เรามาถึงยุคนี้แล้ว...เคยสงสัยไหมว่า คนที่เชื่อเรื่อง “พรหมลิขิต” หรือเป็นเพราะชะตากรรม ผลการดำเนินชีวิตและการทำงานจะเป็นอย่างไร
ขณะที่วลีฮิตของนักคอมพิวเตอร์ศาสตร์ Alan Kay ที่บอกว่า...
“วิธีที่ดีที่สุด ในการทำนายอนาคต ก็คือ การสร้างมันขึ้นมาเอง”
เรียกว่าตัวเราเองสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นจริง ไม่ต้องพึ่งคำทำนายของหมอดู ทั้งความสุขและความสำเร็จด้วยหลักคิดว่า...
“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็นแบบใด อยู่ที่ตัวเราเลือกวิถีทาง”
ใช่ครับ สิ่งที่เกิดขึ้นหรือผลลัพธ์เป็นบางครั้งก็อธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ จึงมีคนเชื่อเรื่องพลังลึกลับ หรือเป็นพลังจักรวาล
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุปัจจัยหลักนั้นอยู่ที่ตัวเราแน่นอน ดังที่พระท่านสอนว่า กรรมเก่าเกิดขึ้นแล้ว แก้ไม่ได้ จึงต้องสร้างกรรมใหม่ที่ดีในปัจจุบัน ซึ่งจะกลายเป็นอดีตที่ดีและส่งผลถึงอนาคตที่ดีด้วย
ด้วยวิธีคิดเช่นนี้ ผมจึงเชื่อว่า เราลิขิตชีวิตตัวเองได้ ด้วยการเริ่มต้นคิดดี และทำสิ่งที่มีคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น ตั้งแต่วันนี้เลย
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องนี้ ผมขอกล่าวถึง หนังสือดีเด่นที่ชื่อ SHINE FROM WITHIN “ส่องแสงจรัสจากภายใน” เขียนโดย นิดา เลิศประสพสุข หรือ “โค้ชนิดา” จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ Change+ ในเครือซีเอ็ด
แก่นของหนังสือเล่มนี้ มุ่งให้เพิ่ม “ความนับถือในตัวเอง” (Self-esteem) คือการเห็นคุณค่าในตัวเองที่สะท้อนผ่านการคิดและความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง
คนที่มีความนับถือในตัวเองดี จะคิดเสมอว่า ตัวเองมีดีพอ มีความคิดเชิงบวก มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการใช้ชีวิตและการทำงานที่มีคุณค่า มีความหมายตั้งใจทำให้สำเร็จ แม้เจออุปสรรคหรือมีคนไม่ยอมรับก็ไม่ย่อท้อ
เป็นความรู้สึกว่า เรามีคุณค่าเหมาะสม ที่จะมีความสุขและความสำเร็จในชีวิต อีกทั้งสามารถรับมือกับปัญหาและสิ่งท้าทายต่าง ๆ ในชีวิตได้เป็นอย่างดี
แต่คนที่นับถือในตัวเองก็ไม่ใช่คนที่ “หลงตัวเอง” หรือให้ความสำคัญกับตัวเองเป็นใหญ่ ซึ่งโค้ชนิดาบอกว่า นั่นกลับจะเป็น “ความนับถือในตัวเองแบบปลอม ๆ”
เพราะเมื่อเกิดการสูญเสียสิ่งที่เขายึดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับตัวเอง เช่น รูปร่างหน้าตา ฐานะหรือเกียรติยศชื่อเสียง เขาก็แทบจะรับมือกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ไม่ได้
ขณะเดียวกัน ความนับถือในตัวเอง (Self-esteem) ก็เป็นคนละเรื่องกับ ความมั่นใจในตัวเอง (Self-confidence)
แต่ก็เกี่ยวข้องกัน คือคนที่มีความนับถือในตัวเองที่ดี ก็มักจะมีความมั่นใจในตัวเองที่ดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกมั่นใจนั้น อาจมาจากการสั่งสมทักษะหรือความสามารถที่ทำบางสิ่งได้ดี เช่น นักดนตรี นักกีฬา หรือนักธุรกิจ ซึ่งได้ฝึกฝนเตรียมการและมีประสบการณ์มาดี
