‘ผิวพรรณ’ ไม่ว่าจะเป็นผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ไม่กระชับ ริ้วรอย ฯลฯ เหตุนี้เองจึงทำให้หลายคนหันไปพึ่งพาผลิตภัณฑ์หรืออาหารเสริมความงามต่างๆ และที่นิยมเป็นอย่างมากเลยนั่นก็คือ‘คอลลาเจน’ คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวของกรดอะมิโน (Amino Acid) หลายชนิดต่อกัน โดยปกติร่างกายมนุษย์จะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น ขน และเส้นผม รวมไปถึงเนื้อเยื่อทั้งหมดในร่างกาย ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่างๆ คอลลาเจนจะถูกผลิตมากขึ้นเมื่ออายุยังน้อย และจะลดปริมาณการผลิตลงเมื่อมีอายุมากขึ้น และเมื่อปริมาณคอลลาเจนลดลงก็จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ แก่ผิวพรรณเราได้ เช่น เกิดริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หมองคล้ำ อีกทั้งการขาดคอลลาเจนยังนำมาซึ่งสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น โรคข้อ โรคกระดูก โรคกล้ามเนื้อ เป็นต้น

-ผักสีเขียวเข้มเช่น ผักโขม กะหล่ำปลี และผักคะน้า อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ลูทีน ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความสามารถของร่างกายในการผลิตคอลลาเจน
-ผักผลไม้สีแดงส้ม เช่น มะเขือเทศ แครอต พริกหยวกแดง บีทรูต ฯลฯ เป็นต้น อุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและยังส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วยังมีส่วนช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยและเติมเต็มความแข็งแรงของเซลล์ผิวด้วย
-ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ซึ่งถั่วเหลืองอุดมไปด้วยเจนีสทีน (Genistein) ช่วยให้เกิดการผลิตคอลลาเจนและช่วยป้องกันเอนไซม์ที่ทำลายผิว
-อาหารที่อุดมไปด้วยกรดโอเมกา พบได้ในปลาแซลมอน ปลาทูน่า ถั่วอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และอะโวคาโด ซึ่งอาหารเหล่านี้จะช่วยสร้างคอลลาเจนจากแถมยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างมาก
-อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ได้แก่ ข้าวโพด ผักโขม จมูกข้าวสาลี และมะกอก เป็นต้น ซึ่งวิตามินอีทำหน้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดดและอนุมูลอิสระสองตัวการร้ายที่ทำให้คอลลาเจนลดลง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้ริ้วรอยลดลง เพิ่มความอ่อนนุ่มและเรียบเนียนให้กับผิวด้วย
-อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ได้แก่ แครอท นม เนื้อ ปลา เนยแข็ง ไข่ และตับ เป็นต้น ซึ่งมี เรติน-เอ (Retine-a) ที่ช่วยในเรื่องผมและผิว เช่น การปรับสีผม ขจัดผิวที่แห้ง รักษาความอ่อนเยาว์ และทำให้ผิวดูกระชับขึ้น
-วิตามินซีที่อยู่ในผักและผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว และสตรอเบอรรี่ ฯลฯ จะทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน แถมมีส่วนช่วยดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
- ไลซีน (Lysine) และ โพรลีน (Proline) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เป็นองค์ประกอบของคอลลาเจน โดยที่ โพรลีน เป็นกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น และร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้จึงต้องรับจากอาหารเท่านั้น ได้แก่ นม เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู และปลา เป็นต้น

นอกจากนี้ หากอยากมีผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสและคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานๆ ควรทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้
1. เนื่องจากรังสียูวีในแสงแดดทำให้ปริมาณคอลลาเจนในผิวหนังลดลง ดังนั้นควรปกป้องผิวพรรณด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยควรทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายก่อนออกแดด 20 นาที และควรเลือกครีมกันแดดสูตรกันน้ำที่มี SPF 50 PA+++ และควรทาซ้ำทุกๆ 2-4 ชั่วโมง
2. หลีกเลี่ยงมลพิษทางสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ควัน สารเคมี ยาฆ่าแมลง เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และสูดดมควันบุหรี่ เพราะสารนิโคติน และสารอันตรายหลายชนิดในบุหรี่ส่งผลให้คอลลาเจน และอิลาสติน (Elastin) ที่มีบทบาทสำคัญต่อความยืดหยุ่นของผิวหนังถูกทำลาย
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงอาหารปิ้งย่าง และอาหารสำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้คอลลาเจนในร่างกายลดลง
5. บำรุงผิวพรรณจากภายใน ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
6. ดื่มน้ำ วันละ 8-10 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นได้
7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ

ข้อมูลอ้างอิงประกอบ
www.honestdocs.co
www.pobpad.com
-ผักสีเขียวเข้มเช่น ผักโขม กะหล่ำปลี และผักคะน้า อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ลูทีน ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความสามารถของร่างกายในการผลิตคอลลาเจน
-ผักผลไม้สีแดงส้ม เช่น มะเขือเทศ แครอต พริกหยวกแดง บีทรูต ฯลฯ เป็นต้น อุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและยังส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วยังมีส่วนช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยและเติมเต็มความแข็งแรงของเซลล์ผิวด้วย
-ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ซึ่งถั่วเหลืองอุดมไปด้วยเจนีสทีน (Genistein) ช่วยให้เกิดการผลิตคอลลาเจนและช่วยป้องกันเอนไซม์ที่ทำลายผิว
-อาหารที่อุดมไปด้วยกรดโอเมกา พบได้ในปลาแซลมอน ปลาทูน่า ถั่วอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และอะโวคาโด ซึ่งอาหารเหล่านี้จะช่วยสร้างคอลลาเจนจากแถมยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างมาก
-อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ได้แก่ ข้าวโพด ผักโขม จมูกข้าวสาลี และมะกอก เป็นต้น ซึ่งวิตามินอีทำหน้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดดและอนุมูลอิสระสองตัวการร้ายที่ทำให้คอลลาเจนลดลง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้ริ้วรอยลดลง เพิ่มความอ่อนนุ่มและเรียบเนียนให้กับผิวด้วย
-อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ได้แก่ แครอท นม เนื้อ ปลา เนยแข็ง ไข่ และตับ เป็นต้น ซึ่งมี เรติน-เอ (Retine-a) ที่ช่วยในเรื่องผมและผิว เช่น การปรับสีผม ขจัดผิวที่แห้ง รักษาความอ่อนเยาว์ และทำให้ผิวดูกระชับขึ้น
-วิตามินซีที่อยู่ในผักและผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว และสตรอเบอรรี่ ฯลฯ จะทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน แถมมีส่วนช่วยดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
- ไลซีน (Lysine) และ โพรลีน (Proline) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เป็นองค์ประกอบของคอลลาเจน โดยที่ โพรลีน เป็นกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น และร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้จึงต้องรับจากอาหารเท่านั้น ได้แก่ นม เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู และปลา เป็นต้น
นอกจากนี้ หากอยากมีผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสและคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานๆ ควรทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้
1. เนื่องจากรังสียูวีในแสงแดดทำให้ปริมาณคอลลาเจนในผิวหนังลดลง ดังนั้นควรปกป้องผิวพรรณด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยควรทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายก่อนออกแดด 20 นาที และควรเลือกครีมกันแดดสูตรกันน้ำที่มี SPF 50 PA+++ และควรทาซ้ำทุกๆ 2-4 ชั่วโมง
2. หลีกเลี่ยงมลพิษทางสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ควัน สารเคมี ยาฆ่าแมลง เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และสูดดมควันบุหรี่ เพราะสารนิโคติน และสารอันตรายหลายชนิดในบุหรี่ส่งผลให้คอลลาเจน และอิลาสติน (Elastin) ที่มีบทบาทสำคัญต่อความยืดหยุ่นของผิวหนังถูกทำลาย
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงอาหารปิ้งย่าง และอาหารสำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้คอลลาเจนในร่างกายลดลง
5. บำรุงผิวพรรณจากภายใน ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
6. ดื่มน้ำ วันละ 8-10 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นได้
7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ
ข้อมูลอ้างอิงประกอบ
www.honestdocs.co
www.pobpad.com