รู้หรือไม่... แค่ “เดิน” ก็สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนัก และมีสุขภาพที่ดีได้ อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย สะดวกและปลอดภัยอีกด้วย

ประโยชน์ของการเดิน
- การเดินช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ อีกทั้งยังสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อน่อง ช่วยกระชับหน้าท้อง สะโพก และช่วยให้การทำงานของเอ็นร้อยหวายทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- การเดินยังทำให้คุณมีรูปร่างที่สมส่วน หุ่นดี
- การเดินช่วยป้องกันและต่อต้านการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึงร้อยละ 27, ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้มากถึงร้อยละ 60, ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคมะเร็งเต้านมได้ถึงร้อยละ 20 ฯลฯ เป็นต้น
- การเดินเร็ว 10,000 ก้าวต่อวัน (3 วันต่อสัปดาห์) จะช่วยในเรื่องของความดันโลหิตได้เป็นอย่างดี
- การเดินเร็ววันละ 12,000-15,000 ก้าว จะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อได้
- ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้อายุยืนยาวยิ่งขึ้น
- ช่วยเสริมสร้างสติปัญญา ช่วยให้ความคิดและการจำดีขึ้น
- ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งกระตุ้นให้ฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (หรือสารความสุข) หลั่งออกมาซึ่งมีฤทธิ์กล่อมประสาท ทำให้อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใสเบิกบาน
- ลดปัญหาการนอนไม่หลับได้
-ช่วยให้ระบบการย่อย และระบบการขับถ่าย ทำงานได้ดีเป็นปกติ

เคล็ดลับการเดินที่ดี
-ควรยืดเส้นยืดสายก่อนเดิน เพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อม และช่วยลดการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ
-ท่าทางการเดินที่ดี สายตามองตรงไปข้างหน้าขณะเดิน ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่ทั้งสองข้างอยู่ในระดับตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ
-ลองเพิ่มบางอย่างเข้าไปในการเดิน เช่น แกว่งแขน ชกลม แขม่วท้องในขณะเดิน วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถเผาผลาญพลังงานและสร้างกล้ามเนื้อได้มากขึ้น
-ความเร็วของการเดินเร็วที่ดีต้องจะต้องเหนื่อยแต่ยังสามารถพูดคุยได้ปกติ ไม่ถึงขั้นหอบหรือหายใจไม่ทัน
-ควรเดินต่อเนื่องอย่างน้อยครั้งละ 30-45 นาที
-เดินอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 4-5 วันต่อสัปดาห์

พลังงานที่ใช้กับการเดินต่างๆ ต่อ 1 ชั่วโมง
เดินขึ้นเนิน 480-900 แคลอรี
เดินขึ้นบันได600-1,080 แคลอรี
เดินช้า150 แคลอรี
เดินธรรมดา300 แคลอรี
เดินเร็ว420-480 แคลอรี
เดินลงเนิน240 แคลอรี
เดินลงบันได425 แคลอรี
เดินเล่น210 แคลอรี
ข้อมูลประกอบ
www.doctor.or.th
www.honestdocs.co
ประโยชน์ของการเดิน
- การเดินช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ อีกทั้งยังสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อน่อง ช่วยกระชับหน้าท้อง สะโพก และช่วยให้การทำงานของเอ็นร้อยหวายทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- การเดินยังทำให้คุณมีรูปร่างที่สมส่วน หุ่นดี
- การเดินช่วยป้องกันและต่อต้านการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึงร้อยละ 27, ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้มากถึงร้อยละ 60, ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคมะเร็งเต้านมได้ถึงร้อยละ 20 ฯลฯ เป็นต้น
- การเดินเร็ว 10,000 ก้าวต่อวัน (3 วันต่อสัปดาห์) จะช่วยในเรื่องของความดันโลหิตได้เป็นอย่างดี
- การเดินเร็ววันละ 12,000-15,000 ก้าว จะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อได้
- ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้อายุยืนยาวยิ่งขึ้น
- ช่วยเสริมสร้างสติปัญญา ช่วยให้ความคิดและการจำดีขึ้น
- ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งกระตุ้นให้ฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (หรือสารความสุข) หลั่งออกมาซึ่งมีฤทธิ์กล่อมประสาท ทำให้อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใสเบิกบาน
- ลดปัญหาการนอนไม่หลับได้
-ช่วยให้ระบบการย่อย และระบบการขับถ่าย ทำงานได้ดีเป็นปกติ
เคล็ดลับการเดินที่ดี
-ควรยืดเส้นยืดสายก่อนเดิน เพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อม และช่วยลดการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ
-ท่าทางการเดินที่ดี สายตามองตรงไปข้างหน้าขณะเดิน ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่ทั้งสองข้างอยู่ในระดับตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ
-ลองเพิ่มบางอย่างเข้าไปในการเดิน เช่น แกว่งแขน ชกลม แขม่วท้องในขณะเดิน วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถเผาผลาญพลังงานและสร้างกล้ามเนื้อได้มากขึ้น
-ความเร็วของการเดินเร็วที่ดีต้องจะต้องเหนื่อยแต่ยังสามารถพูดคุยได้ปกติ ไม่ถึงขั้นหอบหรือหายใจไม่ทัน
-ควรเดินต่อเนื่องอย่างน้อยครั้งละ 30-45 นาที
-เดินอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 4-5 วันต่อสัปดาห์
พลังงานที่ใช้กับการเดินต่างๆ ต่อ 1 ชั่วโมง
เดินขึ้นเนิน 480-900 แคลอรี
เดินขึ้นบันได600-1,080 แคลอรี
เดินช้า150 แคลอรี
เดินธรรมดา300 แคลอรี
เดินเร็ว420-480 แคลอรี
เดินลงเนิน240 แคลอรี
เดินลงบันได425 แคลอรี
เดินเล่น210 แคลอรี
ข้อมูลประกอบ
www.doctor.or.th
www.honestdocs.co