แม้รู้สึกมั่นใจในงานที่ทำได้ดี จนเป็นความสำเร็จที่ดูจากภายนอก แต่ก็อาจยังไม่พอใจหรือไม่มีความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ต้องเริ่มจากภายในตัวตน
ที่น่าสนใจที่โค้ชนิดาระบุในหนังสือเล่มนี้ว่า คนในยุคดิจิทัลทุกวันนี้ ภาวะความนับถือในตัวเองมีระดับต่ำกว่าทุกยุคที่ผ่านมาเพราะ
1.ขาดความสุข 2.ขาดเป้าหมายในชีวิต 3.ยังไม่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำเท่าที่ควร 4.ดึงดูดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต 5.มีอาการเศร้าซึม 6.หมดหวังกับชีวิต
ถ้าเช่นนั้นในสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกขณะนี้ คนในสังคมน่าจะเผชิญผลกระทบซ้ำเติมยิ่งขึ้น
ดังนั้น ถ้าเราอยากจะพบความสุขและความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน จึงจำเป็นต้องมีความนับถือในตัวเองที่ดีเป็นพื้นฐาน
ชื่อหนังสือ “ส่องแสงเจิดจรัสจากภายใน” จึงบ่งบอกให้เริ่มเปลี่ยนแปลงที่ภายในเพื่อแสดงความนับถือในตัวเองเป็นสำคัญ ที่ต้องมีความเชื่อมั่น ความไว้ใจตัวเองว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำด้วยเป้าหมายที่ดีต่อตัวเองและผู้อื่นจะนำพาเราไปสู่สิ่งที่ดี
จุดยืนความเชื่อ ความคิดเช่นนี้ ก็จะส่งสัญญาณการสื่อสารผ่านภาษาพูด น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางและภาษากาย ให้คนที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ และเขาย่อมปฏิบัติต่อคุณด้วยความนับถือ เท่าๆ กับตัวคุณที่นับถือตัวเอง
ดังนั้น ไม่ว่าอดีตเราจะเป็นอย่างไร ณ ปัจจุบันก็สามารถพัฒนาให้เกิดความนับถือในตัวเอง คือมีความเชื่อในทางใฝ่สูง ใฝ่ดีและมีพฤติกรรม วิธีการที่ถูกต้อง เป็นธรรม อย่างมีวินัย ก็จะดึงศักยภาพที่ดีที่สุดในตัวออกมา
หนังสือเล่มนี้ซึ่งมี 18 บท ที่ได้สร้างความรู้ความเข้าใจในการเข้าถึงแนวคิดเรื่อง “การนับถือในตัวเอง” อย่างชัดเจนและเชื่อมโยงความเชื่อและผลกระทบ นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ส่งเสริมความเชื่อให้เห็นชัดได้
อย่างเช่นภาพวงจรที่ประกอบบทความนี้ ถ้าเริ่มจาก ความเชื่อ ของคนนี้ว่า “ฉันมีความสามารถ” ก็ส่งผลให้มีความคาดหวังว่า ทำงานได้สำเร็จ ส่งผลให้มีความกระตือรือร้น ทำงานเต็มที่ เต็มใจ จนเกิดผลงานดี จึงไปเสริมสร้างความเชื่อ “ฉันมีความสามารถ”
ลองคิดดู ถ้าคนที่มีความเชื่อเชิงลบ ก็เหมือนแพ้ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเริ่มที่ “ฉันไม่มีความสามารถ” ความคาดหวังก็ “คาดว่าล้มเหลว” จึงทำงานแบบขอไปที ผลงานก็ออกมาไม่ดี จึงไปยืนยันความเชื่อว่า “ฉันไม่มีความสามารถ” นั่นไง
โค้ชนิดาจึงยืนยันว่า จุดเริ่มต้นในการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองสู่การมุ่งทำเป้าหมายให้สำเร็จ ต้องเปลี่ยนที่ความเชื่อของเราก่อน คือเชื่อว่าตัวเองควบคุมชีวิตได้ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น
เมื่อเราเกิดความเชื่อมั่นว่า ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ แม้มันอาจยังไม่เป็นความจริงเต็มร้อย แต่เพราะความเชื่อว่าจะเป็นจริง ก็จะผลักดันให้เรามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตและวิถีการทำงานบางอย่าง เป็นผลให้เกิดเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มเป็นจริง (หรือใกล้เคียง) ตามที่คาดหวังได้
