น้ำ เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย เพราะในร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 4/5 ของน้ำหนักตัว เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องบริโภคเป็นประจำทุกวัน น้ำมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้เป็นปกติ ช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ระบบและกระบวนการทำงานต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดี ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ร่างกาย ช่วยให้ผ่อนคลาย ชะลอความแก่ ลดอาการปวดข้อต่างๆ และหนึ่งในนั้นคือสามารถช่วยลดพุง ลดปริมาณไขมันในร่างกาย และลดน้ำหนักได้
โดยปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับน้ำต่อวัน สามารถคำนวณได้โดยการเอาน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 หารด้วย 2 ให้หน่วยที่ได้ออกมาเป็นมิลลิลิตร เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 จะเท่ากับ 1,650 มิลลิลิตร เป็นต้น
ทำไมน้ำเปล่าถึงลดพุง-ลดน้ำหนักได้?
เนื่องจาก “น้ำเปล่า” ไร้แคลอรี การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้ลดลง ช่วยดึงไขมันและพลังงานที่สะสมอยู่ตามร่างกาย และช่วยในการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น จึงทำให้น้ำหนักลดลงได้
มีหลายผลงานวิจัยที่พิสูจน์มาแล้วว่า การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยลดพุงและลดน้ำหนักได้จริง ยกตัวอย่าง เช่น มีงานวิจัยตีพิมพ์ใน Journal of the American Dietetic Association ระบุว่า การดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารเช้า 30 นาทีเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้รับประทานอาหารลดลง 13 เปอร์เซ็นต์ หรือเท่ากับ 75 กิโลแคลอรี และสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 3.5 กิโลกรัม ภายใน 1 ปี
อีกทั้งมีผลวิจัยของ Institute for Public Health and Water Research และ Virginia Tech University ประเทศสหรัฐอเมริกา พิสูจน์ว่า น้ำ สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง ผลงานวิจัยนี้ระบุว่า น้ำเปล่านั้นสามารถเข้าไปช่วยทำให้เกิดการเผาผลาญไขมัน และน้ำตาลในร่างกายได้
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.บาร์รี ป็อปคิน ผู้อำนวยการศูนย์ UNC Interdisciplinary Obesity Center (IDOC) ประจำมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ยังออกมาระบุว่า การที่เราดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมสามารถลดน้ำหนักได้ ดังนี้
1. น้ำทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายลดลง ร่างกายจึงเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดสมดุลความร้อน ส่งผลให้อาหารและพลังงานถูกเผาผลาญตามไปด้วย และยังช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินสะสมด้วย
2. เมื่อดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น ทำให้ลดโอกาสการดื่มน้ำหวาน หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง จึงควบคุมน้ำหนักง่ายขึ้น
เทคนิคการดื่มน้ำที่ดีต่อร่างกาย
- ควรดื่มน้ำที่สะอาด
- ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-12 แก้ว (แก้วละ 250 ซีซี)
- อย่าดื่มเร็วเกินไป หรือมากเกินไป ค่อยๆ จิบทีละนิดจะดีกว่า
9 ช่วงเวลาดื่มน้ำเพื่อลดพุง ลดน้ำหนัก
1. ดื่มน้ำตอนเช้าหลังจากตื่นนอน 2 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายตื่น เพิ่มความสดชื่น กระตุ้นการขับถ่าย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี (หากดื่มน้ำอุ่นได้จะดีมาก)
2. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารเช้า 30 นาที เพื่อช่วยให้อิ่มไวและระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
3. หลังจากรับประทานอาหารเช้า 1 ชั่วโมง ดื่มน้ำ 1 แก้ว ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนมื้อรับประทานอาหารกลางวัน 30 นาที ช่วยให้อิ่มไว และระบบย่อยทำงานดี
5. หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน 1 ชั่วโมง ดื่มน้ำ 1 แก้ว จะช่วยย่อยอาหารและช่วยในการขับถ่าย
6. บ่าย 3 โมง ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายสดชื่นระหว่างวัน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
7. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนรับประทานมื้อเย็น 30 นาที จะช่วยลดความอยากอาหารและช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้น
8. ช่วง 1-2 ทุ่ม ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว เพื่อให้ระบบเลือดไหลเวียน และระบบลำไส้ทำงานได้ดี
9. 1 ชั่วโมง ก่อนนอน ให้ดื่มน้ำแก้วสุดท้ายของวัน เพื่อชำระล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้
ทั้งนี้ หากอยากลดพุง ลดน้ำหนัก ควรควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงของหวาน ของมัน ของทอด ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำร่วมด้วย เพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
โดยปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับน้ำต่อวัน สามารถคำนวณได้โดยการเอาน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 หารด้วย 2 ให้หน่วยที่ได้ออกมาเป็นมิลลิลิตร เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 จะเท่ากับ 1,650 มิลลิลิตร เป็นต้น
ทำไมน้ำเปล่าถึงลดพุง-ลดน้ำหนักได้?
