ด้วยรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบทำให้เรามีเวลาไม่ค่อยจะสามารถเจียดไปออกกำลังกาย ส่งผลให้ร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยง่ายกันมากขึ้น และยิ่งท่ามกลางสภาพอากาศที่เป็นมลพิษอย่างทุกวันนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้จำนวนครั้งบ่อยมากขึ้นอีกด้วย
วันนี้เราก็เลยหยิบนำวิธีการออกกำลังกายแบบง่ายๆ สามารถทำได้ทั้งเวลาทำงาน เวลาเดินทาง หรือกระทั่งเวลาพักผ่อน นั้นก็คือการกำมือนั้นเอง
นั่นเพราะการกำมือ ส่งผลดีกับระบบหมุนเลือด ทำให้การหมุนเวียนเลือดเป็นไปอย่างคล่องตัว เมื่อระบบไหลเวียนร่างกายทำงานด้วยประสิทธิภาพที่ดี ทำความสะอาดท่อเส้นเลือดที่เกิดจากไขมันเกาะตามผนัง ซึ่งระบบต่างๆ ของร่างกายก็จะเสริมส่งซึ่งกันและกันนั้นเอง
โดยการกำมือควรนั่งตัวตรงเพื่อขยายซี่โครงให้กว้างขึ้น จากนั้นกำมือทั้งสองข้างพร้อมๆ กัน และในระหว่างที่กำมือให้หายใจเข้าลึกๆ ให้เต็มปอดเพื่อให้เม็ดเลือดแดงได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ก่อนจะคลายมือช้าๆ พร้อมกับผ่อนลมหายใจออกผ่านทางจมูกนานจนรู้สึกว่า ทำให้ท้องแฟบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำซ้ำๆ อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ร่างกายก็จะแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เป็นโรคเนื่องจากระบบต่างๆ ในการกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การกำมือเพียงข้างเดียวด้วยแรง 30 เปอร์เซ็นต์ของแรงตัวเรา (ถ้ากะน้ำหนักไม่ถูกให้ใช้ผ้าขนหนู 1 ผืน ม้วนให้ได้ขนาดพอกำมือแล้วนิ้วไม่สัมผัสกัน) เป็นเวลา 2 นาที ต่อด้วยการคลายมือพัก 1 นาที จำนวน 2 ครั้ง สลับกันทั้งสองข้าง การบริหารด้วยวิธีนี้อย่างต่อเนื่องประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ยังสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลดความดันโลหิต เพราะเวลาที่เรากำมือจะทำให้กล้ามเนื้อแขนเราบีบเส้นเลือด จากนั้นพอเราคลายการบีบจะทำให้เส้นเลือดคลายตัวทันที ในจังหวะนี้ก็จะทำให้เซลล์เยื่อบุเส้นเลือดหลั่งสาร ‘ไนตริกออกไซด์’ ซึ่งมีผลทำให้เส้นเลือดขยายตัว
ทั้งนี้การกำมือยังช่วยพัฒนาสมองโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับกิริยาหลายแบบที่เชื่อมโยงกับสมอง เป็นต้นว่าการกรอกตาขึ้นข้างบนเวลานึกถึงเรื่องต่างๆ คนเรามีมืออยู่ 2 ข้างซึ่งการกำมือที่เป็นกิริยาง่ายๆ ทุกคนทำได้นั้น มีผลต่อสมองซึ่งอยู่ห่างออกไปได้
โดยการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมองต์แคลสเตทเผยว่าการกำมือ “ซ้าย” และ “ขวา” ให้ผลที่ต่างกันโดยการกำมือขวาช่วยให้ความจำมั่นคงแม่นยำขึ้น ส่วนการกำมือซ้ายนั้นมีส่วนช่วยให้เก็บเกี่ยวความทรงจำได้ดีในเวลาต่อมา ซึ่งเรื่องนี้มีคำอธิบายคร่าวๆ ว่าการเปลี่ยนกิริยาเล็กๆ น้อยๆ ของร่างกายมีผลกับการทำงานของสมอง โดยการกำมือนั้นไปกระตุ้นบางจุดของสมองที่เกี่ยวกับความจำ
