เพราะความแก่มันน่ากลัว ความเสื่อมถอยของร่างกายก็ไม่มีใครปรารถนา
แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ เพื่อที่เราจะได้มีทั้งชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพดี และมีความสุข?
ค้นหาคำตอบนี้ได้ จากคุณหมอผู้รู้จริงใน Anti-Aging “แพทย์หญิงจิรา ถาวรประดิษฐ์” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย BDMS Wellness Clinic ที่จะพาเราไปทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในศาสตร์แห่ง Anti-Aging พร้อมทั้งเริ่มต้นสู่การเป็นคนสุขภาพดี ด้วยวิทยาการความรู้และเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ในเบื้องต้น ขอให้คุณหมอช่วยอธิบายว่า Anti-Aging นี้คืออะไร?
Anti-Aging คือเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งมีเป้าหมายในการช่วยเหลือมนุษย์ในการชะลอความเสื่อมของร่างกาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือความแก่ โดย Anti-Aging พยายามลงลึกเข้าไปศึกษาตรวจสอบดูว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้างที่นำไปสู่ความเสื่อมของร่างกาย พร้อมทั้งหาทฤษฎีต่างๆ ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้ความเสื่อมนั้นเกิดช้าลง อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของ Anti-Aging ไม่เพียงจะช่วยให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขึ้น และช่วยให้เกิดความเสื่อม ความถดถอย ช้าลง แต่ยังจะทำให้ “คุณภาพชีวิต” ของมนุษย์เรายืนยาวขึ้นด้วย
Health Longer ก็ต้องบวกไปด้วย Healthy และ Happiness สามคำนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับศาสตร์นี้ คือ มีชีวิตยืนยาว สุขภาพต้องดี และมีความสุข และสามคำนี้ก็เป็นหัวใจสำคัญของ BDMS Wellness Clinic ที่เราอยากให้ทุกคนที่มาที่นี่ ได้รับกลับไป
จาก 3 คำสำคัญดังกล่าวนั้น ที่นี่มีกระบวนการอย่างไรบ้างเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้มีทั้งชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพดี และมีความสุข?
ต้องบอกว่า การดูแลสุขภาพของที่นี่ ได้รับรางวัลด้านการดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยม (Integrated Health and Wellness Service Provider of the Year in Asia Pacific 2019) เพราะว่าศูนย์ของเราเป็นการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร สิ่งต่างๆ ที่เราดีไซน์ออกมา นอกจากการมีสุขภาพที่ดีแล้ว เราอยากจะให้มีการค้นคว้าการป้องกันมากขึ้น ซึ่งทางผู้จัดงาน “2019 APAC Medical Aesthetics and Wellness Summit” เขาก็เห็นผลงานของเรา และทำให้ BDMS Wellness Clinic ได้รับรางวัล
กระบวนการดูแลสุขภาพของเราเริ่มตั้งแต่ทำความเข้าใจขอบเขตของสุขภาพก่อน ซึ่งอย่างแรกสุด ก็คือต้องไม่มีโรค ต้องไม่มีน้ำตาลในเลือดสูง เพราะถ้ามีสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้ร่างกายเราป่วยได้ง่ายมากขึ้น เสื่อมเร็วขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ถ้าเราไม่มีโรค ก็อาจจะไม่ได้หมายความว่าสุขภาพเราดี เพราะบางคน ถึงไม่มีโรค แต่รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ค่อยมีแรง มีลูกยาก ปวดหัวบ้างเป็นบางครั้ง ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ อาการต่างๆ เหล่านี้ เป็นอาการที่ฟ้องว่า ร่างกายของเรายังไม่ถึงขั้นเป็น Wellness หรือเปล่า
