ไม่ออกไปเจอแสงแดด ระวังจะขาด ‘วิตามิน ดี’ นะ

แม้ว่าอากาศร้อนอาจจะทำให้ใครหลายคนไม่ชอบ หรือ กลัวส่งผลเสียต่อผิวหนังของคนเราก็ตามที แต่ในแสงอาทิตย์นั้น ก็มีส่วนผสมของ ‘วิตามิน ดี’ อยู่ในนั้นด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยดูดซึมแคลเซียมได้ด้วย ฉะนั้น ถ้าไม่ได้วิตามินประเภทนี้บ้าง มันก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ด้วยเช่นเดียวกัน


ประโยชน์ของ “วิตามิน ดี”

วิตามินชนิดนี้ มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่หลายคนไม่ค่อยรู้ นั่นคือ วิตามินมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ จึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมกระบวนการสำคัญต่างๆ ในร่างกาย เช่น ช่วยลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ คุณสมบัติคือ ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก, เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ที่ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน

ขณะเดียวกัน วิตามิน ดี มีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีการค้นพบ Vitamin D Receptor หรือตัวรับที่จับกับวิตามินดีบนทีเซลล์ และ บีเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาคุกคามร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส

นอกจากนี้ วิตามิน ดี ยังช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินมากขึ้น ช่วยลดความเครียด และภาวะซึมเศร้า ได้ด้วย ส่วนด้านผิวพรรณนั้น ก็ช่วยในการแบ่งเซลล์ และการพัฒนาเซลล์เพื่อไปทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนสึกหรอต่างๆ ช่วยชะลอวัยของผิว และยังมีผลดีต่อประสิทธิภาพการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา โดยเฉพาะประเภทที่ต้องใช้ความหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน


แหล่งวิตามิน ดี ที่ไม่ได้มีแค่แสงแดด

จากย่อหน้าตอนต้น ที่นอกจากจะมาจากแสงแดดแล้ว ร่างกายก็สามารถสังเคราะห์วิตามิน ดี ได้ใต้ชั้นผิวหนัง ผ่านการกระตุ้นจากรังสียูวีบี นอกจากนี้ ก็มีการพบวิตามิน ดี ในอาหารด้วย พบมากในปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู ปลาซาร์ดีน ไข่ และนมที่มีการเติมวิตามินดี แต่อย่างไรก็ตาม ควรออกมาสัมผัสแสงแดดบ้าง เพื่อไม่ให้ป้องกันการขาดวิตามิน ดี หรือ ถ้าไม่สามารถจริงๆ การรับประทานวิตามิน ดี ในรูปแบบอาหารเสริม ก็ช่วยได้เช่นเดียวกัน

ออกกำลังกาย ช่วยให้มีวิตามิน ดี ได้ด้วย

แน่นอนว่า การออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายและกระดูกแข็งแรง ซึ่งการออกแบบเน้นการแบกรับน้ำหนักตัว หรือ ลงน้ำหนักตัว เช่น เดิน วิ่ง กระโดดเชือก หรือ ปั่นจักรยาน ทั้งนี้ควรเลือกประเภทของการออกกำลังกายให้เหมาะกับช่วงอายุของเรา โดยควรทำสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง นอกจากนี้ควรทำกิจกรรมที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 15 นาที จำนวน 2-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งช่วงเวลา 6.00 ถึง 8.00 น. หรือ ช่วง 16.00 ถึง 18.00 แสงแดดจะช่วยเปลี่ยนเป็นคอเลสตอรอลในร่างกายไปเป็นวิตามิน ดี นั่นเอง