“โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่”ถือได้ว่าเป็นอีกโรคหนึ่งที่สามารถพบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และอาการของโรคนั้น แทบจะไม่รู้สึกว่ามีอาการเลย เพราะสืบเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานั้น อาจจะทำให้ไม่รู้สึกว่ามีอาการได้ ซึ่งหากเรารู้ว่ากำลังจะเป็นโรค หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นนั้น มันก็ยังไม่สายเกินไปที่จะป้องกันหรือตั้งรับจากอาการป่วยที่ว่านี้
สังเกตอาการที่จะเสี่ยงโรค
สำหรับอาการของโรคมะเร็งลำไส้นั้น เริ่มด้วยมีความผิดปกติในระหว่างการขับถ่าย กล่าวคือ จะมีการขับถ่ายที่ปนมาด้วยทั้งเลือด หรือ มีมูกปนมาด้วย หรือหากมีการท้องเสียและท้องผูกสลับกันบ่อยๆ อุจจาระก้อนเล็กลง ซึ่งถ้ามีอาการที่ว่านี้มาทั้งหมดนั้น นี่แหละคือสัญญาณนำชี้ว่ามีการเข้าข่ายว่าเป็นโรคดังกล่าวขึ้น ซึ่งผู้ป่วยบางรายจะไปพบแพทย์ก็ต่อเมื่อ มีอาการน้ำหนักลด เบื่ออาหาร หรือ ตัวซีดแบบไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ในบางรายอาจจะช้าเกินไปก็เป็นได้
หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดโรค
แน่นอนว่า โรคดังกล่าวจุดเริ่มต้นก็มาจากเรื่องการบริโภคเป็นหลัก แต่จะดีไหมที่หากหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดโรค ฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า อาหารประเภทใดที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดโรคที่ว่านี้
- อาหารรสจัด : โดยเฉพาะอาหารเค็มจัด และ อาหารหมักดองที่ใช้เกลือจำนวนมาก จะทำให้ความดันเลือดสูง
- อาหารที่มีไขมันสูง : จะก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ทั้งน้ำหนักตัวเกิน, ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เช่น เนื้อติดมัน ไขมันสัตว์ เนย และกะทิ
- เนื้อแดงในปริมาณมาก : จะส่งผลทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และจะก่อให้เกิดโรคได้
- อาหารทอดหรือปิ้งย่าง : โดยเฉพาะอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ หรือ ปิ้งย่างจนไหม้เกรียม หากจะกินควรตัดส่วนที่ไหม้เกรียมทิ้ง
- อาหารที่ขึ้นรา : เช่น พริกแห้ง กระเทียม และถั่วลิสง
- อาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ : หากอาหารประเภทนี้ไม่ผ่านการปรุงอาหารที่ทำให้เกิดการติดเชื้อพยาธิ จะส่งผลเกิดอาการเรื้อรังเช่นเดียวกัน
วิธีป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ส่วนวิธีป้องกันของโรคดังกล่าวนั้น ทำได้โดยหลีกเลี่ยงการรับประทานที่ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงทั้งหลาย หรือ อาหารที่ก่อให้เกิดสารมะเร็ง แล้วมารับประทานอาหารที่ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจำพวกผัก เช่น แครอท ผักใบเขียว ฟักทอง อีกทั้งควรออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
โดยวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องนั้น ชีพจรจะต้องเต้นเร็วขึ้น ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจนั้น ควรเป็นสูตร (220-อายุ) คูณด้วย 80% และต้องมีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง 20-40 นาที ขณะเดียวกัน การรับประทานแอสไพรินต่อเนื่องนาน ๆ ก็มีผลช่วยป้องกันมะเร็งได้