xs
xsm
sm
md
lg

หุ่นดีได้ไม่ยาก แค่เลือกกินไขมัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขึ้นชื่อว่า “ไขมัน” หลายคนคงส่ายหัวกันเป็นแถว เพราะไขมันเป็นคำที่แทนความหมายของความอ้วนสำหรับคนสมัยนี้ ซึ่งสาวๆ รวมทั้งหนุ่มๆ ที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ต้องมีความเชื่อว่าการที่จะลดน้ำหนักให้ได้นั้นจะต้องลดไขมัน หรือไม่กินไขมันเลย แต่นั่นคือความเชื่อที่ผิดเพราะไขมันเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่ร่างกายต้องการได้รับ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันกันดีกว่า

ไขมัน เป็นส่วนหนึ่งของสารอาหารในหมู่ที่ 5 ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน, ขนส่งวิตามินเอ ดี อี และเค, ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง และช่วยในการทำงานของร่างกาย ซึ่งไขมันที่ควรได้รับอย่างเหมาะสมมี 3 ประเภท ได้แก่

1.ไขมันชนิดไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fat) หรือไขมันดี (HDL)

เป็นชนิดไขมันที่แบ่งย่อยได้ 2 ประเภทคือ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA, Monounsaturated Fat) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายเราสามารถสร้างได้เอง หากกินเพิ่มเข้าไปจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีเพิ่มขึ้น ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีให้น้อยลง

ประเภทต่อมาไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA, Polyunsaturated Fat) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง ทั้งที่เป็นกรดที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ ซึ่งหาได้จากการรับประทานอาหารเพียงเท่านั้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันนี้สามารถพบได้จากถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชชนิดต่างๆ อะโวคาโด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก และน้ำมันคาโนลา ควรบริโภคไม่เกิน 300 กรัมต่อวัน

2.ไขมันชนิดอิ่มตัว (Salturated Fat) หรือไขมันเลว (LDL)

เป็นไขมันที่พบได้จากเนื้อสัตว์ เนื้อแดง หรือหนังสัตว์ น้ำมันหมู ไข่แดง นม กะทิ รวมถึงขนมหวานชนิดต่างๆ หากร่างกายได้รับปริมาณไขมันชนิดอิ่มตัวเป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง แต่ยังเป็นไขมันที่ร่างกายยังคงต้องการอยู่บ้างแต่ต้องการในจำนวนที่ค่อนข้างจำกัด ควรบริโภคไม่เกิน 30 กรัมต่อวัน

3.ไขมันชนิดทรานส์ (Trans Fatty Acid)

เป็นชนิดไขมันที่จะเข้าไปเปลี่ยนไขมันไม่อิ่มตัวให้กลายเป็นไขมันอิ่มตัว พบได้มากจากอาหารยุคปัจจุบัน เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป คุกกี้ แครกเกอร์ มาการีน เนยขาว ครีมเทียม แป้งพิซซ่า โดนัท เฟรนฟรายด์ ไก่ทอด ป๊อปคอร์น ตลอดจนขนมปัง และยังเป็นชนิดไขมันที่นักวิจัยตรวจพบได้มากในร่างกายผู้เสียชีวิต ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจตีบ และโรคทางหลอดเลือดอีกด้วย จึงเป็นชนิดไขมันที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดละไขมันชนิดนี้เองเป็นไขมันที่ทำให้อ้วนเพราะไขมันนี้เป็นไขมันที่ย่อยได้ยากกว่าไขมันชนิดอื่น ทำให้ตับต้องใช้วิธีสลายไขมันทรานส์ด้วยวิธีต่างจากปกติ ซึ่งก่อให้เกิดความผิดปกติคือ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไขมันส่วนเกินมากขึ้น ตับผิดปกติ เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ความดันสูงและไขมันอุดตันในเส้นเลือด ควรบริโภคไม่เกิน 2 กรัมต่อวันหรือ 1 เปอร์เซ็นเท่านั้น

อย่างไรก็ดีไขมันไม่ได้เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างที่คิด เพียงแค่เลือกกินให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย เพราะยังไงไขมันก็ยังเป็นสารอาหารที่สำคัญกับร่างกายอยู่ ดังนั้นไม่ควรไม่กินเลย ซึ่งถ้าหากต้องการลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักควรเลือกประเภทไขมันในการกินจะดีกว่า เช่น ควรลดหรืองดไขมันทรานส์และหันไปเลือกบริโภคไขมันดีแทน แต่อย่างไรก็แล้วแต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และสุขภาพที่ดีควรออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยจะดีที่สุด
ข้อมูลประกอบบางส่วนจาก www.health.haijai.com, www.ezygodiet.com

กำลังโหลดความคิดเห็น