หากใครที่ชอบออกกำลังกายด้วยการวิ่ง แน่นอนว่า นอกจากที่มีอาการเหนื่อยที่มาในพร้อมกับตอนออกกำลังแล้ว คงได้สุขภาพดีกลับมาเป็นของแถมเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันนั้น หลายๆ คน ก็คงมีอาการคันยิบๆ ตามร่างกายทั้งลำตัว หรือ ตามขา บางรายหนักหน่อยอาจจะไปถึงขั้นต้นขา สะโพก หรือเอวได้ด้วย ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าเป็นไขมันที่เริ่มแตกตัวได้แล้ว แต่คำตอบจริงๆนั้น เป็นอย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน
ทำไมวิ่งแล้วถึงคันได้
สำหรับอาการคันตามบริเวณขา ลำตัว สะโพก หรือส่วนอื่นๆ ที่เกิดจากการวิ่งนั้น เป็นปฎิกิริยาของเส้นใยประสาทที่มีโปรตีนชนิดหนึ่งทื่เรียกว่า “ฮีสตามีน” ซึ่งตามปกติแล้ว สารดังกล่าวนี้จะถูกหลั่งออกมาเมื่อร่างกายมีอาการพ้สารบางอย่าง โดยหน้าที่ของฮีสตามีนนั้น คือการหลั่งออกมาเพื่อเพิ่มการขยายของหลอดเลือดอย่างปัจจุบันทันด่วน เพื่อที่ร่างกายจะเพิ่มอัตราการไหลเวียนของโลหิตไปยังเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ หรือมีอาการติดเชื้อ เพื่อลำเลียงระบบคุ้มกันที่อยู่ในเลือดให้เข้าไปจัดการเนื้อเยื่อบริเวณที่มีปัญหาได้โดยเร็ว ซึ่งจากการทำปฏิกิริยานี้นั่นเอง จะทำให้เกิดผลข้างเคียง คือ มีอาการคันนั่นเอง
ขณะเดียวกัน ฮีสตามีน ก็มีการหลั่งสารนี้ออกมา เมื่อมีการออกกำลังกายอย่างหนักด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนหรือคนที่ออกในช่วงแรกๆ ระบบไหลเวียนโลหิตอาจจะยังไม่คุ้นชินกับการถูกกระตุ้นด้วยการออกกำลังกายหนักๆ ในครั้งแรกๆ ร่างกายเลยมีการหลั่งสารดังกล่าวออกมาเพื่อขยายหลอดเลือดให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำหน้าที่ลำเลียงโลหิตไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เร็วขึ้น เพื่อกันอาการเมื่อยล้า และทำให้อึดมากขึ้นด้วย ซึ่งถ้าใครวิ่งหรือออกกำลังกายหนักๆ แล้วมีอาการคันดังกล่าว แสดงว่าเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย และมีความไวต่อสารดังกล่าวนั่นเอง
วิธีแก้การวิ่งแล้วคัน
สำหรับวิธีแก้ของอาการดังกล่าวนั้น คือ ต้องอดทนไปก่อน เนื่องจากระดับการคันนั้นมีแค่ยุบยิบเล็กน้อย และเมื่อได้มีการพักร่างกายในหลังวิ่ง หรือ หลังออกกำลังกายไปสักพัก อาการดังกล่าวก็จะหายไปเอง ซึ่งก็สามารถกลับมาวิ่งหรืออกกำลังกายได้ตามปกติ เพื่อให้เส้นประสาทมีความไวต่อฮีสตามีนน้อยลง
อย่างไรก็ตาม หากได้ทำการวิ่งหรือออกกำลังกายตามปกติ แล้วยังมีอาการคันอีก แสดงว่าอาจจะเกิดมาจากสาเหตุอื่น เช่น ความอับชื้นของเหงื่อในร่างกายที่ทำปฎิกิริยากับเสื้อผ้าที่ใช้ออกกำลังกายที่อาจระบายอากาศไม่ดีพอ อาจจะเป็นเสื้อผ้าไม่สะอาด หรือมีสารตกค้างจากผงซักฟอก และสาเหตุอื่นๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับไขมันแตกตัวแต่อย่างใด
ทำไมวิ่งแล้วถึงคันได้
สำหรับอาการคันตามบริเวณขา ลำตัว สะโพก หรือส่วนอื่นๆ ที่เกิดจากการวิ่งนั้น เป็นปฎิกิริยาของเส้นใยประสาทที่มีโปรตีนชนิดหนึ่งทื่เรียกว่า “ฮีสตามีน” ซึ่งตามปกติแล้ว สารดังกล่าวนี้จะถูกหลั่งออกมาเมื่อร่างกายมีอาการพ้สารบางอย่าง โดยหน้าที่ของฮีสตามีนนั้น คือการหลั่งออกมาเพื่อเพิ่มการขยายของหลอดเลือดอย่างปัจจุบันทันด่วน เพื่อที่ร่างกายจะเพิ่มอัตราการไหลเวียนของโลหิตไปยังเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ หรือมีอาการติดเชื้อ เพื่อลำเลียงระบบคุ้มกันที่อยู่ในเลือดให้เข้าไปจัดการเนื้อเยื่อบริเวณที่มีปัญหาได้โดยเร็ว ซึ่งจากการทำปฏิกิริยานี้นั่นเอง จะทำให้เกิดผลข้างเคียง คือ มีอาการคันนั่นเอง
ขณะเดียวกัน ฮีสตามีน ก็มีการหลั่งสารนี้ออกมา เมื่อมีการออกกำลังกายอย่างหนักด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนหรือคนที่ออกในช่วงแรกๆ ระบบไหลเวียนโลหิตอาจจะยังไม่คุ้นชินกับการถูกกระตุ้นด้วยการออกกำลังกายหนักๆ ในครั้งแรกๆ ร่างกายเลยมีการหลั่งสารดังกล่าวออกมาเพื่อขยายหลอดเลือดให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำหน้าที่ลำเลียงโลหิตไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เร็วขึ้น เพื่อกันอาการเมื่อยล้า และทำให้อึดมากขึ้นด้วย ซึ่งถ้าใครวิ่งหรือออกกำลังกายหนักๆ แล้วมีอาการคันดังกล่าว แสดงว่าเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย และมีความไวต่อสารดังกล่าวนั่นเอง
วิธีแก้การวิ่งแล้วคัน
สำหรับวิธีแก้ของอาการดังกล่าวนั้น คือ ต้องอดทนไปก่อน เนื่องจากระดับการคันนั้นมีแค่ยุบยิบเล็กน้อย และเมื่อได้มีการพักร่างกายในหลังวิ่ง หรือ หลังออกกำลังกายไปสักพัก อาการดังกล่าวก็จะหายไปเอง ซึ่งก็สามารถกลับมาวิ่งหรืออกกำลังกายได้ตามปกติ เพื่อให้เส้นประสาทมีความไวต่อฮีสตามีนน้อยลง
อย่างไรก็ตาม หากได้ทำการวิ่งหรือออกกำลังกายตามปกติ แล้วยังมีอาการคันอีก แสดงว่าอาจจะเกิดมาจากสาเหตุอื่น เช่น ความอับชื้นของเหงื่อในร่างกายที่ทำปฎิกิริยากับเสื้อผ้าที่ใช้ออกกำลังกายที่อาจระบายอากาศไม่ดีพอ อาจจะเป็นเสื้อผ้าไม่สะอาด หรือมีสารตกค้างจากผงซักฟอก และสาเหตุอื่นๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับไขมันแตกตัวแต่อย่างใด
