ในขั้นตอนการทำอาหารนั้น ถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะทำให้อาหารน่ารับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การผัด” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของความอร่อย แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยการทำอาหารในลักษณะนี้เอง ที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘โรคมะเร็ง’ ที่มีโอกาสเสี่ยงจากการรับประทานอาหารในลักษณะดังกล่าว ฉะนั้น เพื่อการโภชนาการที่ดี มาดูวิธีการทำอาหารในลักษณะนี้กันดีกว่า

1.นำผักที่หั่นประกอบอาหารทันที
เนื่องด้วยผักที่ถูกหั่นแล้ว เวลาที่ถูกนำไปล้างบนพื้นผิวที่สัมผัสกับน้ำนั้น จะทำให้แร่ธาตุบางชนิด วิตามินบีและซีบางส่วนละลายไปกับน้ำ โดยวิธีการหั่นผักที่ถูกต้อง คือ ควรค่อยๆ ล้างผักให้สะอาดและทำการสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำไปหั่น และสิ่งที่สำคัญที่สุด ควรจะนำผักที่หั่นเรียบร้อยแล้วไปประกอบอาหารทันที หรือทิ้งไว้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพราะสารอาหารที่มีอยู่ในผักนั้น อาจจะหายไปกับออกซิเดนในอากาศได้
2.ไม่ต้องรอให้มีควันขึ้นจากผัก
ควรนำวัตถุดิบทุกอย่างรวมถึงผักใส่ลงไปก่อนที่น้ำมันจะมีควันขึ้นมา เพราะการที่จะให้น้ำมันร้อนและมีควันขึ้นมาก่อนที่จะใส่อาหารลงไปนั้น เมื่อนำผักลงไปผัดในอุณหภูมิที่มีน้ำมันสูงกว่า 200 องศาเซลเซียส จะทำให้สูญเสียสารอาหารและจำนวนแร่ธาตุในผัก แถมยังก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งอีกด้วย
3.ใส่น้ำมันน้อยๆ
การใส่น้ำมันเยอะในระหว่างการผัดนั้น ถือได้ว่ามีโอกาสที่จะสูญเสียในรสชาติมากเลยทีเดียว เนื่องด้วยในน้ำมันแต่ละประเภทจะมีปริมาณไขมันมากกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีการดูดซับของน้ำมันสุกกว่าเนื้อสัตว์มาก ซึ่งถ้าหากมีการใส่น้ำมันลงไปนั้น จะทำให้พื้นผิวของผักจะเคลือบไปด้วยน้ำมัน และรสชาติของเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปนั้นจะไม่เข้าไปในผัก แถมยังทำให้ร่างกายมีการดูดซึมแร่ธาตุและสารอาหารจากผักได้น้อยลงมาก ดังนั้น วิธีที่เหมาะมากที่สุดคือ ไม่ควรใส่น้ำมันเกินกว่า 1 ช้อนโต๊ะ
4.ใส่เครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเกลือน้อยๆ
เพราะในส่วนผสมของเครื่องปรุงจำพวกซีอิ๊วหรือน้ำปลา และ ผงปรุงรส มีส่วนผสมของเกลือประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว จึงทำให้เมื่อมีการนำส่วนผสมดังกล่าวมาผสมในอาหาร จะทำให้มีโซเดียมในอาหารสูงเกินความจำเป็น ฉะนั้น ควรใส่เครื่องปรุงที่มีส่วนผสมจากที่ว่ามานั้นให้น้อยที่สุด ซึ่งน่าจะดีกว่า
1.นำผักที่หั่นประกอบอาหารทันที
เนื่องด้วยผักที่ถูกหั่นแล้ว เวลาที่ถูกนำไปล้างบนพื้นผิวที่สัมผัสกับน้ำนั้น จะทำให้แร่ธาตุบางชนิด วิตามินบีและซีบางส่วนละลายไปกับน้ำ โดยวิธีการหั่นผักที่ถูกต้อง คือ ควรค่อยๆ ล้างผักให้สะอาดและทำการสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำไปหั่น และสิ่งที่สำคัญที่สุด ควรจะนำผักที่หั่นเรียบร้อยแล้วไปประกอบอาหารทันที หรือทิ้งไว้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพราะสารอาหารที่มีอยู่ในผักนั้น อาจจะหายไปกับออกซิเดนในอากาศได้
2.ไม่ต้องรอให้มีควันขึ้นจากผัก
ควรนำวัตถุดิบทุกอย่างรวมถึงผักใส่ลงไปก่อนที่น้ำมันจะมีควันขึ้นมา เพราะการที่จะให้น้ำมันร้อนและมีควันขึ้นมาก่อนที่จะใส่อาหารลงไปนั้น เมื่อนำผักลงไปผัดในอุณหภูมิที่มีน้ำมันสูงกว่า 200 องศาเซลเซียส จะทำให้สูญเสียสารอาหารและจำนวนแร่ธาตุในผัก แถมยังก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งอีกด้วย
3.ใส่น้ำมันน้อยๆ
การใส่น้ำมันเยอะในระหว่างการผัดนั้น ถือได้ว่ามีโอกาสที่จะสูญเสียในรสชาติมากเลยทีเดียว เนื่องด้วยในน้ำมันแต่ละประเภทจะมีปริมาณไขมันมากกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีการดูดซับของน้ำมันสุกกว่าเนื้อสัตว์มาก ซึ่งถ้าหากมีการใส่น้ำมันลงไปนั้น จะทำให้พื้นผิวของผักจะเคลือบไปด้วยน้ำมัน และรสชาติของเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปนั้นจะไม่เข้าไปในผัก แถมยังทำให้ร่างกายมีการดูดซึมแร่ธาตุและสารอาหารจากผักได้น้อยลงมาก ดังนั้น วิธีที่เหมาะมากที่สุดคือ ไม่ควรใส่น้ำมันเกินกว่า 1 ช้อนโต๊ะ
4.ใส่เครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเกลือน้อยๆ
เพราะในส่วนผสมของเครื่องปรุงจำพวกซีอิ๊วหรือน้ำปลา และ ผงปรุงรส มีส่วนผสมของเกลือประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว จึงทำให้เมื่อมีการนำส่วนผสมดังกล่าวมาผสมในอาหาร จะทำให้มีโซเดียมในอาหารสูงเกินความจำเป็น ฉะนั้น ควรใส่เครื่องปรุงที่มีส่วนผสมจากที่ว่ามานั้นให้น้อยที่สุด ซึ่งน่าจะดีกว่า