ที่นี่จะมีโปรแกรมการตรวจในระดับลงลึกเลยว่า สิ่งที่คนๆ นั้นทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การพักผ่อน การใช้ชีวิต มันเหมาะสมกับร่างกายในการชะลอความเสื่อมหรือยัง เราตรวจลงไปลึกถึงระดับโมเลกุล ยีน เพื่อนำมาวินิจฉัยว่าเราได้เข้าไปสู่การบาลานซ์ในทุกๆ จุดแล้วหรือยัง
พาร์ทแรกสุดที่เราจะช่วยดูแลให้ก็คือ ทำอย่างไรไม่ให้มีโรค เช่น คุณไม่มีโรคเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ฯลฯ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีโรค ไม่ว่าจะโรคใดก็ตาม เรามีเครือข่ายของโรงพยาบาลอย่างรอบด้านทุกโรค มี Specialist ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เรามี Integrative Cardiologist ช่วยดูว่าร่างกายของคุณในระบบหัวใจ เส้นเลือด ตอนนี้อยู่ในภาวะที่แข็งแรงหรือเปล่า ทางเดินอาหาร ก็จะมีหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านทางเดินอาหารมาช่วยตรวจดูว่าทางเดินอาหารของคุณแข็งแรงหรือเปล่า ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีติ่งเนื้อ ไม่มีมะเร็งทางเดินอาหาร หรือแม้แต่ Neuroprotection ที่ช่วยดูว่าระบบประสาทต่างๆ ของเราจะป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างไร
พาร์ทที่สอง เราจะตรวจดูว่าฮอร์โมนระดับต่างๆ ในร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง วิตามินเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อบาลานซ์ไม่ให้เกิดความเสื่อมในร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระ ความยาวของเทโลเมียร์ ยีน ของคุณเป็นอย่างไร คุณควรทานอาหารแบบนี้ ไม่ควรทานแบบนี้ หรืออาหารแบบไหนที่ต้องระมัดระวัง เราก็จะมาดีไซน์ให้ โดยทีมที่ต้องบอกว่า ครบวงจรมากๆ
สเตปถัดไป...เมื่อเรารู้เกี่ยวกับร่างกายของคนๆ นั้นแล้ว เราก็จะสร้างเสริมต่อไป ด้วยวิธีการที่จะดูแลให้ร่างกายเขาแข็งแรง เช่น ถ้าเขาเป็นหวัดเป็นประจำ เราก็ต้องหาวิธีสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายเขาแข็งแรง ต้านหวัดได้ ตรงนี้เอง คุณหมอก็จะเข้ามาดูแลว่า ไลฟ์สไตล์แบบไหนที่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน การจัด Customized Vitamins ให้เหมาะกับร่างกายของคนๆ นั้น ก็เป็นหัวใจสำคัญ เพราะวิตามินนั้นมีประโยชน์ แต่ถ้าทานเยอะเกินไป ก็อาจทำให้เกิดโทษได้ วิตามินบางตัวอาจจะไม่เป็นอันตราย แต่ทำให้ไตของเราทำงานหนักขึ้น บางตัวหนักกว่านั้น คือมีสารปนเปื้อน มีโลหะหนัก มีการผลิตที่ไม่ดี ก็เป็นอันตรายได้ ฉะนั้นแล้ว เราจึงมี Customized Vitamins คือวิตามินเฉพาะบุคคลที่จัดตามความต้องการของแต่ละคน ตามผลเลือดที่ออกมา
นอกจากนี้แล้ว คลินิกเสริมสร้างและฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (Musculoskeletal and Sports Clinic BDMS Wellness Clinic) ก็เป็นพระเอกของเราอีกอย่างหนึ่ง โดยมีทีมแพทย์เข้ามาดูแลว่า คนๆ นี้จะออกกำลังกายแบบไหน ที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บน้อยที่สุด หรือถ้ามีการบาดเจ็บแล้ว จะเคลื่อนไหวอย่างไร ให้เหมาะสมกับเขามากที่สุด เช่น บางคนเจ็บเข่า หรือหลายคนก็ถูกหมอสั่งว่าห้ามออกกำลังกายนะ แต่พอผ่านไปสามเดือน ปรากฏว่ากล้ามเนื้อลีบ ซึ่งจริงๆ แล้ว การเคลื่อนไหวร่างกายที่ถูกต้องเหมาะสม ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ Healing Process ของคนๆ นั้นดีขึ้น
