หลายๆ คน คงประสบพบเจอปัญหาอาการปวดหลังบ้าง ไม่มากก็น้อย อันเนื่องมาจากการทำงานอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในเวลานานๆ จนแทบจะไม่ได้ไปไหนเลย ซึ่งบางคนอาจจะมีความกังวลว่า คงต้องใช้วิธีการผ่าตัดเท่านั้นถึงจะช่วยได้ แต่อาการปวดหลังสำหรับบางรายนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดเสมอไป ฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า เพราะเหตุใด ถึงไม่จำเป็นจะต้องผ่าตัดหลัง
การผ่าตัด ไม่ใช่คำตอบเสมอไป
อาการปวดหลังที่พบเจอกันในหลายคนนั้น ก็ไม่จำเป้นที่จะต้องผ่าตัดในทุกคนเสมอไป ซึ่งขึ้นอยู่ที่โรคของที่แต่ละคนเป็นว่าจะมีอาการมากหรือน้อยมากแค่ไหน หรือ บางรายก็เป็นโรคที่ยังไม่ชัดเจนมากนัก เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อเฉียบพลัน หรือ ปวดหลังจากการทำงาน ซี่งสามารถรักษาได้จากการด้วยการทานยาหรือ ทำกายภาพบำบัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะสามารถหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
ถึงแม้ว่าอาการปวดหลังนั้น จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และพฤติกรรมในการใช้ชีวิตกับการทำงานกันได้แค่ไหน แต่หากยังมีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตในแบบเดิมๆ แล้วนั้น อาการดังกล่าวก็สามารถกลับมาได้ ซึ่งพฤติกรรมที่ว่านี้ มาจาก เช่น
-ทำงานอะไร
-ใช้คอมพิวเตอร์วันละกี่ชั่วโมง
-นอนดูทีวีหรือไม่
-สูบบุหรี่หรือไม่
-อ้วนเกินไปหรือเปล่า
ซึ่งหากใครที่ทำงานหนักนั้น ก็ควรที่จะหยุดพักบ้าง และใครที่อยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ก็ควรที่จะออกมาขยับแข้งขยับขาเล็กน้อย ใครที่นอนตะแคงดูทีวี ก็ควรที่จะนั่งให้ถูกวิธี และ ใครที่มีน้ำหนักเกิน ก็ควรที่จะออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งการรักษาที่ต้องทำควบคู่กันไปนั้น จะเห็นผลเป็นอย่างดี
ส่วนคนที่มีอาการปวดหลัง ชนิดที่มีภาวะของโรคในกระดูกสันหลังอย่างชัดเจนนั้น เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม หรือ กระดูกเคลื่อน ซึ่งหากมีอาการไม่มาก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดเช่นกัน สามารถใช้การรักษาในทางยาและกายภาพบำบัดได้ แต่ในกรณีที่โรคดังกล่าวไม่สามารถที่หายในตัวยาได้นั้น ควรจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดรักษา
โดยการทานยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและการทำกายภาพบำบัดร่วมนั้น จะช่วยในเรื่องที่ร่างกายสามารถปรับตัวอยู่กับกระดูกที่เสื่อมหรือเคลื่อนไปในตำแหน่งใหม่ได้โดยที่ไม่ปวด
ถ้ามีการผ่าตัด
ในรายที่มีอาการปวดหลังมาก เช่น โรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท ที่อาจจะปวดมาก และลามไปถึงการปวดร้าวไปถึงขา จนส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และส่งผลต่อทางกายภาพ เช่น หลังคด หลังงอ หรือ หากมีอาการติดเชื้อ เช่น วัณโรค หรือ มีการติดเชื้ออย่างรุนแรงที่ส่งผลต่อการทำลายกระดูกมากนั้น กรณีทั้งหมดควรที่จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อไม่ให้อาการดังกล่าวนั้นลุกลามไปมากกว่านี้ และนั่นเป็นหนงที่จะทำให้หายจากอาการปวดหลังได้
การผ่าตัด ไม่ใช่คำตอบเสมอไป
อาการปวดหลังที่พบเจอกันในหลายคนนั้น ก็ไม่จำเป้นที่จะต้องผ่าตัดในทุกคนเสมอไป ซึ่งขึ้นอยู่ที่โรคของที่แต่ละคนเป็นว่าจะมีอาการมากหรือน้อยมากแค่ไหน หรือ บางรายก็เป็นโรคที่ยังไม่ชัดเจนมากนัก เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อเฉียบพลัน หรือ ปวดหลังจากการทำงาน ซี่งสามารถรักษาได้จากการด้วยการทานยาหรือ ทำกายภาพบำบัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะสามารถหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
ถึงแม้ว่าอาการปวดหลังนั้น จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และพฤติกรรมในการใช้ชีวิตกับการทำงานกันได้แค่ไหน แต่หากยังมีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตในแบบเดิมๆ แล้วนั้น อาการดังกล่าวก็สามารถกลับมาได้ ซึ่งพฤติกรรมที่ว่านี้ มาจาก เช่น
-ทำงานอะไร
-ใช้คอมพิวเตอร์วันละกี่ชั่วโมง
-นอนดูทีวีหรือไม่
-สูบบุหรี่หรือไม่
-อ้วนเกินไปหรือเปล่า
ซึ่งหากใครที่ทำงานหนักนั้น ก็ควรที่จะหยุดพักบ้าง และใครที่อยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ก็ควรที่จะออกมาขยับแข้งขยับขาเล็กน้อย ใครที่นอนตะแคงดูทีวี ก็ควรที่จะนั่งให้ถูกวิธี และ ใครที่มีน้ำหนักเกิน ก็ควรที่จะออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งการรักษาที่ต้องทำควบคู่กันไปนั้น จะเห็นผลเป็นอย่างดี
ส่วนคนที่มีอาการปวดหลัง ชนิดที่มีภาวะของโรคในกระดูกสันหลังอย่างชัดเจนนั้น เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม หรือ กระดูกเคลื่อน ซึ่งหากมีอาการไม่มาก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดเช่นกัน สามารถใช้การรักษาในทางยาและกายภาพบำบัดได้ แต่ในกรณีที่โรคดังกล่าวไม่สามารถที่หายในตัวยาได้นั้น ควรจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดรักษา
โดยการทานยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและการทำกายภาพบำบัดร่วมนั้น จะช่วยในเรื่องที่ร่างกายสามารถปรับตัวอยู่กับกระดูกที่เสื่อมหรือเคลื่อนไปในตำแหน่งใหม่ได้โดยที่ไม่ปวด
ถ้ามีการผ่าตัด
ในรายที่มีอาการปวดหลังมาก เช่น โรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท ที่อาจจะปวดมาก และลามไปถึงการปวดร้าวไปถึงขา จนส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และส่งผลต่อทางกายภาพ เช่น หลังคด หลังงอ หรือ หากมีอาการติดเชื้อ เช่น วัณโรค หรือ มีการติดเชื้ออย่างรุนแรงที่ส่งผลต่อการทำลายกระดูกมากนั้น กรณีทั้งหมดควรที่จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อไม่ให้อาการดังกล่าวนั้นลุกลามไปมากกว่านี้ และนั่นเป็นหนงที่จะทำให้หายจากอาการปวดหลังได้
