ความสำคัญในเรื่องความสวยความงามถูกยกขึ้นมาเป็นอันดับที่หนึ่งได้ไม่ยาก หากทำการสำรวจความสนใจของสาวๆ ในปัจจุบัน จะมีใครบ้างที่ไม่อยากสวยอ่อนเยาว์ ไม่อยากดูดีในสายตาคนอื่น หรือในสายตาของคนที่เรารัก และใบหน้าก็คือสิ่งแรกที่ทุกคนให้ความสนใจและใส่ใจมากที่สุดในร่างกาย เพราะไม่ว่าจะออกไปไหน สิ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจจากคนอื่นๆ ได้คือ "ใบหน้า"
การดูแลใบหน้าในปัจจุบันก็มีมากมายหลากหลายวิธี ทั้งการใช้เครื่องสำอาง การศัลยกรรม การทานอาหารบำรุง การฉีดยา การนวดหน้า รวมไปถึงการทำโยคะหน้า ที่ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ และทำให้เส้นประสาทบริเวณใบหน้าผ่อนคลายลงอีกด้วย
Face Yoga หรือ โยคะบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใบหน้า ช่วยให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์ ไม่เหี่ยว ไม่มีริ้วรอย เต่งตึง ช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนใบหน้า รอบดวงตา แก้ม และลำคอ มีความเรียว และกระชับมากยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาทำในแต่ละวันประมาณ 15-20 นาทีก็เพียงพอแล้ว
การออกกำลังกายหน้าผาก
วิธีทำ กำมือ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางวางที่หน้าผาก แล้วจึงกดเบาๆ เลื่อนออกด้านข้าง และกดเบาๆที่บริเวณขมับ ทำ 4 ครั้งต่อ 1 เซ็ต ท่านี้ช่วยในเรื่องการป้องกันริ้วรอยบริเวณหน้าผาก สำหรับคนที่ชอบขมวดคิ้ว เครียด จะช่วยในการลดการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากและขมับได้
การนวดดวงตา
วิธีทำ ปิดตา กำมือโดยเหลือนิ้วหัวแม่มือไว้ทั้งสองข้าง กดนิ้วหัวแม่มือลงบริเวณรอบดวงตา ค่อยๆ นวดและคลึงรอบดวงตาไปเรื่อยๆ ทำเป็นเวลา 2-3 นาที ท่านี้จะช่วยขจัดความหมองคล้ำและลดความตึงเครียดบริเวณรอบดวงตา
กระพริบตาออกกำลังกาย
วิธีทำ เบิกตาให้กว้างที่สุด พยายามเหลือกตาให้เห็นตาขาวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจึงปิดตาลง ลืมตาขึ้นอีกครั้งและปิดตาให้แน่นอย่างรวดเร็ว ทำไปจนกว่าดวงตาเริ่มจะมีน้ำ แล้วจึงพักสายตาด้วยการหลับตาค้างไว้ ทำซ้ำอีก โดยเซ็ตนึงให้ทำครั้งละประมาณ 3-4 นาที ท่านี้เป็นการออกกำลังกายบริเวณกล้ามเนื้อดวงตาและหน้าผาก และยังสามารถช่วยลดความจำเป็นในการใช้แว่นสายตาได้ในระยะหนึ่งอีกด้วย
ออกกำลังกายแก้ม
วิธีทำ หายใจเข้าทางปาก เก็บลมไว้ที่แก้มจนแก้มพองขึ้น ค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วจึงผ่อนลมหายใจออกทางปาก ทำซ้ำ 8-10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยในเรื่องของการปรับสภาพผิวหน้า ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแก้มแข็งแรง
ออกกำลังกายกระชับแก้ม
วิธีทำ ประกบริมฝีปากล่างและบนเม้มให้แน่น แล้วจึงเป่าลมออกทางริมฝีปากบน ทำค้างไว้สักพักจึงหายใจเข้า และนำลมไว้ที่แก้มซ้าย จนแก้มป่อง ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วจึงหายใจออก ย้ายลมมาไว้ที่แก้มขวา ค้างไว้ในเวลาเท่ากัน ทำเป็นเซ็ต 5 ครั้ง ท่านี้จะช่วยให้แก้มมีความกระชับขึ้นและลดความหย่อยคล้อยบริเวณแก้มลง
