มะเร็ง คือโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เกิดเป็นก้อนเนื้อที่มีการลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง หรือกระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ ผ่านทางระบบเลือด หรือระบบทางเดินน้ำเหลือง มะเร็งเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตของคนไทยสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง และยังเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้แทบจะทุกส่วนของร่างกาย ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์มะเร็ง
นอกจากพันธุกรรมที่สามารถสร้างโอกาสในการป่วยเป็นโรคมะเร็งแล้ว พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์จนพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ด้วย
และกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตเหล่านี้ หรือที่เรียกว่ากลุ่มพฤติกรรมที่มะเร็งจะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ได้แก่
1. กลุ่มคนชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
2. กลุ่มคนชอบสูบบุหรี่
3. กลุ่มคนอ้วน
4. กลุ่มคนที่ไม่ทานผักและผลไม้สด
5. กลุ่มคนที่ไม่ออกกำลังกาย
อ่านมาถึงตรงนี้ หากเข้าข่ายกลุ่มพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่ง ก็ถือว่าอันตรายแล้วนะ ต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการ
1. ลดหรืองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งตับ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้เกิดโรคไขมันคั่งในตับ และกลายเป็นโรคตับแข็ง ก่อนที่จะพัฒนาเป็นมะเร็งตับ ทั้งยังเป็นทูเมอร์โปรโมเตอร์ที่เร่งอัตราการเกิดมะเร็งช่องปาก และมะเร็งกล่องเสียงในคนที่สูบบุหรี่ได้ด้วย
2. ลดหรืองดการสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารก่อมะเร็งกว่า 60 ชนิด และยังมีสาร “ทาร์หรือน้ำมันดิบ” ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปอดด้วย นอกจากนี้บุหรี่ยังสามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้อีกหลายชนิด เช่น มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ ฯลฯ
3. ควบคุมโภชนาการและปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ ควรทานแต่พออิ่ม เพราะหากทานอาหารมากเกินไป ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น ทำให้อนุมูลอิสระทำงานเร็วขึ้น สามารถเข้าไปทำลายเซลล์ ส่งผลให้เซลล์เกิดความเสียหายและนำไปสู่การเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง หัวใจและหลอดเลือด แก่ก่อนวัย และโรคอื่น ๆ
4. พยายามทานผักและผลไม้สดให้ได้ครึ่งหนึ่งของปริมารอาหารในอาหารทุกมื้อ เพราะผักผลไม้สดมีสารต้านมะเร็งได้ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และที่สำคัญคือมีเส้นใยอาหาร ที่ช่วยระบบย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร ทำให้การขับถ่ายอยู่ในสภาวะสมดุล
5. ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละไม่ต่ำกว่า 30 นาที การออกกำลังกายช่วยป้องกันมะเร็งได้ ทั้งยังช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขทั้ง 3 ตัว ได้แก่ ซีโรโทนิน ฮอร์โมนที่มีผลต่อความสุข เอ็นดอร์ฟิน ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดี และโดปามีน ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพหลายมาตรการเพื่อป้องกันและส่งเสริมการมีสุขภาพดี หนึ่งในนั้นคือการปลูกฝังสูตร 3 อ. และ 2 ส. ให้ประชาชนพยายามปฏิบัติเป็นนิสัย สูตรนี้สามารถป้องกันได้หลายโรค เช่น เบาหวาน ความดันสูง อ้วน มะเร็ง
โดย 3 อ. คือ อาหาร ต้องไม่กินสุก ๆ ดิบ ๆ และปิ้งย่างรมควัน-ไขมัน ต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ และต้องอารมณ์แจ่มใส ไม่เครียด ส่วน 2 ส. คือ ลดหรืองดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดหรืองดการสูบบุหรี่
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/240#:~:text=มะเร็ง%20คือ%20โรคที่เกิด,และชนิดของเซลล์มะเร็ง
https://www.samitivejhospitals.com/th/โรคจากบุหรี่/#:~:text=HIGHLIGHTS%3A,กับการสูบบุหรี่โดยตรง
https://www.thaihealth.or.th/Content/30208-5%20ปัจจัยเสี่ยง%20สาเหตุป่วยมะเร็ง.html
https://www.cigna.co.th/health-wellness/tip/5-things-your-cancer-risk
http://dna.kps.ku.ac.th/index.php/article-rice-rsc-rgdu/36-free-radicle-antioxidant-anthrocyanidin#:~:text=อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์%20เมื่อร่างกายไม่สามารถผลิต,หลอดเลือดแดง %20และเมื่อมี
ข่าวโดย : รวินท์นิภา แต้เกียรติเจริญกุล
ชมคลิปได้ที่ >>