เนื่องจาก “น้ำเปล่า” ไร้แคลอรี การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้ลดลง ช่วยดึงไขมันและพลังงานที่สะสมอยู่ตามร่างกาย และช่วยในการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น จึงทำให้น้ำหนักลดลงได้
มีหลายผลงานวิจัยที่พิสูจน์มาแล้วว่า การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยลดพุงและลดน้ำหนักได้จริง ยกตัวอย่าง เช่น มีงานวิจัยตีพิมพ์ใน Journal of the American Dietetic Association ระบุว่า การดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารเช้า 30 นาทีเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้รับประทานอาหารลดลง 13 เปอร์เซ็นต์ หรือเท่ากับ 75 กิโลแคลอรี และสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 3.5 กิโลกรัม ภายใน 1 ปี
อีกทั้งมีผลวิจัยของ Institute for Public Health and Water Research และ Virginia Tech University ประเทศสหรัฐอเมริกา พิสูจน์ว่า น้ำ สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง ผลงานวิจัยนี้ระบุว่า น้ำเปล่านั้นสามารถเข้าไปช่วยทำให้เกิดการเผาผลาญไขมัน และน้ำตาลในร่างกายได้
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.บาร์รี ป็อปคิน ผู้อำนวยการศูนย์ UNC Interdisciplinary Obesity Center (IDOC) ประจำมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ยังออกมาระบุว่า การที่เราดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมสามารถลดน้ำหนักได้ ดังนี้
1. น้ำทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายลดลง ร่างกายจึงเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดสมดุลความร้อน ส่งผลให้อาหารและพลังงานถูกเผาผลาญตามไปด้วย และยังช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินสะสมด้วย
2. เมื่อดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น ทำให้ลดโอกาสการดื่มน้ำหวาน หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง จึงควบคุมน้ำหนักง่ายขึ้น
เทคนิคการดื่มน้ำที่ดีต่อร่างกาย
- ควรดื่มน้ำที่สะอาด
- ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-12 แก้ว (แก้วละ 250 ซีซี)
- อย่าดื่มเร็วเกินไป หรือมากเกินไป ค่อยๆ จิบทีละนิดจะดีกว่า
9 ช่วงเวลาดื่มน้ำเพื่อลดพุง ลดน้ำหนัก
1. ดื่มน้ำตอนเช้าหลังจากตื่นนอน 2 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายตื่น เพิ่มความสดชื่น กระตุ้นการขับถ่าย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี (หากดื่มน้ำอุ่นได้จะดีมาก)
2. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารเช้า 30 นาที เพื่อช่วยให้อิ่มไวและระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
3. หลังจากรับประทานอาหารเช้า 1 ชั่วโมง ดื่มน้ำ 1 แก้ว ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนมื้อรับประทานอาหารกลางวัน 30 นาที ช่วยให้อิ่มไว และระบบย่อยทำงานดี
5. หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน 1 ชั่วโมง ดื่มน้ำ 1 แก้ว จะช่วยย่อยอาหารและช่วยในการขับถ่าย
6. บ่าย 3 โมง ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายสดชื่นระหว่างวัน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
7. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนรับประทานมื้อเย็น 30 นาที จะช่วยลดความอยากอาหารและช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้น
8. ช่วง 1-2 ทุ่ม ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว เพื่อให้ระบบเลือดไหลเวียน และระบบลำไส้ทำงานได้ดี
9. 1 ชั่วโมง ก่อนนอน ให้ดื่มน้ำแก้วสุดท้ายของวัน เพื่อชำระล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้
ทั้งนี้ หากอยากลดพุง ลดน้ำหนัก ควรควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงของหวาน ของมัน ของทอด ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำร่วมด้วย เพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน