล้วเหรอ ผ่านไป 5 เดือนแล้วเหรอ หน้าเราหายแล้วนะ ไม่มีสิวแล้ว สิวไม่ขึ้นแล้ว คือตอนนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่คุ้มมาก แล้วก็ผ่านไปเร็วมาก

แต่ถ้าเกิดใครแบบว่า ไปหาวิธีลัดแบบหาตัวนี้ดีกว่า 3 วันสิวหายแล้ว 7 วันสิวหายแล้ว สุดท้ายแล้วมันก็จะวนในลูปเดิมอะครับ วนในลูปที่เราเป็นสิวเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเนี่ยอดทนนิดหนึ่งในการรักษาสิว แต๊งส์รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมนี่สำคัญที่สุดแล้ว ในการแบบว่ามีเพื่อน มีครอบครัว การเสพสื่อต่าง ๆ อะไรแบบนี้ครับ เพราะว่าเพื่อนหรือครอบครัวเนี่ยสำคัญจริง ๆ บางคนนี่ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แต่จริง ๆ รู้สึกว่าครอบครัวเนี่ย ตัวดีเลย ในการเรียกไอ้สิว ไอ้สกปรก อะไรแบบนี้ แต๊งส์รู้สึกว่าพวกนี้มันเป็นอะไรแบบ...มันเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เราอะ ไม่รู้สึกฝืนหรือรู้สึกอายในชีวิตที่เราใช้อยู่ครับ หลาย ๆ คนเป็นนะ แต๊งส์รู้สึกว่าเพื่อน หรือว่าแฟน หรือว่าครอบครัว ที่แบบพูด ทำให้เรารู้สึกอับอาย ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง แต๊งส์โชคดีที่แต๊งส์มีเพื่อนที่รับได้กับการที่เราเป็นสิว แล้วก็ให้กำลังใจเรา แบบเออเดี๋ยวก็หาย เอ้ยหน้ามึงดีขึ้นนะ อะไรแบบนี้ พอเรารู้สึกว่าเออ มันไม่ได้น่าเกลียดขนาดนั้นนี่หว่า มันก็ใช้ชีวิตได้ปกติ มันก็ทำให้เราแบบมีกำลังใจมากขึ้น ใช้ชีวิตง่ายมากขึ้น พอสิวหายปุ๊บมันก็ไม่รู้สึกว่า เออ มันนานจังเลย คือมันไม่นานขนาดนั้นอะไรแบบนี้ครับ ก็คือให้ตั้งเป้าหมายไว้เลยว่า “สุดท้ายแล้วสิวเราต้องหายนะ” ไม่ต้องไปฟิกซ์วัน เดี๋ยวสุดท้ายมันก็จะดีขึ้นเองเมื่อถึงวันนั้นครับ

เรื่อง : รวินท์นิภา แต้เกียรติเจริญกุล
ภาพ : YouTube - Superthankky



กำลังโหลดความคิดเห็น