ออกกำลังกายปาก
วิธีทำ ยิ้มให้กว้างและยืดปากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจึงเปลี่ยนมาทำปากจู๋ ทำสลับกัน 20-25 ครั้ง ท่านี้ช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณปาก และกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม
ออกกำลังกายคาง
วิธีทำ จับคางไว้โดยให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างอยู่ใต้คาง แล้วจึงเริ่มกดนิ้วหัวแม่มือลงที่คาง ขยับนิ้วทั้งสองข้างขึ้นลงนวดวนบริเวณใต้คาง ประมาณ 2-3 นาที ท่านี้จะช่วยกำจัดคางสองชั้นได้ ช่วยให้บริเวณใต้คางตึงกระชับ ไม่หย่อนคล้อยหรือเหี่ยวย่น
การทำโยคะนั้นไม่เพียงแต่ช่วยให้ใบหน้ามีความตึงกระชับ ป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่น และช่วยให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์เท่านั้น เพราะยังสามารถช่วยลดความเครียด ช่วยให้ใบหน้ามีความสดใส สดชื่น และสามารถฝึกสมาธิได้อีกด้วย
แน่นอนว่าการทำโยคะใบหน้านั้นไม่ได้เห็นผลทันทีในครั้งแรกที่ทำ ทั้งหมดนี้ต้องอาศัย เวลา ความสม่ำเสมอ ความมุ่งมั่น และการมีจุดมุ่งหมายในการออกกำลังกาย อีกทั้งยังควบคู่ไปกับการดูแลผิวพรรณด้วยครีมบำรุง ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน จึงจะทำให้ผิวหน้านั้นสุขภาพดี เต่งตึง กระชับ สดใส อ่อนเยาว์อยู่เสมอ
นอกจากนี้แล้วที่สำคัญเลยก็คือไม่ควรละเลยในเรื่องของอาหารการกิน การพักผ่อนที่เพียงพอต่อร่างกาย การขับถ่ายที่สม่ำเสมอ การจัดการอารมณ์ให้ดี หรือไม่เครียดจนเกินไป และดูแลในเรื่องของการออกกำลังกายในส่วนอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
ข้อมูลประกอบ : https://www.artofliving.org
_____________________________________________
ข่าวโดย : แพรวา คงฟัก
การดูแลใบหน้าในปัจจุบันก็มีมากมายหลากหลายวิธี ทั้งการใช้เครื่องสำอาง การศัลยกรรม การทานอาหารบำรุง การฉีดยา การนวดหน้า รวมไปถึงการทำโยคะหน้า ที่ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ และทำให้เส้นประสาทบริเวณใบหน้าผ่อนคลายลงอีกด้วย
Face Yoga หรือ โยคะบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใบหน้า ช่วยให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์ ไม่เหี่ยว ไม่มีริ้วรอย เต่งตึง ช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนใบหน้า รอบดวงตา แก้ม และลำคอ มีความเรียว และกระชับมากยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาทำในแต่ละวันประมาณ 15-20 นาทีก็เพียงพอแล้ว
การออกกำลังกายหน้าผาก
วิธีทำ กำมือ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางวางที่หน้าผาก แล้วจึงกดเบาๆ เลื่อนออกด้านข้าง และกดเบาๆที่บริเวณขมับ ทำ 4 ครั้งต่อ 1 เซ็ต ท่านี้ช่วยในเรื่องการป้องกันริ้วรอยบริเวณหน้าผาก สำหรับคนที่ชอบขมวดคิ้ว เครียด จะช่วยในการลดการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากและขมับได้
การนวดดวงตา
วิธีทำ ปิดตา กำมือโดยเหลือนิ้วหัวแม่มือไว้ทั้งสองข้าง กดนิ้วหัวแม่มือลงบริเวณรอบดวงตา ค่อยๆ นวดและคลึงรอบดวงตาไปเรื่อยๆ ทำเป็นเวลา 2-3 นาที ท่านี้จะช่วยขจัดความหมองคล้ำและลดความตึงเครียดบริเวณรอบดวงตา
