มาดูแล “ตับ” ให้ดีและปลอดภัยยืนยาวนานกันเถอะ

ตับนั้นถือได้ว่าเป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ หากมีปัญหาไม่ว่าจะเกิดในกรณีอะไรก็ตาม ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ซึ่งเราควรดูแลให้ดีตั้งแต่เนิ่นๆ โดยสามารถดูและรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังได้


สัญญาณเตือน ที่อาจจะเป็นโรคตับ

-มีอาการอ่อนเพลีย นอนไม่ค่อยหลับ
-ประจำเดือนมาไม่ปกติ
-มีอาการคันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
-ตัวเหลือง ตาเหลือง
-มีอาการบวมเกิดขึ้นที่หลังเท้า แขนขา และหน้าท้อง
-เมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้น จะทำให้เลือดออกง่ายกว่าปกติ
-ในบางรายถ้ามีอาการอาเจียนเป็นเลือดเพราะความดันในตับสูง
-เช่นเดียวกัน ในบริเวณมุมปาก และริมฝีปาก จะเห็นว่ามีคล้ำผิดปกติ
-ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง
-มีอาการปวดแน่นที่ชายโครง


อาหารต้องห้ามของ “โรคตับ”

1.ผู้ป่วยโรคสมองจากตับ ไม่มีการตอบสนองต่อแลคทูโลส หรือ นีโอมัยซิน และมีการทานโปรตีนในปริมาณที่ต่ำ โดยเฉลี่ยทานได้ประมาณ 20 กรัมต่อวันเท่านั้น
2.อาการท้องมานหรือบวมน้ำ ต้องมีการจำกัดในการบริโภคโซเดียม โดยจะมีการบริโภคไม่เกิน 2 ถึง 3 กรัมโดยงดอาหารกระป๋อง ไส้กรอกหรือเนื้อสำเร็จรูปทั้งหลาย เครื่องเทศ และเนยแข็งบางประเภท
3.หากมีภาวะน้ำดีคั่ง จะมีการใช้อาหารเสริมเข้าช่วย เนื่องจากจะมีภาวะอุจจาระมีไขมันมาก
4.โรควิลสัน จะมีทองแดงสะสมเป็นจำนวนมาก ผู้ป่วยโรคนี้งดทานช็อคโกแลต ถั่ว หอย และ เห็ด
5.ภาวะเหล็กเกิน ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็ก
6.ไขมันพอกตับ เกิดจากแอลกอฮอล์ โรคอ้วน หรือการอดอาหารในบางชนิด ควรทานอาหารที่สมดุล

เคล็ดลับวิธีป้องกันดูแลตับให้สุขภาพดี

1.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
2.งดการสูบบุหรี่ ทั้งการสูบเองและควันบุหรี่มือสอง
3.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการไปรับเชื้อไวรัสตับอักเสบ และพยาธิใบไม้ตับ เช่นการรับประทานอาหารดิบๆ, การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน หรือ การใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด
4.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเก่าเก็บ หรือ อาหารแปรรูป และอาหารที่ผ่านการปรุงแต่ง เพราะอาจจะมีสารเคมีปนเปื้อน
5.ไม่ควรรับประทานยาโดยไม่มีการอธิบายอย่างละเอียด หรือซื้อยารับประทานเอง เพ่ราะยาบางตัวอาจจะมีผลข้างเคียงต่อตับได้
6.ออกกำลังกายในระดับความหนักที่เหมาะสม และมีความสม่ำเสมอ
7.มีการควบคุมน้ำหนัก ไม่ปล่อยให้ตัวเองมีรูปร่างอ้วน
8.ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี