xs
xsm
sm
md
lg

ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ ต่อเนื่อง เปลี่ยนชีวิตที่ดีได้เหลือเชื่อ / ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“ถ้าคุณเกิดมาจน มันไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ถ้าคุณตายไปโดยที่ยังจนอยู่ นั่นแหละมันผิดที่ตัวคุณ” นี่เป็นคำกล่าวของบิล เกตส์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัท Microsoft ธุรกิจเทคโนโลยีชั้นนำของโลก คุณคิดว่าคำพูดนี้บอกความหมายอะไร?

หากเชื่อว่าทุกชีวิตมีโอกาสพัฒนาได้ ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยโชคชะตา จึงมีคนสู้ชีวิตที่ใฝ่หาความก้าวหน้า สามารถพลิกฐานะจากลูกคนจน มาเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศก็มีหลายคน จึงยืนยันได้ว่า แม้เลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็ใฝ่ดี มีความมุ่งมั่นสร้างคุณลักษณะที่ดี จนสามารถเปลี่ยนสถานะ และยกระดับการใช้ชีวิตและจิตใจให้สูงขึ้นได้

ผมขออ้างอิงหนังสือ ATOMIC HABITS : Tiny Changes. Remarkable Results ที่เขียนโดย James Clear มีฉบับภาษาไทย ชื่อปกว่า “เพราะชีวิตดีกว่าที่เป็น : บทพิสูจน์ที่เปลี่ยนชีวิตคุณบทสวดมนต์เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างถาวร” ความเด่นของเนื้อหาและในการนำเสนอที่น่าอ่าน

หนังสือเล่มนี้จึงขายดีมียอดขายหลายล้านเล่มทั่วโลก และมีการแปลเผยแพร่กว่า 40 ภาษา เจมส์ เคลียร์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มีความสนใจศึกษาพฤติกรรมของคน และเห็นความสำคัญของการพัฒนานิสัย ซึ่งมีผลต่อวิถีชีวิตและความสำเร็จทางการงาน หนังสือเล่มนี้

เจมส์อธิบายวิธีการสร้างนิสัยที่ดีขึ้นอยากมีขั้นตอน แล้วเขาได้พิสูจน์ความคิดนี้ด้วยตัวเอง โดยมีการฝึกสร้างนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุขณะลงสนามแข่งเบสบอลเมื่อครั้งเป็นนักเรียน ม.ปลาย

เขาได้พิสูจน์ว่าด้วยความมุ่งมั่นอดทน มีวินัย เราสามารถพลิกฟื้นจากสถานการณ์วิกฤต ค่อยๆ ฝึกฝน จนร่างกายกลับมาแข็งแรง และกลายเป็นนักกีฬาดาวเด่น สร้างชัยชนะ พร้อมรางวัล และเกียรติประวัติอันดีงาม

เพราะ “นิสัย” คือพฤติกรรมหรือกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ ทำซ้ำ ๆ จนกลายเป็นอัตโนมัติ เขาเรียนรู้จากประสบการณ์ว่า เมื่อค่อยๆสร้างกิจวัตรซึ่งอาจดูเป็นการกระทำที่ไม่สำคัญ เป็นนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อทำเสมอต้นเสมอปลาย ทำต่อเนื่อง มันจะค่อยๆสะสมคุณค่า นำไปสู่ผลลัพธ์ หรือการเปลี่ยนแปลง ที่น่าทึ่ง ชนิดคาดไม่ถึงทีเดียว

ตัวอย่างเช่น การทำงานให้ดีขึ้นเพียง 1% ซึ่งแทบไม่มีใครสังเกตเห็น แต่การพัฒนาตัวเองวันละ 1% เมื่อทำทุกวัน ใน 1 ปี จะเกิดผลสะสมความก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิม 37 เท่า

แต่ถ้าทำอะไรแย่ ๆ ลง 1% ทุกวัน ก็เป็น การสร้างนิสัยไม่ดีมากขึ้น และมีโอกาสสร้างผลลัพธ์ติดลบใหญ่โตในอนาคตเช่นกัน

ตัวผมเองก็มีประสบการณ์สั่งสมนิสัยเล็ก ๆ แบบนี้อยู่เหมือนกัน เช่นทุกเช้า ผมจะยืนแกว่งแขน วันละ 200 ครั้ง หลังจากนั้นก็จะ วิดพื้นแบบยืน 45 องศาวันละ 40 ครั้ง ทำเป็นประจำนับ 10 ปี ตอนนี้ก็กลายเป็นนิสัยการดูแล ร่างกายที่ดี ผลลัพธ์ที่เห็นได้ก็คือ ดูมีหน้าอก และพุงลด

จะว่าไปแล้ว การฝึกนิสัยดี ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ยิ่งเราค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทีละน้อย ก็มักจะเห็นผลน้อย หรือจับต้องไม่ได้ บางคนก็มีโอกาสล้มเลิกกลางคัน

ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่มีความหมาย ก็ต้องอดทนฝึกเปลี่ยนพฤติกรรมให้ต่อเนื่องยาวนาน มากพอที่จะผ่านภาวะที่จอนส์เขาเรียกว่า ”ภาวะแห่งศักยภาพที่ซ่อนเร้น”

กระบวนการสร้างนิสัย มี 4 ขั้นตอน ซึ่งหนังสือเล่มนี้อธิบายองค์ประกอบที่ทำให้ เกิดนิสัย ตามลำดับดังนี้

1.ปัจจัยกระตุ้น เพื่อให้สมองสร้างพฤติกรรมบางอย่างซึ่งเป็นตัวเริ่มต้นนำไปสู่ความปรารถนาเพื่อมุ่งหวังรางวัลหรือผลตอบแทนปลายทาง

2.ความปรารถนา หรือความอยากเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง เป็นแรงจูงใจทำให้เกิดนิสัย

3.การตอบสนอง คือการแสดงออก ซึ่งอาจเป็นความคิดหรือการกระทำ

4.รางวัล คือความสมปรารถนาที่ทำให้พอใจ แล้วได้บทเรียนว่าทำแบบใดมีค่าควรจำ


กฎทั้ง 4 ขั้นตอน เมื่อมีองค์ประกอบครบในและทำเป็นกิจวัตรจนเกิดเป็นนิสัยได้ในทุกเรื่อง กฎการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เจมส์แนะนำว่าให้ต่อยอดจากกระบวนการ 4 ขั้นของกฎการสร้างนิสัยที่ดีข้างต้น โดยปรับให้เป็น แนวปฏิบัติได้จริง 4 ขั้นตอนได้แก่

กฎข้อ 1 (ปัจจัยกระตุ้น)---------> ทำให้เห็นชัดเจน

กฎข้อ 2(ความปรารถนา)-------> ทำให้น่าดึงดูดใจ

กฎข้อ 3 (การตอบสนอง)------- > ทำให้เป็นเรื่องง่าย

กฎข้อ 4 (รางวัล) --------------> ทำให้น่าพอใจ

วิธีสร้างนิสัยใหม่ให้เป็นจริงได้อีก เมื่อมีปัจจัยกระตุ้นตามกฎข้อ 1 ที่จะทำให้ “ความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ” เกิดขึ้นได้ ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ระบุวัน เวลา และสถานที่ การลงมือทำ เช่นเขียนข้อความติดให้เห็น ชัดเจนว่า

“ช่วงสัปดาห์หน้า ฉันจะออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 20 นาที ในวันที่…...เวลา…..น ที่……….”

“ฉันจะทำสมาธิ เป็นเวลา 1 นาที ตอน 7:00 น ที่ห้องรับแขก ทุกวันตั้งแต่วันที่……”

อีกประเด็นหนึ่งที่หนังสือเล่มนี้เน้น ก็คือ ให้มุุ่งที่่ “กระบวนการปฏิบัติ” มากกว่า “เป้าหมาย”

เขาอ้างหลักคิดของ Scott Adams นักวาดการ์ตูนเรื่อง Dilbert ว่า เป้าหมาย (Goal) เป็นเรื่องของผลที่คุณต้องการบรรลุ แต่กระบวนการ (Process) คือขั้นตอนปฏิบัติ ที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น ยกตัวอย่างเช่น

โค้ชนักกีฬา เป้าหมาย อาจเป็นการได้แชมป์ ส่วนกระบวนการ คือ วิธีการคัดเลือก ผู้เล่น บริหารผู้ช่วยโค้ช และนำการฝึกซ้อม นักธุรกิจ เป้าหมาย อาจเป็นการสร้างธุรกิจมูลค่าหลายล้าน กระบวนการ คือ การวางแผนผลิตสินค้า บริหารพนักงาน และทำการตลาด

เมื่อ “กระบวนการปฏิบัติ” มีความสำคัญเช่นนี้ พฤติกรรมและการสร้างนิสัยที่ดีของ คนเราจึงเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการนำไปสู่เป้าหมายความสำเร็จนะครับ

..............................................................................
ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ ATOMIC HABITS เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น : บทพิสูจน์ที่เปลี่ยนชีวิตคุณ ให้ดีขึ้นได้อย่างถาวร
ผู้เขียน James Clear
ผู้แปล ประพาฬรัตน์ ยงมานิตชัย
สำนักพิมพ์ Change +


แนะนำหนังสือ

รู้แค่นี้ขายดีทุกอย่าง
ผู้เขียน : สุภกฤษ กุลชาติวิจิตร (โค้ชแบงค์)
สำนักพิมพ์ : I AM THE BEST
ราคา 259 บาท
ผลงานของนักการตลาดชื่อดัง ที่ตกผลึกจากประสบการณ์ตรงในการทำธุรกิจ การให้คำปรึกษา และส่งต่อความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจน กระชับ ตรงไปตรงมา ผ่านช่องทางเพจรู้รอบตอบโจทย์ธุรกิจ ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.8 ล้านคน


ข้อคิดจากอิฐ ๑ ก้อน
ผู้เขียน : กอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร
สำนักพิมพ์ : นานมีบุ๊กส์
ราคา 245 บาท
ถอดบทเรียนชีวิต บันทึกข้อคิด คำคม แรงบันดาลใจ ตลอดจนปรัชญาในการดำเนินชีวิต จากประสบการณ์จริงของผู้หญิงสุดแกร่งและเก่งคนนี้ "กอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร"


Tim Cook อัจฉริยะผู้พาแอปเปิลสู่อนาคตใหม่
ผู้เขียน : Leander Kahney
ผู้แปล : ชัชวนันท์ สันธิเดช
สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ดยูเคชั่น
ราคา 350 บาท
“อย่ายอมอยู่ใต้เงาของใคร จงปลดปล่อยศักยภาพของตัวเองออกมาให้โลกได้ประจักษ์” คือบทเรียนสูงสุดที่ผู้อ่านจะได้รับจากหนังสือ Tim Cook เล่มนี้!


ปลุกพลังหญิงให้ยิ่งใหญ่
ผู้เขียน : เมลินดา เกตส์
ผู้แปล : พลอยแสง เอกญาติ
สำนักพิมพ์ : นานมีบุ๊คส์
ราคา 225 บาท
หนังสือติดอันดับขายดีของ New York Times เล่มนี้ อย่าคิดว่าเขียนมาเพื่อผู้หญิงเท่านั้น นี่คือหนังสือสำหรับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัยที่ต้องการเห็นโลกใบนี้ดีขึ้นและน่าอยู่กว่าที่เป็น ณ ปัจจุบัน




กำลังโหลดความคิดเห็น