xs
xsm
sm
md
lg

ลดความอ้วนให้เห็นผลดี โดยไม่ต้องอดอาหาร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำหรับการลดน้ำหนักที่ถูกต้องนั้น ก็คือการลดไขมันที่มีอยู่ในร่างกายออกไป ให้คงกล้ามเนื้อไว้ และห้ามอดอาหารเด็ดขาด เนื่องจากอาหารถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ภารกิจที่ว่านี้บรรลุลุล่วงไปได้ในที่สุด ฉะนั้นแล้วถ้ามีการ “อดอาหาร” อาจจะส่งผลเสียต่อทั้งร่างกาย และ ภารกิจที่วาดหวังอีกด้วย

ผลเสียของการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร

1.ทำให้มีการเพิ่มการทำลายกล้ามเนื้อและอวัยวะภายใน

การที่คนเราได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน จะทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในส่วนของโปรตีน ที่จะช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักด้วย ซึ่งถ้ามีการอดอาหาร จะทำให้เกิดการสลายกล้ามเนื้อมาใช้งาน สรุป ทานให้ครบ 3 มื้อเหมือนเดิมน่าจะดีกว่า

2.ภูมิต้านทานลดลง

การอดอาหาร จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันมีการรวนไปด้วย อันเนื่องมาจากไม่ได้รับสารอาหารที่ควรจะได้ แม้ว่าถ้าในบางคนจะมีการออกกำลังกายเข้าไปด้วยก็ตามที

3.โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารถามหา

ในร่างกายของเรานั้น ร่างกายจะจัดระบบให้ทำงานเป็นเวลา เมื่อถึงเวลาของมื้ออาหาร ระบบทางเดินอาหารก็จะหลั่งกรดออกมารอย่อย ซึ่งถ้าไม่มีอาหารมาถึงท้อง จะทำให้กรดมาย่อยตัวกระเพาะซะเองซะอย่างงั้น ซึ่งโรคเกี่ยวกับในส่วนนี้ก็จะตามมาอีกด้วย

4.แก่ง่าย เซลส์ในร่างกยมีการแก่เร็ว

ถ้าสารอาหารไม่เพียงพอ ก็ส่งผลต่อเซลส์ต่างๆ ในร่างกายถูกทำลายลงไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องความแก่ชรา คงไม่มีใครยอมใครหรอก ฉะนั้นแล้ว การรับประทานอาหารให้ครบ ก็จะช่วยในเรื่องดังกล่าวนี้

5.อ้วนขึ้นกว่าเดิม

แน่นอนว่าการอดอาหารจะช่วยทำให้มีการลดน้ำหนักอย่างเร็วมาก แต่เชื่อได้เลยว่าจะไม่สามารถทำไปได้ตลอดหรอก เพราะถ้ามีการกลับมาตบะแตกกินอีกครั้ง เผลอๆ จะทำให้กลับมาอ้วนได้ง่ายซะด้วยซ้ำ คราวนี้แหละ จะลดน้ำหนักยากขึ้นไปอีก

เคล็ดลับวิธีลดความอ้วนแบบไม่ต้องอดอาหาร

1.มีการเลือกกินให้มากขึ้น คุมทั้งแป้ง ไขมัน และ น้ำตาล

ควรมีการปรับพฤติกรรมในเรื่องการกิน รู้จักเลือกกินให้มากขึ้น เช่น กินเนื้อสัตว์ส่วนที่ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงส่วนหนัง งดกินเค็ม ของมันของทอด และเปลี่ยนมาทานอาหารที่ใช้วิธีด้วยการต้ม หรือ นึ่ง แทน ลดปริมาณการกินอาหารที่อุดมด้วยแป้ง ไขมัน และน้ำตาล ที่สำคัญควรกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ มีผักผลไม้ทุกวัน แล้วถ้ามีการดื่มนมด้วยแล้ว ควรเลือกดื่มรสธรรมชาติ สูตรพร่องไขมันหรือไขมัน 0% และหลีกเลี่ยงนมที่มีรสหวานจะดีมาก

2.กินข้าวเท่ากับมื้อ กินผักมากกว่าข้าว

ใน 1 มื้อนั้น ถ้าแบ่งการกินเป็น ผัก 2 ส่วน คาร์โบไฮเดรต 1 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน และ ผลไม้ 1 ส่วน จะได้พลังงานประมาณ 400 กิโลแคลอรี่ และช่วยลดพลังงานในแต่ละวันลงได้ 500 กิโลแคลอรี ใน 1 สัปดาห์ จะสามารถลดน้ำหนักลงได้ถึงครึ่งกิโลกรัมเลยทีเดียว ถ้ามีการกินแบบนี้ จะได้ปริมาณผักใน 1 มื้อ ประมาณ 100-200 กรัม

3.ออกกำลังควบคู่ไปด้วย

ควรมีการออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกาย ให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที ด้วยการออกกำลังกายทั้ง 3 แบบ คือ การคาร์ดิโอ มีการใช้แรงต้าน และ การยืดเหยียด

โดยการออกกำลังกายดังกล่าวนั้น จะเน้นการขยับเขยื้อนร่างกายเป็นหลัก ส่วนแรงต้านจะใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง หน้าอก และแรงโน้มถ่วงของร่างกาย เช่น บอดี้เวท เวทเทรนนิ่ง เป็นต้น และอย่างสุดท้าย เพื่อลดการบาดเจ็บและทำให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

4.ลดการกินอาหารบุฟเฟต์

แน่นอนว่าการรับประทานอาหารในลักษณะนี้นั้น จะเน้นในเรื่องของความคุ้มค่าเป็นหลัก จึงทำให้เกิดการทานอาหารในปริมาณที่มาก แต่ก็มีพลังงานจากการทานอาหารที่มากเกินความจำเป็น จึงกลายสภาพเป็นไขมันในรูปแบบพลังงานสำรอง ดังนั้น ถ้ามีการลดทานอาหารในลักษณะนี้ ก็จะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักอีกทางหนึ่งด้วย

5.ทานอาหารเช้าเต็มที่ ทานอาหารเย็นให้เร็วขึ้น

การลดน้ำหนักให้ได้ผล นอกจากจะต้องอาศัยวินัยในการออกกำลังกายแล้ว การทานอาหารก็มีผลอย่างมากเช่นกัน ซี่งมีผลการศึกษาล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา พบว่า การกินอาหารมื้อเช้าให้เต็มที่ และกินมื้อเย็นให้เร็วขึ้น (ไม่เกิน 18.00 น.) เพื่อให้มีระยะเวลาที่ท้องว่างนาน 18 ชั่วโมง คือ จะทำให้มีการลดน้ำหนักที่ได้ผลอย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น