และที่สำคัญ เรามีแมทชีนตัวหนึ่งชื่อว่า “เดวิด” เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ช่วยคำนวณและออกแบบการออกกำลังกายให้ถูกต้องเหมาะสม ให้เคลื่อนไหวถูกมุม ถูกองศา โดยมี “ดร.จีรี โวด์แรค” อดีตประธานฝ่ายแพทย์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มาช่วยดีไซน์โปรแกรมต่างๆ ให้ เพราะเราเชื่อว่า Exercise is Medicine คือออกกำลังกายอย่างไรให้เหมาะสม และเป็นยากับร่างกาย และหลังจากออกกำลังกายแล้ว ก็จะมี Physical Therapy เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อมีการผ่อนคลาย
จากที่คุณหมอเล่ามาทั้งหมด ก็คือตอบโจทย์ Anti-Aging แบบครบครันและครบวงจรเลยทีเดียว
ใช่ค่ะ และจริงๆ ยังมีอีกหลาย Area ที่เรามีรองรับไว้ ซึ่งหมอขอพูดถึงเพิ่มเติมอีกสักนิดในส่วนของการเจาะเลือด ซึ่งเรามีการเจาะลึกในการดูความยาวของสายดีเอ็นเอของเราว่า ปลายสายที่เรียกว่าเทโลเมียร์ มันสั้น เร็ว หรือช้าแค่ไหน ถ้าสั้น เร็ว หมายถึงความเสื่อมของร่างกายเกิดขึ้นเร็ว ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่า สิ่งที่เราดูแลมาในแต่ละปี มัน Success ในระดับของโมเลกุล ในระดับของเซลล์หรือเปล่า ถ้าดูแลได้ดี ความยาวของเทโลเมียร์ยาวขึ้น แสดงว่าเราบาลานซ์ร่างกายเราได้ดีแล้ว อย่างนี้เป็นต้น แต่จริงๆ มีแล็ปสเปเชี่ยลอีกหลายตัวที่จะช่วยชี้วัดว่าเราอยู่ในระดับไหนอย่างไร
พอเราดูแลร่างกายข้างในของเราดีแล้ว กล้ามเนื้อยังไม่พอ กล้ามเนื้อเราน้อยเกินไป น้ำหนักเราอยู่ในขอบเขตที่ดี แต่ Fat เยอะเกินไป ก็บอกไม่ได้ว่าร่างกายเราแข็งแรง ฉะนั้น ก็จำเป็นต้องมี Weight Management ซึ่งเป็นอีก Area ที่เราเชี่ยวชาญมากๆ โดยมีเครื่องสแกนที่ชื่อว่า DXA Whole Body Scan จะสแกนออกมาให้เห็นเลยว่า กล้ามเนื้อมีอยู่เท่าไหร่ ความหนาแน่นกระดูกมีอยู่เท่าไหร่ Fat เรามีอยู่เท่าไหร่ เมื่อไหร่ที่น้ำหนักตัวเราอยู่ในขอบเขตที่ BMI 18.5-20 และ 25 แล้ว แต่กล้ามเนื้อเราน้อย ไขมันเยอะ คนๆ นั้นก็ไม่แข็งแรง เพราะสิ่งหนึ่งที่เราพบในปัจจุบันก็คือ หลังจากที่ประจำเดือนหมด กล้ามเนื้อเราจะลดลงไปเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นสาเหตุที่ว่า กว่าจะลุกจะยืน ก็ยาก ขึ้นบันไดก็ยาก หรือพอล้ม กระดูกก็หักทันที เพราะการทรงตัวของกล้ามเนื้อมันน้อยลงไป
เพราะฉะนั้น ในแต่ละปี เราก็จะมีการชี้วัดและทำอย่างไรให้ร่างกายของเรามีกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน อยู่ในระดับที่เหมาะสม น้ำหนักเยอะเกินไป จะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงของโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือด) ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตและเป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตเยอะมากในปัจจุบัน ฉะนั้น Weight Management ก็เป็นอีกสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและคำนึง และต้องรู้ว่าสิ่งที่เราทำ มันเหมาะสมกับร่างกายเราหรือยัง
สรุปแล้วก็คือ ที่นี่เราดูแลตั้งแต่ระดับ Disease (โรค) ไปจนถึง Wellness (การมีสุขภาพที่ดี) ซึ่งสามารถสร้างได้ด้วยวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน
ดูแลสุขภาพคนอื่นมามาก สำหรับคุณหมอ มีเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพตนเองอย่างไรบ้าง?
คือหมอมีความรู้เยอะในด้าน Disease มาแต่แรก ฉะนั้นแล้ว เราก็จะเน้นการรักษา การดูแล แต่เมื่อเรามีความรู้มากขึ้น เราก็ใส่ใจเรื่องการกิน เราอาจจะไม่ได้กินเป๊ะๆ แต่ก็มีการไดเอทบ้าง สอง ออกกำลังกาย บางครั้งมันไม่ใช่เพียงการออกกำลังกาย แต่มันขึ้นอยู่กับ Physical Activityอย่างเช่นการเดิน เดินอย่างไรให้แอ็กทีฟหรือแอ็กชั่นได้ และอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ คือเรื่อง Mind & Body เช่น ความเครียด ทุกคนมีความเครียดอยู่แล้ว พอมีความเครียด เราจะจัดการอย่างไรให้เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายของเราเกิดบาลานซ์ที่ดีที่สุด
หมอคิดว่า การดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ทุกคนพอรู้และทำได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกที่จะทำอะไรก่อนและหลัง งานหมอก็เยอะเหมือนกัน แต่เราก็ให้ความสำคัญและดูแล ใช้เวลาไม่เยอะเลยนะคะ เพียงแต่ว่าเราต้องใส่เข้าไปในตารางชีวิต
เริ่มเปลี่ยนวันละหนึ่งองศา เมื่อเวลาผ่านไป หนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี เราจะเห็นทางแยกที่ชัดเจน ฉะนั้น ปรับวันละนิด สร้างทาร์เก็ตวันละหน่อย แล้วมันจะฮิตทาร์เก็ต เมื่อเวลาผ่านไป หนึ่งปี สองปี สามปี ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะทำ ส่วนเมื่อไหร่ที่พร้อม อยากจะหาโค้ช หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ มาคุยกันได้ค่ะ
ที่ BDMS มีไกด์และโค้ชผู้เชี่ยวชาญ และเราก็พยายามทำให้ง่ายที่สุด เพื่อให้ผู้ที่มา สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ สนุกกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น แต่อาจจะมีกติกาเล็กๆ น้อยๆ นิดนึงนะคะ (ยิ้ม)
แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ เพื่อที่เราจะได้มีทั้งชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพดี และมีความสุข?
ค้นหาคำตอบนี้ได้ จากคุณหมอผู้รู้จริงใน Anti-Aging “แพทย์หญิงจิรา ถาวรประดิษฐ์” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย BDMS Wellness Clinic ที่จะพาเราไปทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในศาสตร์แห่ง Anti-Aging พร้อมทั้งเริ่มต้นสู่การเป็นคนสุขภาพดี ด้วยวิทยาการความรู้และเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ในเบื้องต้น ขอให้คุณหมอช่วยอธิบายว่า Anti-Aging นี้คืออะไร?
Anti-Aging คือเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งมีเป้าหมายในการช่วยเหลือมนุษย์ในการชะลอความเสื่อมของร่างกาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือความแก่ โดย Anti-Aging พยายามลงลึกเข้าไปศึกษาตรวจสอบดูว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้างที่นำไปสู่ความเสื่อมของร่างกาย พร้อมทั้งหาทฤษฎีต่างๆ ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้ความเสื่อมนั้นเกิดช้าลง อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของ Anti-Aging ไม่เพียงจะช่วยให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขึ้น และช่วยให้เกิดความเสื่อม ความถดถอย ช้าลง แต่ยังจะทำให้ “คุณภาพชีวิต” ของมนุษย์เรายืนยาวขึ้นด้วย
Health Longer ก็ต้องบวกไปด้วย Healthy และ Happiness สามคำนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับศาสตร์นี้ คือ มีชีวิตยืนยาว สุขภาพต้องดี และมีความสุข และสามคำนี้ก็เป็นหัวใจสำคัญของ BDMS Wellness Clinic ที่เราอยากให้ทุกคนที่มาที่นี่ ได้รับกลับไป
จาก 3 คำสำคัญดังกล่าวนั้น ที่นี่มีกระบวนการอย่างไรบ้างเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้มีทั้งชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพดี และมีความสุข?