วันนี้เราก็เลยหยิบนำวิธีการออกกำลังกายแบบง่ายๆ สามารถทำได้ทั้งเวลาทำงาน เวลาเดินทาง หรือกระทั่งเวลาพักผ่อน นั้นก็คือการกำมือนั้นเอง
นั่นเพราะการกำมือ ส่งผลดีกับระบบหมุนเลือด ทำให้การหมุนเวียนเลือดเป็นไปอย่างคล่องตัว เมื่อระบบไหลเวียนร่างกายทำงานด้วยประสิทธิภาพที่ดี ทำความสะอาดท่อเส้นเลือดที่เกิดจากไขมันเกาะตามผนัง ซึ่งระบบต่างๆ ของร่างกายก็จะเสริมส่งซึ่งกันและกันนั้นเอง
โดยการกำมือควรนั่งตัวตรงเพื่อขยายซี่โครงให้กว้างขึ้น จากนั้นกำมือทั้งสองข้างพร้อมๆ กัน และในระหว่างที่กำมือให้หายใจเข้าลึกๆ ให้เต็มปอดเพื่อให้เม็ดเลือดแดงได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ก่อนจะคลายมือช้าๆ พร้อมกับผ่อนลมหายใจออกผ่านทางจมูกนานจนรู้สึกว่า ทำให้ท้องแฟบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำซ้ำๆ อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ร่างกายก็จะแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เป็นโรคเนื่องจากระบบต่างๆ ในการกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การกำมือเพียงข้างเดียวด้วยแรง 30 เปอร์เซ็นต์ของแรงตัวเรา (ถ้ากะน้ำหนักไม่ถูกให้ใช้ผ้าขนหนู 1 ผืน ม้วนให้ได้ขนาดพอกำมือแล้วนิ้วไม่สัมผัสกัน) เป็นเวลา 2 นาที ต่อด้วยการคลายมือพัก 1 นาที จำนวน 2 ครั้ง สลับกันทั้งสองข้าง การบริหารด้วยวิธีนี้อย่างต่อเนื่องประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ยังสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลดความดันโลหิต เพราะเวลาที่เรากำมือจะทำให้กล้ามเนื้อแขนเราบีบเส้นเลือด จากนั้นพอเราคลายการบีบจะทำให้เส้นเลือดคลายตัวทันที ในจังหวะนี้ก็จะทำให้เซลล์เยื่อบุเส้นเลือดหลั่งสาร ‘ไนตริกออกไซด์’ ซึ่งมีผลทำให้เส้นเลือดขยายตัว
ทั้งนี้การกำมือยังช่วยพัฒนาสมองโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับกิริยาหลายแบบที่เชื่อมโยงกับสมอง เป็นต้นว่าการกรอกตาขึ้นข้างบนเวลานึกถึงเรื่องต่างๆ คนเรามีมืออยู่ 2 ข้างซึ่งการกำมือที่เป็นกิริยาง่ายๆ ทุกคนทำได้นั้น มีผลต่อสมองซึ่งอยู่ห่างออกไปได้
โดยการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมองต์แคลสเตทเผยว่าการกำมือ “ซ้าย” และ “ขวา” ให้ผลที่ต่างกันโดยการกำมือขวาช่วยให้ความจำมั่นคงแม่นยำขึ้น ส่วนการกำมือซ้ายนั้นมีส่วนช่วยให้เก็บเกี่ยวความทรงจำได้ดีในเวลาต่อมา ซึ่งเรื่องนี้มีคำอธิบายคร่าวๆ ว่าการเปลี่ยนกิริยาเล็กๆ น้อยๆ ของร่างกายมีผลกับการทำงานของสมอง โดยการกำมือนั้นไปกระตุ้นบางจุดของสมองที่เกี่ยวกับความจำ