เท่ากับเราได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ตามที่เราพยากรณ์ที่ย้ำความเชื่อของตัวเราได้
ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ : SHINE FROM WITHIN ส่องแสงจรัสจากภายใน
ผู้เขียน : นิดา เลิศประสพสุข
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส
แนะนำหนังสือ
ความลับของอวัยวะทั้ง 5
ผู้เขียน Yasushi Fujimoto (ยะซุชิ ฟุจิโมะโตะ)
ผู้แปล อังคณา รัตนจันทร์
สำนักพิมพ์ : NANMEE BOOKS
ราคา : 165 บาท
"ความลับแห่งอวัยวะทั้งห้า" หนังสือที่จะแนะนำแบบฝึกที่ช่วยให้คุณเข้าใจการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายดียิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้คุณปรับชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรม ฟื้นฟูร่างกายให้หายเหนื่อย
พ่อรวยสอนลูก
ผู้เขียน Robert T. Kiyosaki (โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ)
ผู้แปล จักรพงษ์ เมษพันธุ์, ธนพร ศิริอัตรกรกุล
สำนักพิมพ์ : SE-ED (ซีเอ็ด)
ราคา : 280 บาท
"พ่อรวยสอนลูก" เป็นหนังสือที่บอกเล่าถึงความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าต้องมีเงินมากถึงจะรวยได้ พร้อมความรู้ทางการเงินสำหรับทุกคนที่ต้องการควบคุมอนาคตทางการเงินของตัวเอง
มือเท้าชา รักษาหายได้ด้วยตนเอง!
ผู้เขียนShintaro Sakai (ชินตะโร ซะกะอิ)
ผู้แปล ภัทรสร คูร์พิพัฒน์
สำนักพิมพ์ : NANMEE BOOKS
ราคา : 145 บาท
หนังสือ "มือเท้าชา รักษาหายได้ด้วยตนเอง!" นำเสนอทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคมือเท้าชา ตามแนวทางของ "นายแพทย์ซะกะอิ ชินตะโร" ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดอาการปวด และบาดเจ็บในกระดูกและกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งแนะวิธีดูแลด้วยตัวเองง่าย ๆ เพียง 5 นาทีต่อวัน!
10 วิธีบำบัดความคิดและพฤติกรรม
ผู้เขียน Seth J. Gillihan (เซท เจ. กิลลิแฮน), Ph.D.
ผู้แปล พลอยแสง เอกญาติ
สำนักพิมพ์ : NANMEE BOOKS
ราคา : 245 บาท
หนังสือ "10 วิธีบำบัดความคิดและพฤติกรรม" หนังสือที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้คุณจัดการ โรคซึมเศร้า กลัดกลุ้ม หวาดกลัว วิตกกังวล โกรธ นอนไม่หลับ ฯลฯ ด้วยวิธีง่าย ๆ
Extreme Ownership : How U.S. Navy SEALs Lead and Win
นำธุรกิจ ด้วยวิธีคิดแบบ SEAL
ผู้เขียน Jocko Willink (จ็อคโค วิลลิงค์), Leif Babin (เลฟ เบบิน)
ผู้แปล สรศักดิ์ สุบงกชอ
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส Change+
ราคา : 320 บาท
คุณจะได้สัมผัส "ประสบการณ์การรบ" ที่รามาดี ประเทศอิรัก ผ่านการเล่าของ "จ็อกโค วิลลิงค์" และ "เลฟ บาบิน" จากหน่วย SEAL ทีม 3 โดยจะมีเรื่องราวที่ได้พบเจอมาในสนามรบ สลับกับการนำแง่คิดที่ได้มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ
ขณะที่วลีฮิตของนักคอมพิวเตอร์ศาสตร์ Alan Kay ที่บอกว่า...
“วิธีที่ดีที่สุด ในการทำนายอนาคต ก็คือ การสร้างมันขึ้นมาเอง”
เรียกว่าตัวเราเองสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นจริง ไม่ต้องพึ่งคำทำนายของหมอดู ทั้งความสุขและความสำเร็จด้วยหลักคิดว่า...
“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็นแบบใด อยู่ที่ตัวเราเลือกวิถีทาง”
ใช่ครับ สิ่งที่เกิดขึ้นหรือผลลัพธ์เป็นบางครั้งก็อธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ จึงมีคนเชื่อเรื่องพลังลึกลับ หรือเป็นพลังจักรวาล
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุปัจจัยหลักนั้นอยู่ที่ตัวเราแน่นอน ดังที่พระท่านสอนว่า กรรมเก่าเกิดขึ้นแล้ว แก้ไม่ได้ จึงต้องสร้างกรรมใหม่ที่ดีในปัจจุบัน ซึ่งจะกลายเป็นอดีตที่ดีและส่งผลถึงอนาคตที่ดีด้วย
ด้วยวิธีคิดเช่นนี้ ผมจึงเชื่อว่า เราลิขิตชีวิตตัวเองได้ ด้วยการเริ่มต้นคิดดี และทำสิ่งที่มีคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น ตั้งแต่วันนี้เลย
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องนี้ ผมขอกล่าวถึง หนังสือดีเด่นที่ชื่อ SHINE FROM WITHIN “ส่องแสงจรัสจากภายใน” เขียนโดย นิดา เลิศประสพสุข หรือ “โค้ชนิดา” จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ Change+ ในเครือซีเอ็ด
แก่นของหนังสือเล่มนี้ มุ่งให้เพิ่ม “ความนับถือในตัวเอง” (Self-esteem) คือการเห็นคุณค่าในตัวเองที่สะท้อนผ่านการคิดและความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง
คนที่มีความนับถือในตัวเองดี จะคิดเสมอว่า ตัวเองมีดีพอ มีความคิดเชิงบวก มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการใช้ชีวิตและการทำงานที่มีคุณค่า มีความหมายตั้งใจทำให้สำเร็จ แม้เจออุปสรรคหรือมีคนไม่ยอมรับก็ไม่ย่อท้อ
เป็นความรู้สึกว่า เรามีคุณค่าเหมาะสม ที่จะมีความสุขและความสำเร็จในชีวิต อีกทั้งสามารถรับมือกับปัญหาและสิ่งท้าทายต่าง ๆ ในชีวิตได้เป็นอย่างดี
แต่คนที่นับถือในตัวเองก็ไม่ใช่คนที่ “หลงตัวเอง” หรือให้ความสำคัญกับตัวเองเป็นใหญ่ ซึ่งโค้ชนิดาบอกว่า นั่นกลับจะเป็น “ความนับถือในตัวเองแบบปลอม ๆ”
เพราะเมื่อเกิดการสูญเสียสิ่งที่เขายึดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับตัวเอง เช่น รูปร่างหน้าตา ฐานะหรือเกียรติยศชื่อเสียง เขาก็แทบจะรับมือกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ไม่ได้
ขณะเดียวกัน ความนับถือในตัวเอง (Self-esteem) ก็เป็นคนละเรื่องกับ ความมั่นใจในตัวเอง (Self-confidence)
แต่ก็เกี่ยวข้องกัน คือคนที่มีความนับถือในตัวเองที่ดี ก็มักจะมีความมั่นใจในตัวเองที่ดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกมั่นใจนั้น อาจมาจากการสั่งสมทักษะหรือความสามารถที่ทำบางสิ่งได้ดี เช่น นักดนตรี นักกีฬา หรือนักธุรกิจ ซึ่งได้ฝึกฝนเตรียมการและมีประสบการณ์มาดี
แม้รู้สึกมั่นใจในงานที่ทำได้ดี จนเป็นความสำเร็จที่ดูจากภายนอก แต่ก็อาจยังไม่พอใจหรือไม่มีความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ต้องเริ่มจากภายในตัวตน
