หากให้ยกตัวอย่างของเครื่องดื่มที่แก้ร้อนของชาวไทยแล้ว ชื่อแรกๆ ที่นึกถึงจะต้องเป็น ‘ชาเย็น’ แน่ๆ เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่หากินง่ายโดยทั่วไปแล้ว ความหวานผสมกับความเข้มข้นของชา สามารถทำได้อย่างเข้ากัน แต่ถ้าหากมีการดื่มมากไป ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเป็น ‘นิ่วในไต’ ได้
ซึ่งข้อมูลที่ว่า ‘ชาเย็นเป็นปัจจัยที่ทำให้เป็นนิ่วในไตได้’ นั้น เป็นเรื่องจริง เพราะในชาเย็นนั้น มีกรดออกซาลิก สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นนิ่วในไตได้จริง โดยในกรณีของต่างประเทศนั้น ก็เคยเกิดเคสของชายวัย 56 ปี รายหนึ่ง เป็นโรคไต ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการดื่มชาถึงวันละ 16 แก้ว (แก้วละประมาณ 8 Oz) ซึ่งต่างจากการดื่มเพียงปริมาณเล็กน้อยแค่ 1-2 แก้วเท่านั้น
นอกจากนี้ กรดออกซาลิก ก็ไม่ได้มีแค่ในชาเย็นเท่านั้น เพราะว่ายังสามารถพบในผักและผลไม้มากมาย เช่น กระชาย ใบชะพลู ใบกระเจี๊ยบ ขิงอ่อน ตะไคร้ ใบยอ ใบโหระพามันเทศ รวมไปถึง กล้วยไข่ พุทรา สัปปะรด เป็นต้น ซึ่งกรดชนิดนี้ถือได้ว่าพบได้ในอาหารทั่วไป ฉะนั้น เราควรทานอาหารให้หลากหลาย ไม่ควรทานอะไรที่ซ้ำๆ เดิมๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดการสะสมในร่างกายจนเป็นโทษในที่สุดนั่นเอง
ซึ่งข้อมูลที่ว่า ‘ชาเย็นเป็นปัจจัยที่ทำให้เป็นนิ่วในไตได้’ นั้น เป็นเรื่องจริง เพราะในชาเย็นนั้น มีกรดออกซาลิก สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นนิ่วในไตได้จริง โดยในกรณีของต่างประเทศนั้น ก็เคยเกิดเคสของชายวัย 56 ปี รายหนึ่ง เป็นโรคไต ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการดื่มชาถึงวันละ 16 แก้ว (แก้วละประมาณ 8 Oz) ซึ่งต่างจากการดื่มเพียงปริมาณเล็กน้อยแค่ 1-2 แก้วเท่านั้น
นอกจากนี้ กรดออกซาลิก ก็ไม่ได้มีแค่ในชาเย็นเท่านั้น เพราะว่ายังสามารถพบในผักและผลไม้มากมาย เช่น กระชาย ใบชะพลู ใบกระเจี๊ยบ ขิงอ่อน ตะไคร้ ใบยอ ใบโหระพามันเทศ รวมไปถึง กล้วยไข่ พุทรา สัปปะรด เป็นต้น ซึ่งกรดชนิดนี้ถือได้ว่าพบได้ในอาหารทั่วไป ฉะนั้น เราควรทานอาหารให้หลากหลาย ไม่ควรทานอะไรที่ซ้ำๆ เดิมๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดการสะสมในร่างกายจนเป็นโทษในที่สุดนั่นเอง