กะปิ วัตถุดิบคู่ครัวที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะนำมาทำน้ำพริก ทำเป็นเครื่องแกงได้แล้ว ยังสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย ซึ่งกะปินั้นจะได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย เพราะจัดเป็นวัตถุดิบชั้นดี มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย อาทิ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ ไรโบฟลาวิน และไนอาซิน และนี่ก็คือ 9 คุณประโยชน์ของกะปิ
1. บำรุงกระดูก โดยกะปิ 100 กรัมจะให้แคลเซียมสูงถึง 1,554 มิลลิกรัม ถ้าเบื่อดื่มนมก็ลองหากะปิมาทานบ้างเพราะให้แคลเซียมมากกว่านมวัวหลายเท่า
2. ช่วยอาการเลือดจาง กะปิมีวิตามินบี 12 ซึ่งต้องได้จากภายนอกเท่านั้น ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้ และวิตามินชนิดนี้ดีกับเลือดมาก
3. ป้องกันฟันผุ ซึ่งมีการศึกษาโดยหมอฟันที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ว่า กะปิที่ผ่านความร้อนจะช่วยให้ฟันไม่ผุ
4. อุดมไปด้วยน้ำมันโอเมก้า 3 ชนิดเดียวกับที่อยู่ในปลาน้ำลึกมาก เพราะเป็นตัวแม่ที่แท้จริงที่สร้างน้ำมันดีชนิดนี้ แถมมีมากและดูดซึมได้ดีด้วย
5. เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพราะมีจุลินทรีย์ชนิดดีหลายชนิด
6. ป้องกันและบำรุงสายตา เพราะในกะปิมีแอนตี้ออกซิแดนท์ที่สำคัญคือ แอสตาแซนทิน กินแล้วช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าให้ดวงตาได้
7. ช่วยให้อารมณ์ดี ไม่ซึมเศร้า ซึ่งกะปิเป็นแหล่งวิตามินดีที่นอกจากช่วยกระดูกแล้ว
ยังช่วยคลายเครียดให้อารมณ์ผ่องใสได้ ซึ่งถ้าบุคคลไหนได้รับวิตามินดีน้อยจะทำให้มีอารมณ์ซึมเศร้าได้
8. ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันตามสมองและหัวใจ
9. บำรุงสมอง ซึ่งในกะปิอุดมไปด้วยไขมันดีนั่นก็คือโอเมก้า 3 ทำให้สมองแล่น และช่วยบำรุงส่วนประสาทที่มีชั้นไขมันเคลือบอยู่ได้มาก
แม้ว่ากะปิจะสามารถนำมาปรุงอาหารได้มากมาย แต่ใช่ว่าจะไม่มีโทษ ดังนั้นควรคำนึงถึงความสะอาดของวัตถุดิบ เพราะหากมีสิ่งเจือปน ไม่สะอาด ก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ รวมถึงคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคไตควรระมัดระวังในการรับประทาน
ข้อมูลประกอบบางส่วนจาก
ที่มา โรงพยาบาลราชวิถี , www.sukkaphap-d.com
1. บำรุงกระดูก โดยกะปิ 100 กรัมจะให้แคลเซียมสูงถึง 1,554 มิลลิกรัม ถ้าเบื่อดื่มนมก็ลองหากะปิมาทานบ้างเพราะให้แคลเซียมมากกว่านมวัวหลายเท่า
2. ช่วยอาการเลือดจาง กะปิมีวิตามินบี 12 ซึ่งต้องได้จากภายนอกเท่านั้น ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้ และวิตามินชนิดนี้ดีกับเลือดมาก
3. ป้องกันฟันผุ ซึ่งมีการศึกษาโดยหมอฟันที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ว่า กะปิที่ผ่านความร้อนจะช่วยให้ฟันไม่ผุ
4. อุดมไปด้วยน้ำมันโอเมก้า 3 ชนิดเดียวกับที่อยู่ในปลาน้ำลึกมาก เพราะเป็นตัวแม่ที่แท้จริงที่สร้างน้ำมันดีชนิดนี้ แถมมีมากและดูดซึมได้ดีด้วย
5. เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพราะมีจุลินทรีย์ชนิดดีหลายชนิด
6. ป้องกันและบำรุงสายตา เพราะในกะปิมีแอนตี้ออกซิแดนท์ที่สำคัญคือ แอสตาแซนทิน กินแล้วช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าให้ดวงตาได้
7. ช่วยให้อารมณ์ดี ไม่ซึมเศร้า ซึ่งกะปิเป็นแหล่งวิตามินดีที่นอกจากช่วยกระดูกแล้ว
ยังช่วยคลายเครียดให้อารมณ์ผ่องใสได้ ซึ่งถ้าบุคคลไหนได้รับวิตามินดีน้อยจะทำให้มีอารมณ์ซึมเศร้าได้
8. ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันตามสมองและหัวใจ
9. บำรุงสมอง ซึ่งในกะปิอุดมไปด้วยไขมันดีนั่นก็คือโอเมก้า 3 ทำให้สมองแล่น และช่วยบำรุงส่วนประสาทที่มีชั้นไขมันเคลือบอยู่ได้มาก
แม้ว่ากะปิจะสามารถนำมาปรุงอาหารได้มากมาย แต่ใช่ว่าจะไม่มีโทษ ดังนั้นควรคำนึงถึงความสะอาดของวัตถุดิบ เพราะหากมีสิ่งเจือปน ไม่สะอาด ก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ รวมถึงคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคไตควรระมัดระวังในการรับประทาน
ข้อมูลประกอบบางส่วนจาก
ที่มา โรงพยาบาลราชวิถี , www.sukkaphap-d.com