ต้องบอกว่า การดูแลสุขภาพของที่นี่ ได้รับรางวัลด้านการดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยม (Integrated Health and Wellness Service Provider of the Year in Asia Pacific 2019) เพราะว่าศูนย์ของเราเป็นการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร สิ่งต่างๆ ที่เราดีไซน์ออกมา นอกจากการมีสุขภาพที่ดีแล้ว เราอยากจะให้มีการค้นคว้าการป้องกันมากขึ้น ซึ่งทางผู้จัดงาน “2019 APAC Medical Aesthetics and Wellness Summit” เขาก็เห็นผลงานของเรา และทำให้ BDMS Wellness Clinic ได้รับรางวัล
กระบวนการดูแลสุขภาพของเราเริ่มตั้งแต่ทำความเข้าใจขอบเขตของสุขภาพก่อน ซึ่งอย่างแรกสุด ก็คือต้องไม่มีโรค ต้องไม่มีน้ำตาลในเลือดสูง เพราะถ้ามีสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้ร่างกายเราป่วยได้ง่ายมากขึ้น เสื่อมเร็วขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ถ้าเราไม่มีโรค ก็อาจจะไม่ได้หมายความว่าสุขภาพเราดี เพราะบางคน ถึงไม่มีโรค แต่รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ค่อยมีแรง มีลูกยาก ปวดหัวบ้างเป็นบางครั้ง ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ อาการต่างๆ เหล่านี้ เป็นอาการที่ฟ้องว่า ร่างกายของเรายังไม่ถึงขั้นเป็น Wellness หรือเปล่า
ที่นี่จะมีโปรแกรมการตรวจในระดับลงลึกเลยว่า สิ่งที่คนๆ นั้นทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การพักผ่อน การใช้ชีวิต มันเหมาะสมกับร่างกายในการชะลอความเสื่อมหรือยัง เราตรวจลงไปลึกถึงระดับโมเลกุล ยีน เพื่อนำมาวินิจฉัยว่าเราได้เข้าไปสู่การบาลานซ์ในทุกๆ จุดแล้วหรือยัง
พาร์ทแรกสุดที่เราจะช่วยดูแลให้ก็คือ ทำอย่างไรไม่ให้มีโรค เช่น คุณไม่มีโรคเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ฯลฯ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีโรค ไม่ว่าจะโรคใดก็ตาม เรามีเครือข่ายของโรงพยาบาลอย่างรอบด้านทุกโรค มี Specialist ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เรามี Integrative Cardiologist ช่วยดูว่าร่างกายของคุณในระบบหัวใจ เส้นเลือด ตอนนี้อยู่ในภาวะที่แข็งแรงหรือเปล่า ทางเดินอาหาร ก็จะมีหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านทางเดินอาหารมาช่วยตรวจดูว่าทางเดินอาหารของคุณแข็งแรงหรือเปล่า ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีติ่งเนื้อ ไม่มีมะเร็งทางเดินอาหาร หรือแม้แต่ Neuroprotection ที่ช่วยดูว่าระบบประสาทต่างๆ ของเราจะป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างไร
พาร์ทที่สอง เราจะตรวจดูว่าฮอร์โมนระดับต่างๆ ในร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง วิตามินเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อบาลานซ์ไม่ให้เกิดความเสื่อมในร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระ ความยาวของเทโลเมียร์ ยีน ของคุณเป็นอย่างไร คุณควรทานอาหารแบบนี้ ไม่ควรทานแบบนี้ หรืออาหารแบบไหนที่ต้องระมัดระวัง เราก็จะมาดีไซน์ให้ โดยทีมที่ต้องบอกว่า ครบวงจรมากๆ
สเตปถัดไป...เมื่อเรารู้เกี่ยวกับร่างกายของคนๆ นั้นแล้ว เราก็จะสร้างเสริมต่อไป ด้วยวิธีการที่จะดูแลให้ร่างกายเขาแข็งแรง เช่น ถ้าเขาเป็นหวัดเป็นประจำ เราก็ต้องหาวิธีสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายเขาแข็งแรง ต้านหวัดได้ ตรงนี้เอง คุณหมอก็จะเข้ามาดูแลว่า ไลฟ์สไตล์แบบไหนที่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน การจัด Customized Vitamins ให้เหมาะกับร่างกายของคนๆ นั้น ก็เป็นหัวใจสำคัญ เพราะวิตามินนั้นมีประโยชน์ แต่ถ้าทานเยอะเกินไป ก็อาจทำให้เกิดโทษได้ วิตามินบางตัวอาจจะไม่เป็นอันตราย แต่ทำให้ไตของเราทำงานหนักขึ้น บางตัวหนักกว่านั้น คือมีสารปนเปื้อน มีโลหะหนัก มีการผลิตที่ไม่ดี ก็เป็นอันตรายได้ ฉะนั้นแล้ว เราจึงมี Customized Vitamins คือวิตามินเฉพาะบุคคลที่จัดตามความต้องการของแต่ละคน ตามผลเลือดที่ออกมา
นอกจากนี้แล้ว คลินิกเสริมสร้างและฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (Musculoskeletal and Sports Clinic BDMS Wellness Clinic) ก็เป็นพระเอกของเราอีกอย่างหนึ่ง โดยมีทีมแพทย์เข้ามาดูแลว่า คนๆ นี้จะออกกำลังกายแบบไหน ที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บน้อยที่สุด หรือถ้ามีการบาดเจ็บแล้ว จะเคลื่อนไหวอย่างไร ให้เหมาะสมกับเขามากที่สุด เช่น บางคนเจ็บเข่า หรือหลายคนก็ถูกหมอสั่งว่าห้ามออกกำลังกายนะ แต่พอผ่านไปสามเดือน ปรากฏว่ากล้ามเนื้อลีบ ซึ่งจริงๆ แล้ว การเคลื่อนไหวร่างกายที่ถูกต้องเหมาะสม ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ Healing Process ของคนๆ นั้นดีขึ้น
และที่สำคัญ เรามีแมทชีนตัวหนึ่งชื่อว่า “เดวิด” เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ช่วยคำนวณและออกแบบการออกกำลังกายให้ถูกต้องเหมาะสม ให้เคลื่อนไหวถูกมุม ถูกองศา โดยมี “ดร.จีรี โวด์แรค” อดีตประธานฝ่ายแพทย์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มาช่วยดีไซน์โปรแกรมต่างๆ ให้ เพราะเราเชื่อว่า Exercise is Medicine คือออกกำลังกายอย่างไรให้เหมาะสม และเป็นยากับร่างกาย และหลังจากออกกำลังกายแล้ว ก็จะมี Physical Therapy เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อมีการผ่อนคลาย
จากที่คุณหมอเล่ามาทั้งหมด ก็คือตอบโจทย์ Anti-Aging แบบครบครันและครบวงจรเลยทีเดียว
ใช่ค่ะ และจริงๆ ยังมีอีกหลาย Area ที่เรามีรองรับไว้ ซึ่งหมอขอพูดถึงเพิ่มเติมอีกสักนิดในส่วนของการเจาะเลือด ซึ่งเรามีการเจาะลึกในการดูความยาวของสายดีเอ็นเอของเราว่า ปลายสายที่เรียกว่าเทโลเมียร์ มันสั้น เร็ว หรือช้าแค่ไหน ถ้าสั้น เร็ว หมายถึงความเสื่อมของร่างกายเกิดขึ้นเร็ว ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่า สิ่งที่เราดูแลมาในแต่ละปี มัน Success ในระดับของโมเลกุล ในระดับของเซลล์หรือเปล่า ถ้าดูแลได้ดี ความยาวของเทโลเมียร์ยาวขึ้น แสดงว่าเราบาลานซ์ร่างกายเราได้ดีแล้ว อย่างนี้เป็นต้น แต่จริงๆ มีแล็ปสเปเชี่ยลอีกหลายตัวที่จะช่วยชี้วัดว่าเราอยู่ในระดับไหนอย่างไร