กระพริบตาออกกำลังกาย
วิธีทำ เบิกตาให้กว้างที่สุด พยายามเหลือกตาให้เห็นตาขาวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจึงปิดตาลง ลืมตาขึ้นอีกครั้งและปิดตาให้แน่นอย่างรวดเร็ว ทำไปจนกว่าดวงตาเริ่มจะมีน้ำ แล้วจึงพักสายตาด้วยการหลับตาค้างไว้ ทำซ้ำอีก โดยเซ็ตนึงให้ทำครั้งละประมาณ 3-4 นาที ท่านี้เป็นการออกกำลังกายบริเวณกล้ามเนื้อดวงตาและหน้าผาก และยังสามารถช่วยลดความจำเป็นในการใช้แว่นสายตาได้ในระยะหนึ่งอีกด้วย
ออกกำลังกายแก้ม
วิธีทำ หายใจเข้าทางปาก เก็บลมไว้ที่แก้มจนแก้มพองขึ้น ค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วจึงผ่อนลมหายใจออกทางปาก ทำซ้ำ 8-10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยในเรื่องของการปรับสภาพผิวหน้า ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแก้มแข็งแรง
ออกกำลังกายกระชับแก้ม
วิธีทำ ประกบริมฝีปากล่างและบนเม้มให้แน่น แล้วจึงเป่าลมออกทางริมฝีปากบน ทำค้างไว้สักพักจึงหายใจเข้า และนำลมไว้ที่แก้มซ้าย จนแก้มป่อง ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วจึงหายใจออก ย้ายลมมาไว้ที่แก้มขวา ค้างไว้ในเวลาเท่ากัน ทำเป็นเซ็ต 5 ครั้ง ท่านี้จะช่วยให้แก้มมีความกระชับขึ้นและลดความหย่อยคล้อยบริเวณแก้มลง
ออกกำลังกายปาก
วิธีทำ ยิ้มให้กว้างและยืดปากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจึงเปลี่ยนมาทำปากจู๋ ทำสลับกัน 20-25 ครั้ง ท่านี้ช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณปาก และกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม
ออกกำลังกายคาง
วิธีทำ จับคางไว้โดยให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างอยู่ใต้คาง แล้วจึงเริ่มกดนิ้วหัวแม่มือลงที่คาง ขยับนิ้วทั้งสองข้างขึ้นลงนวดวนบริเวณใต้คาง ประมาณ 2-3 นาที ท่านี้จะช่วยกำจัดคางสองชั้นได้ ช่วยให้บริเวณใต้คางตึงกระชับ ไม่หย่อนคล้อยหรือเหี่ยวย่น
การทำโยคะนั้นไม่เพียงแต่ช่วยให้ใบหน้ามีความตึงกระชับ ป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่น และช่วยให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์เท่านั้น เพราะยังสามารถช่วยลดความเครียด ช่วยให้ใบหน้ามีความสดใส สดชื่น และสามารถฝึกสมาธิได้อีกด้วย
แน่นอนว่าการทำโยคะใบหน้านั้นไม่ได้เห็นผลทันทีในครั้งแรกที่ทำ ทั้งหมดนี้ต้องอาศัย เวลา ความสม่ำเสมอ ความมุ่งมั่น และการมีจุดมุ่งหมายในการออกกำลังกาย อีกทั้งยังควบคู่ไปกับการดูแลผิวพรรณด้วยครีมบำรุง ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน จึงจะทำให้ผิวหน้านั้นสุขภาพดี เต่งตึง กระชับ สดใส อ่อนเยาว์อยู่เสมอ
นอกจากนี้แล้วที่สำคัญเลยก็คือไม่ควรละเลยในเรื่องของอาหารการกิน การพักผ่อนที่เพียงพอต่อร่างกาย การขับถ่ายที่สม่ำเสมอ การจัดการอารมณ์ให้ดี หรือไม่เครียดจนเกินไป และดูแลในเรื่องของการออกกำลังกายในส่วนอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
ข้อมูลประกอบ : https://www.artofliving.org
_____________________________________________
ข่าวโดย : แพรวา คงฟัก
