เราทุกคนต่างก็รู้ว่าผลไม้นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็ไม่แน่เช่นกันว่า บางที การกินผลไม้นั้นอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี หรือแม้แต่ความหวานมากๆ ของผลไม้บางชนิดที่อาจไม่ส่งผลดีต่อร่างกายได้เช่นกัน
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการรับประทานผลไม้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด และลดความเสี่ยงทั้งอันตรายและโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะตามมา โดยมีหลัก 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. กินผลไม้ให้หลากหลาย
ไม่ควรกินผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันหลายๆ วัน เช่น กินแต่กล้วยน้ำว้าทุกวัน ควรกินผลไม้ชนิดอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เพระว่าผลไม้แต่ละชนิดที่มีสีแตกต่างกัน ต่างประเภทกันจะมีสารอาหาร และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือสารป้องกันมะเร็งที่แตกต่างกันไปด้วย หากเรากินผลไม้ที่หลากหลายแล้ว ก็จะทำให้ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายที่หลากหลายด้วยเช่นกัน
2. กินผลไม้ให้เพียงพอ
ในแต่ละวัน ควรกินผลไม้ให้ได้ 3 ส่วนต่อ 1 วัน เช่น ส้ม 1 ลูก กล้วย 1 ลูก เท่ากับ 1 ส่วน สับปะรด มะละกอ แตงโมง 6-7 ชิ้นพอดีคำ แต่ละชิ้นถือว่า 1 ส่วน วันหนึ่งต้องกินให้ได้ 3 ส่วน จึงจะได้ปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
3. เน้นกินผลไม้ที่มีรสหวานน้อย หวานปานกลาง และกินผลไม้ที่หวานจัดแต่ในปริมาณที่พอดี เพราะน้ำตาลที่อยู่ในผลไม้สามารถเปลี่ยนเป็นไขมันได้เช่นกัน ถ้ากินในปริมาณที่ร่างกายนำไปใช้ไม่หมด
4. หากในระหว่างมื้ออาหารเกิดความหิว ควรกินผลไม้แทนการกินขนมหวาน เพราะเป็นกลุ่มอาหารที่ให้พลังงานต่ำ และช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นาน
5. กินผลไม้ตามฤดูกาล เพราะราคาถูก คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผลไม้ที่ออกนอกฤดูกาล และปลอดภัยจากสารเคมี
ผลไม้ทุกชนิดต้านโรคได้หมด มีโภชนาการเหมือนกัน เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ผลไม้แต่ละชนิดแต่ละสี สารอาหารอาจไม่เหมือนกัน แต่ที่มีในผลไม้ทุกชนิด คือวิตามินซี และผลไม้ที่มีสีอาจจะมีเบต้าแคโรทีนเยอะกว่าผลไม้สีชนิดอื่นๆ
________________________________________
ข้อมูล : http://www.thaihealth.or.th
ภาพ : Pixabay.com
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการรับประทานผลไม้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด และลดความเสี่ยงทั้งอันตรายและโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะตามมา โดยมีหลัก 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. กินผลไม้ให้หลากหลาย
ไม่ควรกินผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันหลายๆ วัน เช่น กินแต่กล้วยน้ำว้าทุกวัน ควรกินผลไม้ชนิดอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เพระว่าผลไม้แต่ละชนิดที่มีสีแตกต่างกัน ต่างประเภทกันจะมีสารอาหาร และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือสารป้องกันมะเร็งที่แตกต่างกันไปด้วย หากเรากินผลไม้ที่หลากหลายแล้ว ก็จะทำให้ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายที่หลากหลายด้วยเช่นกัน
2. กินผลไม้ให้เพียงพอ
ในแต่ละวัน ควรกินผลไม้ให้ได้ 3 ส่วนต่อ 1 วัน เช่น ส้ม 1 ลูก กล้วย 1 ลูก เท่ากับ 1 ส่วน สับปะรด มะละกอ แตงโมง 6-7 ชิ้นพอดีคำ แต่ละชิ้นถือว่า 1 ส่วน วันหนึ่งต้องกินให้ได้ 3 ส่วน จึงจะได้ปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
3. เน้นกินผลไม้ที่มีรสหวานน้อย หวานปานกลาง และกินผลไม้ที่หวานจัดแต่ในปริมาณที่พอดี เพราะน้ำตาลที่อยู่ในผลไม้สามารถเปลี่ยนเป็นไขมันได้เช่นกัน ถ้ากินในปริมาณที่ร่างกายนำไปใช้ไม่หมด
4. หากในระหว่างมื้ออาหารเกิดความหิว ควรกินผลไม้แทนการกินขนมหวาน เพราะเป็นกลุ่มอาหารที่ให้พลังงานต่ำ และช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นาน
5. กินผลไม้ตามฤดูกาล เพราะราคาถูก คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผลไม้ที่ออกนอกฤดูกาล และปลอดภัยจากสารเคมี
ผลไม้ทุกชนิดต้านโรคได้หมด มีโภชนาการเหมือนกัน เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ผลไม้แต่ละชนิดแต่ละสี สารอาหารอาจไม่เหมือนกัน แต่ที่มีในผลไม้ทุกชนิด คือวิตามินซี และผลไม้ที่มีสีอาจจะมีเบต้าแคโรทีนเยอะกว่าผลไม้สีชนิดอื่นๆ
________________________________________
ข้อมูล : http://www.thaihealth.or.th
ภาพ : Pixabay.com