เราจะสามารถรู้ได้อย่างไรกันนะว่าลำไส้ของเรากำลังมีปัญหาหรือมีความผิดปกติ
เวลาลำไส้ของเรามีปัญหาหรือความผิดปกติอาจบ่งบอกได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นภาวะลำไส้แปรปรวน ซึ่งเกิดจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ มักจะมีอาการปวดท้องแบบเป็นๆ หายๆ นานเกิน 6 เดือนขึ้นไปร่วมกับการขับถ่ายที่ผิดปกติ
หรืออาจร้ายแรงไปกว่านั้นนั่นก็คือ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ซึ่งหลักๆ เกิดจากปัญหาที่ระบบย่อยอาหารอาการที่เป็นจะปวดอุจจาระบ่อย ถ่ายไม่เป็นเวลา ถ่ายวันละหลายครั้งซึ่งเป็นเรื้อรังอย่างนี้อยู่หลายปี หรือจะโรคลำไส้เล็กอักเสบ ที่จะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง มักมีไข้ร่วมด้วย สาเหตุที่พบบ่อยก็คือเกิดจากอาหารเป็นพิษ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลอาจจะนำมาซึ่งโรคมะเร็งลำไส้ได้
แล้วควรกินอย่างไร ถึงจะดีต่อลำไส้?
1. รับประทานผัก ผลไม้ ให้พอเหมาะเป็นประจำทุกวัน ที่สำคัญควรเลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัด และเน้นทานเป็นผลสด แทนการดื่มน้ำผลไม้เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาลแถมเส้นใยยังน้อยกว่า
** ผักผลไม้ที่ดีต่อลำไส้ได้แก่ กล้วย แอปเปิ้ล มะละกอ มะนาว แครอท ใบกระเพรา หอมแดง ตะไคร้ พริกสด กระหล่ำปลี ผักใบเขียวต่างๆ ฯลฯ
2. รับประทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ผ่านกรรมวิธีหรือการขัดสี อาทิ ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ธัญพืชต่างๆ เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุแล้ว ยังมีเส้นใยและกากอาหารที่ช่วยในการขับถ่ายด้วย
3. รับประทานโยเกิร์ต หรือดื่มนมก็สามารถช่วยได้ เนื่องจากจะไปเพิ่มจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีได้ แต่ควรเลือกซื้อแบบไขมันต่ำ และน้ำตาลต่ำจะดีกว่า
4. รับประทานอาหารเช้าเนื่องจากเป็นช่วงที่ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดี
5. ควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันอิ่มตัวสูง อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เพราะอาหารเหล่านี้มีเส้นใยอาหารน้อยมาก
6. ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว
นอกจากการรับประทานที่ดีและพอเหมาะแล้วควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอร่วมด้วย
เวลาลำไส้ของเรามีปัญหาหรือความผิดปกติอาจบ่งบอกได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นภาวะลำไส้แปรปรวน ซึ่งเกิดจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ มักจะมีอาการปวดท้องแบบเป็นๆ หายๆ นานเกิน 6 เดือนขึ้นไปร่วมกับการขับถ่ายที่ผิดปกติ
หรืออาจร้ายแรงไปกว่านั้นนั่นก็คือ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ซึ่งหลักๆ เกิดจากปัญหาที่ระบบย่อยอาหารอาการที่เป็นจะปวดอุจจาระบ่อย ถ่ายไม่เป็นเวลา ถ่ายวันละหลายครั้งซึ่งเป็นเรื้อรังอย่างนี้อยู่หลายปี หรือจะโรคลำไส้เล็กอักเสบ ที่จะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง มักมีไข้ร่วมด้วย สาเหตุที่พบบ่อยก็คือเกิดจากอาหารเป็นพิษ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลอาจจะนำมาซึ่งโรคมะเร็งลำไส้ได้
แล้วควรกินอย่างไร ถึงจะดีต่อลำไส้?
1. รับประทานผัก ผลไม้ ให้พอเหมาะเป็นประจำทุกวัน ที่สำคัญควรเลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัด และเน้นทานเป็นผลสด แทนการดื่มน้ำผลไม้เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาลแถมเส้นใยยังน้อยกว่า
** ผักผลไม้ที่ดีต่อลำไส้ได้แก่ กล้วย แอปเปิ้ล มะละกอ มะนาว แครอท ใบกระเพรา หอมแดง ตะไคร้ พริกสด กระหล่ำปลี ผักใบเขียวต่างๆ ฯลฯ
2. รับประทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ผ่านกรรมวิธีหรือการขัดสี อาทิ ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ธัญพืชต่างๆ เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุแล้ว ยังมีเส้นใยและกากอาหารที่ช่วยในการขับถ่ายด้วย
3. รับประทานโยเกิร์ต หรือดื่มนมก็สามารถช่วยได้ เนื่องจากจะไปเพิ่มจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีได้ แต่ควรเลือกซื้อแบบไขมันต่ำ และน้ำตาลต่ำจะดีกว่า
4. รับประทานอาหารเช้าเนื่องจากเป็นช่วงที่ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดี
5. ควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันอิ่มตัวสูง อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เพราะอาหารเหล่านี้มีเส้นใยอาหารน้อยมาก
6. ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว
นอกจากการรับประทานที่ดีและพอเหมาะแล้วควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอร่วมด้วย