พอเราดูแลร่างกายข้างในของเราดีแล้ว กล้ามเนื้อยังไม่พอ กล้ามเนื้อเราน้อยเกินไป น้ำหนักเราอยู่ในขอบเขตที่ดี แต่ Fat เยอะเกินไป ก็บอกไม่ได้ว่าร่างกายเราแข็งแรง ฉะนั้น ก็จำเป็นต้องมี Weight Management ซึ่งเป็นอีก Area ที่เราเชี่ยวชาญมากๆ โดยมีเครื่องสแกนที่ชื่อว่า DXA Whole Body Scan จะสแกนออกมาให้เห็นเลยว่า กล้ามเนื้อมีอยู่เท่าไหร่ ความหนาแน่นกระดูกมีอยู่เท่าไหร่ Fat เรามีอยู่เท่าไหร่ เมื่อไหร่ที่น้ำหนักตัวเราอยู่ในขอบเขตที่ BMI 18.5-20 และ 25 แล้ว แต่กล้ามเนื้อเราน้อย ไขมันเยอะ คนๆ นั้นก็ไม่แข็งแรง เพราะสิ่งหนึ่งที่เราพบในปัจจุบันก็คือ หลังจากที่ประจำเดือนหมด กล้ามเนื้อเราจะลดลงไปเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นสาเหตุที่ว่า กว่าจะลุกจะยืน ก็ยาก ขึ้นบันไดก็ยาก หรือพอล้ม กระดูกก็หักทันที เพราะการทรงตัวของกล้ามเนื้อมันน้อยลงไป
เพราะฉะนั้น ในแต่ละปี เราก็จะมีการชี้วัดและทำอย่างไรให้ร่างกายของเรามีกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน อยู่ในระดับที่เหมาะสม น้ำหนักเยอะเกินไป จะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงของโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือด) ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตและเป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตเยอะมากในปัจจุบัน ฉะนั้น Weight Management ก็เป็นอีกสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและคำนึง และต้องรู้ว่าสิ่งที่เราทำ มันเหมาะสมกับร่างกายเราหรือยัง
สรุปแล้วก็คือ ที่นี่เราดูแลตั้งแต่ระดับ Disease (โรค) ไปจนถึง Wellness (การมีสุขภาพที่ดี) ซึ่งสามารถสร้างได้ด้วยวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน
ดูแลสุขภาพคนอื่นมามาก สำหรับคุณหมอ มีเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพตนเองอย่างไรบ้าง?
คือหมอมีความรู้เยอะในด้าน Disease มาแต่แรก ฉะนั้นแล้ว เราก็จะเน้นการรักษา การดูแล แต่เมื่อเรามีความรู้มากขึ้น เราก็ใส่ใจเรื่องการกิน เราอาจจะไม่ได้กินเป๊ะๆ แต่ก็มีการไดเอทบ้าง สอง ออกกำลังกาย บางครั้งมันไม่ใช่เพียงการออกกำลังกาย แต่มันขึ้นอยู่กับ Physical Activityอย่างเช่นการเดิน เดินอย่างไรให้แอ็กทีฟหรือแอ็กชั่นได้ และอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ คือเรื่อง Mind & Body เช่น ความเครียด ทุกคนมีความเครียดอยู่แล้ว พอมีความเครียด เราจะจัดการอย่างไรให้เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายของเราเกิดบาลานซ์ที่ดีที่สุด
หมอคิดว่า การดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ทุกคนพอรู้และทำได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกที่จะทำอะไรก่อนและหลัง งานหมอก็เยอะเหมือนกัน แต่เราก็ให้ความสำคัญและดูแล ใช้เวลาไม่เยอะเลยนะคะ เพียงแต่ว่าเราต้องใส่เข้าไปในตารางชีวิต
เริ่มเปลี่ยนวันละหนึ่งองศา เมื่อเวลาผ่านไป หนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี เราจะเห็นทางแยกที่ชัดเจน ฉะนั้น ปรับวันละนิด สร้างทาร์เก็ตวันละหน่อย แล้วมันจะฮิตทาร์เก็ต เมื่อเวลาผ่านไป หนึ่งปี สองปี สามปี ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะทำ ส่วนเมื่อไหร่ที่พร้อม อยากจะหาโค้ช หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ มาคุยกันได้ค่ะ
ที่ BDMS มีไกด์และโค้ชผู้เชี่ยวชาญ และเราก็พยายามทำให้ง่ายที่สุด เพื่อให้ผู้ที่มา สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ สนุกกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น แต่อาจจะมีกติกาเล็กๆ น้อยๆ นิดนึงนะคะ (ยิ้ม)