ที่น่าสนใจที่โค้ชนิดาระบุในหนังสือเล่มนี้ว่า คนในยุคดิจิทัลทุกวันนี้ ภาวะความนับถือในตัวเองมีระดับต่ำกว่าทุกยุคที่ผ่านมาเพราะ
1.ขาดความสุข 2.ขาดเป้าหมายในชีวิต 3.ยังไม่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำเท่าที่ควร 4.ดึงดูดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต 5.มีอาการเศร้าซึม 6.หมดหวังกับชีวิต
ถ้าเช่นนั้นในสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกขณะนี้ คนในสังคมน่าจะเผชิญผลกระทบซ้ำเติมยิ่งขึ้น
ดังนั้น ถ้าเราอยากจะพบความสุขและความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน จึงจำเป็นต้องมีความนับถือในตัวเองที่ดีเป็นพื้นฐาน
ชื่อหนังสือ “ส่องแสงเจิดจรัสจากภายใน” จึงบ่งบอกให้เริ่มเปลี่ยนแปลงที่ภายในเพื่อแสดงความนับถือในตัวเองเป็นสำคัญ ที่ต้องมีความเชื่อมั่น ความไว้ใจตัวเองว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำด้วยเป้าหมายที่ดีต่อตัวเองและผู้อื่นจะนำพาเราไปสู่สิ่งที่ดี
จุดยืนความเชื่อ ความคิดเช่นนี้ ก็จะส่งสัญญาณการสื่อสารผ่านภาษาพูด น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางและภาษากาย ให้คนที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ และเขาย่อมปฏิบัติต่อคุณด้วยความนับถือ เท่าๆ กับตัวคุณที่นับถือตัวเอง
ดังนั้น ไม่ว่าอดีตเราจะเป็นอย่างไร ณ ปัจจุบันก็สามารถพัฒนาให้เกิดความนับถือในตัวเอง คือมีความเชื่อในทางใฝ่สูง ใฝ่ดีและมีพฤติกรรม วิธีการที่ถูกต้อง เป็นธรรม อย่างมีวินัย ก็จะดึงศักยภาพที่ดีที่สุดในตัวออกมา
หนังสือเล่มนี้ซึ่งมี 18 บท ที่ได้สร้างความรู้ความเข้าใจในการเข้าถึงแนวคิดเรื่อง “การนับถือในตัวเอง” อย่างชัดเจนและเชื่อมโยงความเชื่อและผลกระทบ นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ส่งเสริมความเชื่อให้เห็นชัดได้
อย่างเช่นภาพวงจรที่ประกอบบทความนี้ ถ้าเริ่มจาก ความเชื่อ ของคนนี้ว่า “ฉันมีความสามารถ” ก็ส่งผลให้มีความคาดหวังว่า ทำงานได้สำเร็จ ส่งผลให้มีความกระตือรือร้น ทำงานเต็มที่ เต็มใจ จนเกิดผลงานดี จึงไปเสริมสร้างความเชื่อ “ฉันมีความสามารถ”
ลองคิดดู ถ้าคนที่มีความเชื่อเชิงลบ ก็เหมือนแพ้ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเริ่มที่ “ฉันไม่มีความสามารถ” ความคาดหวังก็ “คาดว่าล้มเหลว” จึงทำงานแบบขอไปที ผลงานก็ออกมาไม่ดี จึงไปยืนยันความเชื่อว่า “ฉันไม่มีความสามารถ” นั่นไง
โค้ชนิดาจึงยืนยันว่า จุดเริ่มต้นในการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองสู่การมุ่งทำเป้าหมายให้สำเร็จ ต้องเปลี่ยนที่ความเชื่อของเราก่อน คือเชื่อว่าตัวเองควบคุมชีวิตได้ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น
เมื่อเราเกิดความเชื่อมั่นว่า ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ แม้มันอาจยังไม่เป็นความจริงเต็มร้อย แต่เพราะความเชื่อว่าจะเป็นจริง ก็จะผลักดันให้เรามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตและวิถีการทำงานบางอย่าง เป็นผลให้เกิดเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มเป็นจริง (หรือใกล้เคียง) ตามที่คาดหวังได้
เท่ากับเราได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ตามที่เราพยากรณ์ที่ย้ำความเชื่อของตัวเราได้
ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ : SHINE FROM WITHIN ส่องแสงจรัสจากภายใน
ผู้เขียน : นิดา เลิศประสพสุข
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส
แนะนำหนังสือ
ความลับของอวัยวะทั้ง 5
ผู้เขียน Yasushi Fujimoto (ยะซุชิ ฟุจิโมะโตะ)
ผู้แปล อังคณา รัตนจันทร์
สำนักพิมพ์ : NANMEE BOOKS
ราคา : 165 บาท
"ความลับแห่งอวัยวะทั้งห้า" หนังสือที่จะแนะนำแบบฝึกที่ช่วยให้คุณเข้าใจการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายดียิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้คุณปรับชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรม ฟื้นฟูร่างกายให้หายเหนื่อย
พ่อรวยสอนลูก
ผู้เขียน Robert T. Kiyosaki (โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ)
ผู้แปล จักรพงษ์ เมษพันธุ์, ธนพร ศิริอัตรกรกุล
สำนักพิมพ์ : SE-ED (ซีเอ็ด)
ราคา : 280 บาท
"พ่อรวยสอนลูก" เป็นหนังสือที่บอกเล่าถึงความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าต้องมีเงินมากถึงจะรวยได้ พร้อมความรู้ทางการเงินสำหรับทุกคนที่ต้องการควบคุมอนาคตทางการเงินของตัวเอง
มือเท้าชา รักษาหายได้ด้วยตนเอง!
ผู้เขียนShintaro Sakai (ชินตะโร ซะกะอิ)
ผู้แปล ภัทรสร คูร์พิพัฒน์
สำนักพิมพ์ : NANMEE BOOKS
ราคา : 145 บาท
หนังสือ "มือเท้าชา รักษาหายได้ด้วยตนเอง!" นำเสนอทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคมือเท้าชา ตามแนวทางของ "นายแพทย์ซะกะอิ ชินตะโร" ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดอาการปวด และบาดเจ็บในกระดูกและกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งแนะวิธีดูแลด้วยตัวเองง่าย ๆ เพียง 5 นาทีต่อวัน!
10 วิธีบำบัดความคิดและพฤติกรรม
ผู้เขียน Seth J. Gillihan (เซท เจ. กิลลิแฮน), Ph.D.
ผู้แปล พลอยแสง เอกญาติ
สำนักพิมพ์ : NANMEE BOOKS
ราคา : 245 บาท
หนังสือ "10 วิธีบำบัดความคิดและพฤติกรรม" หนังสือที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้คุณจัดการ โรคซึมเศร้า กลัดกลุ้ม หวาดกลัว วิตกกังวล โกรธ นอนไม่หลับ ฯลฯ ด้วยวิธีง่าย ๆ
Extreme Ownership : How U.S. Navy SEALs Lead and Win
นำธุรกิจ ด้วยวิธีคิดแบบ SEAL
ผู้เขียน Jocko Willink (จ็อคโค วิลลิงค์), Leif Babin (เลฟ เบบิน)
ผู้แปล สรศักดิ์ สุบงกชอ
สำนักพิมพ์ : เชนจ์พลัส Change+
ราคา : 320 บาท
คุณจะได้สัมผัส "ประสบการณ์การรบ" ที่รามาดี ประเทศอิรัก ผ่านการเล่าของ "จ็อกโค วิลลิงค์" และ "เลฟ บาบิน" จากหน่วย SEAL ทีม 3 โดยจะมีเรื่องราวที่ได้พบเจอมาในสนามรบ สลับกับการนำแง่คิดที่ได้มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