กระแสดูแลสุขภาพมาแรงไม่มีตกเทรนด์ แถมเมื่อสุขภาพดีจากภายในยังส่งผลต่อทำให้ภายนอกดูดีมีสง่าราศีจับ ช่วงรอบปีที่ผ่านมาหลายๆ คนจึงปรับเปลี่ยนกระบวนการรูปแบบไลฟ์สไตล์หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น แม้ว่าจะต้องแบ่งสันปั่นส่วนเวลาอันแสนเร่งรีบก็ตาม แต่จะดีกว่าหรือไม่หากมีวิธีการดูแลสุขภาพที่ดีและยังลดทอดเวลา เราจึงหยิบนำเมนูเครื่องดื่มที่เราทุกคนต้องดื่มกันอยู่แล้ว มาช่วยเสริมดูแลสุขภาพอีก 1 เมนู มาฝาก ซึ่งเมนูที่ว่านี้ก็คือ น้ำสับปะรดปั่นใบโหระพา
โดยสรรพคุณของสับปะรดนั้นเป็นที่ขึ้นชื่อลือชา เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี อันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพเราเป็นอย่างมาก ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัด ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชรา ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ และในทางสมุนไพรสัปปะรดก็ยังช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายเช่นกัน เช่น โรคบิด โรคนิ่ว ช่วยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง ขับปัสสาวะ อีกด้วย
ส่วนใบโหระพานั้นนอกจากจัดเป็นเครื่องเคียงชั้นยอดช่วยชูรสชาติของอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น ยังเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่าง วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ที่ช่วยป้องกันความเสียหายในร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง มีฤทธิ์ในการช่วยลดคอเลสเตอรอลและแผ่นคราบพลัคในกระแสเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด เราจึงเห็นเมนูอาหารที่มีใบโหระพาอยู่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งดิบและสุข แต่อย่างไรก็ตามใบโหระพายังสามารถนำมาปรับเปลี่ยนเป็นเมนูร่วมกับเครื่องดื่มได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะได้รสชาติที่อร่อยแล้วยังดีต่อสุขภาพมากคุณอนันต์
ซึ่งวิธีทำนั้นก็ง่ายแสนง่าย เริ่มจาก ปอกเปลือกสับปะรด 1 ผลเล็กออก แล้วหั่นชิ้นเล็กทั้งหัวรวมแกนกลางด้วย ใบโหระพา 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ใช้ทั้งก้านและใบดอก เด็ดหรือหั่นสั้นๆ นำน้ำใส่โถปั่น 1 ลิตร พร้อมกับใส่สับปะรดและโหระพาที่เตรียมไว้ ปั่นให้ละเอียดจากนั้นกรองกากใย เป็นอันเสร็จสิ้นสามารถดื่มได้ทันที เพราะมีรสเปรี้ยวอมหวานจากสับปะรดอยู่แล้ว หรือจะเพิ่มเติมรสชาติความหวานหรือเปรี้ยวจากน้ำผึ้งหรือมะนาวให้ยิ่งขึ้นก็ได้
ทั้งนี้สามารถเก็บแช่ในตู้เย็นคงสรรพคุณค่าได้อีกด้วยและเมื่อดื่มเป็นประจำทุกวันร่างกายที่เคยอ่อนเพลีย ผิวพรรณที่ไม่สดใส จะค่อยๆ กลับมากระปรี้กระเปร่า แจ่มใส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำงานหนักๆ
ข้อมูลบางส่วนจาก www.rak-sukapap.com
โดยสรรพคุณของสับปะรดนั้นเป็นที่ขึ้นชื่อลือชา เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี อันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพเราเป็นอย่างมาก ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัด ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชรา ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ และในทางสมุนไพรสัปปะรดก็ยังช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายเช่นกัน เช่น โรคบิด โรคนิ่ว ช่วยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง ขับปัสสาวะ อีกด้วย
ส่วนใบโหระพานั้นนอกจากจัดเป็นเครื่องเคียงชั้นยอดช่วยชูรสชาติของอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น ยังเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่าง วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ที่ช่วยป้องกันความเสียหายในร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง มีฤทธิ์ในการช่วยลดคอเลสเตอรอลและแผ่นคราบพลัคในกระแสเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด เราจึงเห็นเมนูอาหารที่มีใบโหระพาอยู่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งดิบและสุข แต่อย่างไรก็ตามใบโหระพายังสามารถนำมาปรับเปลี่ยนเป็นเมนูร่วมกับเครื่องดื่มได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะได้รสชาติที่อร่อยแล้วยังดีต่อสุขภาพมากคุณอนันต์
ซึ่งวิธีทำนั้นก็ง่ายแสนง่าย เริ่มจาก ปอกเปลือกสับปะรด 1 ผลเล็กออก แล้วหั่นชิ้นเล็กทั้งหัวรวมแกนกลางด้วย ใบโหระพา 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ใช้ทั้งก้านและใบดอก เด็ดหรือหั่นสั้นๆ นำน้ำใส่โถปั่น 1 ลิตร พร้อมกับใส่สับปะรดและโหระพาที่เตรียมไว้ ปั่นให้ละเอียดจากนั้นกรองกากใย เป็นอันเสร็จสิ้นสามารถดื่มได้ทันที เพราะมีรสเปรี้ยวอมหวานจากสับปะรดอยู่แล้ว หรือจะเพิ่มเติมรสชาติความหวานหรือเปรี้ยวจากน้ำผึ้งหรือมะนาวให้ยิ่งขึ้นก็ได้
ทั้งนี้สามารถเก็บแช่ในตู้เย็นคงสรรพคุณค่าได้อีกด้วยและเมื่อดื่มเป็นประจำทุกวันร่างกายที่เคยอ่อนเพลีย ผิวพรรณที่ไม่สดใส จะค่อยๆ กลับมากระปรี้กระเปร่า แจ่มใส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำงานหนักๆ
ข้อมูลบางส่วนจาก www.rak-sukapap.com