เชื่อได้เลยว่าทุกคนในโลกใบนี้ ต้องเคยประสบพบเจอกับอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล มีไข้ เจ็บคอ ซึ่งอาการดังกล่าวนี้เรียกว่า ‘ไข้หวัด’ ก็คงไม่ผิดนัก และแน่นอนว่าเมื่อใครก็ตามที่เป็นโรคนี้ ก็จะเป็นง่ายและหายเร็ว ตามแบบปกติ แต่หากมีผู้ป่วยคนใดที่มีอาการที่ว่ามานี้ และส่งผลต่อคุรภาพชีวิตจนถึงขั้นหยุดเรียนหรือหยุดงานแล้วละก็ สามารถอาจจะเรียกผู้ป่วยดังกล่าวได้ว่าเป็นอาการ ‘อาการหวัดเรื้อรัง’ ก็เป็นได้
อาการของหวัดเรื้อรัง
โดยอาการของ ‘ไข้หวัด’ นั้น เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งสามารถหายได้เองประมาณ 5-10 วัน แต่หากมีอาการที่นานกว่าช่วงเวลาดังกล่าวนี้ อาจจะเรียกว่าผู้ป่วย “หวัดเรื้อรัง” เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมในโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการนานกว่า 10 วัน หรืออาการแย่ลงหลังจากเริ่มมีอาการคัดจมูกได้ 5 วัน โดยหวัดเรื้อรังนั้น มักจะมีอาการที่เกี่ยวข้องกับจมูกและไซนัส ได้แก่ น้ำมูกข้น คัดจมูก ความสามารถในการรับกลิ่นลดลง และ มีการปวดตีงใบหน้า
นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ไอ อ่อนเพลีย มีเสมหะอยู่ในคอตลอดเวลา และถ้ามีอาการมานานและไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้มีริดสีดวงจมูกเกิดขึ้นได้ ในบางรายที่มีการติดเชื้อรุนแรง อาจทำให้มีการติดเชื้อลุกลามเข้าลูกตาหรือสมองได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการดังกล่าวนี้ อาจจะไม่ได้มีภาวะหวัดเรื้อรัง ก็เป็นได้ เช่น
1.ผู้ที่มีริดสีดวงจมูกหรือเป็นโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
2.ผู้ที่มีเนื้องอกในโพรงจมูกและไซนัส
3.ผู้ที่มีการอักเสบของไซนัสที่เกิดจากเชื้อรา แต่มักจะมีอาการมีน้ำมูก และคัดจมูกในจมูกข้างใดช้างหนึ่งเพียงข้างเดียว
การรักษา
ผู้ป่วยในอาการดังกล่าว จำเป็นต้องใช้ยาปฎิชีวนะในการรักษา ซึ่งส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายสนิทได้ถ้าได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม แต่ถ้าการอักเสบของไซนัสที่เกิดขึ้นไม่สามารถรักษาให้หายด้วยการใช้ยาเพียงอย่างเดียว แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการเจาะล้างไซนัสหรือผ่าตัดร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดไซนัสสามารถทำได้ด้วยการส่องกล้องผ่านโพรงจมูกโดยไม่จำเป็นต้องเปิดแผลผ่าตัดจากภายนอก ซึ่งจะทำให้มีความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยและผู้ป่วยสามารถกลับ้านได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ การพิจารณาว่าควรผ่าตัดหรือไม่ขึ้นอยู่กับแพทย์
อย่างไรก็ตาม หากอยากให้ห่างไกลจากโรคหวัดเรื้อรังนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วย การออกกำลังกาย พักผ่อนใหเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคที่ดี ไม่ติดเชื้อโดยง่าย
อาการของหวัดเรื้อรัง
โดยอาการของ ‘ไข้หวัด’ นั้น เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งสามารถหายได้เองประมาณ 5-10 วัน แต่หากมีอาการที่นานกว่าช่วงเวลาดังกล่าวนี้ อาจจะเรียกว่าผู้ป่วย “หวัดเรื้อรัง” เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมในโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการนานกว่า 10 วัน หรืออาการแย่ลงหลังจากเริ่มมีอาการคัดจมูกได้ 5 วัน โดยหวัดเรื้อรังนั้น มักจะมีอาการที่เกี่ยวข้องกับจมูกและไซนัส ได้แก่ น้ำมูกข้น คัดจมูก ความสามารถในการรับกลิ่นลดลง และ มีการปวดตีงใบหน้า
นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ไอ อ่อนเพลีย มีเสมหะอยู่ในคอตลอดเวลา และถ้ามีอาการมานานและไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้มีริดสีดวงจมูกเกิดขึ้นได้ ในบางรายที่มีการติดเชื้อรุนแรง อาจทำให้มีการติดเชื้อลุกลามเข้าลูกตาหรือสมองได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการดังกล่าวนี้ อาจจะไม่ได้มีภาวะหวัดเรื้อรัง ก็เป็นได้ เช่น
1.ผู้ที่มีริดสีดวงจมูกหรือเป็นโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
2.ผู้ที่มีเนื้องอกในโพรงจมูกและไซนัส
3.ผู้ที่มีการอักเสบของไซนัสที่เกิดจากเชื้อรา แต่มักจะมีอาการมีน้ำมูก และคัดจมูกในจมูกข้างใดช้างหนึ่งเพียงข้างเดียว
การรักษา
ผู้ป่วยในอาการดังกล่าว จำเป็นต้องใช้ยาปฎิชีวนะในการรักษา ซึ่งส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายสนิทได้ถ้าได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม แต่ถ้าการอักเสบของไซนัสที่เกิดขึ้นไม่สามารถรักษาให้หายด้วยการใช้ยาเพียงอย่างเดียว แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการเจาะล้างไซนัสหรือผ่าตัดร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดไซนัสสามารถทำได้ด้วยการส่องกล้องผ่านโพรงจมูกโดยไม่จำเป็นต้องเปิดแผลผ่าตัดจากภายนอก ซึ่งจะทำให้มีความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยและผู้ป่วยสามารถกลับ้านได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ การพิจารณาว่าควรผ่าตัดหรือไม่ขึ้นอยู่กับแพทย์
อย่างไรก็ตาม หากอยากให้ห่างไกลจากโรคหวัดเรื้อรังนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วย การออกกำลังกาย พักผ่อนใหเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคที่ดี ไม่ติดเชื้อโดยง่าย
