หลายๆ คน โดยเฉพาะสายออกกำลังกายนั้น อาจจะมีความกังวลเหมือนกันว่า ตกลงแล้วจะควรใส่หน้ากากอนามัยออกกำลังกายดีหรือไม่ เพราะมันก็มีส่วนช่วยป้องกันภัยให้กับตัวเองได้ แต่มันก็ทำให้อึดอัดในระหว่างการทำเช่นเดียวกัน แต่ข้อมูลที่แท้จริงนั้นเป็นยังไงบ้าง รามาหาตำตอบกันพร้อมๆ กันดีกว่า
สำหรับผลดีของการใส่หน้ากากอนามัยแล้วมาออกกำลังกายนั้น หนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทม์ ได้นำเสนอรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าการออกกำลังกายกลางแจ้ง ไม่ว่าจะมีหน้ากากอนามัย หรือไม่มีก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ปลอดภัย ซึ่ง อ. เบนจามิน คาวลิง อาจารย์ผู้สอนวิชาระบาดวิทยาและชีวสถิติ จาก University of Hong Kong ได้บอกว่า การวิ่งถือว่าดีต่อสุขภาพของเรา แถมโอกาสการแพร่หรือติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระหว่างการวิ่งนั้นก็มีน้อย แต่แน่นอนว่าผู้ที่สวมหน้ากากในระหว่างการวิ่งนั้น ความหนาและวัสดุที่ใช้สำหรับหน้ากาก ก็ย่อมส่งผลต่อการหายใจด้วยเช่นกัน
แต่ผลเสียก็มีด้วย กล่าวคือ นายแพทย์ลูวิส ฟิลิปเป้ บูเลต ศาสตราจารย์ทางด้านโรคปอดและหัวใจ ของมหาวิทยาลัยลาวาล และ นายแพทย์แกรนท์ ลิปแมน แพทย์ประจำห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่า หน้ากากอาจจะสะสมความชื้นจากเหงื่อทำให้หายใจยากขึ้น อีกทั้งถ้ามีการชื้นบนหน้ากากก็จะมีการเสียประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรค รวมถึงถ้ามีการไม่กระชับบนหน้ากาก อาจจะทำให้เกิดฝ้าที่เลนส์ รวมถึงสร้างความรำคาญขึ้นได้ด้วย
สอดคล้องกับคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจก็คือ หากมีระบบปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจหรือระบบหายใจ หน้ากากจะลดปริมาณอากาศที่เข้าสู่ปอด ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราการเผาผลาญและเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคลสเป็นพลังงานต่ำลง และก็จะทำให้เหนื่อยง่ายขึ้นด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อแนะนำด้วย กล่าวคือ เกรสัน วิคแฮม นักกายภาพบำบัดและครูฝึกด้านการออกกำลังกาย บอกว่า คนที่ใส่หน้ากากขณะที่ออกกำลังกาย ควรหมั่นตรวจสอบสภาพตัวเองว่ามีอาการวิงเวียน รู้สึกชา หรือหายใจไม่ออกหรือไม่ และมีการปรับให้เหมาะสม