xs
xsm
sm
md
lg

"สายบัว" ผักไทยๆ บำรุงหัวใจ ลดความดัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผักสารพัดปรุง แล้วยังใช้ทำขนมได้อีกด้วย ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ใกล้ชิดชีวิตคนไทย เพราะนิยมเลี้ยงหรือปลูกบัวประดับบ้าน นำมาเป็นดอกไม้ไหว้พระแล้วยังใช้ทำอาหารสารพัดอย่าง ซึ่งดอกบัวดังที่กล่าวมานี้ นำไปทำอาหารก็ได้ ปลูกประดับก็สวยดี มี 2 ชนิดคือ บัวหลวง และบัวสายบัวหลวง คือบัวที่เรากินฝักบัว เมล็ดบัว รากบัว ไหลบัว แล้วยังเอาดีบัว (ขม) ที่อยู่ใจกลางเม็ดบัว มาทำยา ชงชา ใช้ลดความดัน บำรุงหัวใจ ส่วนดอกบัวหลวงนิยมนำมาเป็นดอกบัวบูชาในหลายรูปแบบ

ก้านดอกบัว 
ชนิดนี้แข็ง เป็นหนาม ใยมาก รสฝาดขมเฝื่อน ไม่สามารถนำมาทำอาหารได้บัวสาย คือ บัวก้านเรียบ เนื้อบัวอ่อน รสหวาน ฤทธิ์เย็น ดอกบัวสายมีหลายสี แต่ชนิดที่นำมากินได้คือ บัวสายดอกแดง กับบัวสายดอกขาว เฉพาะบัวสายดอกขาว เรียกว่า ดอกบัวสัตตบรรณ บัวสายยังมีสายพันธุ์อื่นอีกที่มีดอกสีม่วง ฟ้า ชมพู เหลือง เขียว คราม เป็นบัวสายก้านเล็ก ดอกเล็ก ไม่นำมากินเป็นอาหาร ปลูกเป็นไม้ประดับสระ ประดับบ้าน เท่านั้น

1. สายบัวผัดกะปิ

**สำหรับ 4 คน
สำยบัวลอกเยื่อ
หักท่อน 2 นิ้ว 200 กรัม
พริกชี้ฟ้ำสีเหลือง
ผ่ำเอำเมล็ดออกหั่นชิ้น 2 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
กระเทียมไทย 15 กลีบ
หอมแดงหั่น ¼ ถ้วย
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแชบ๊วย (ตัวละ 25-30 กรัม)
แกะเปลือกผ่ำหลัง 6 ตัว
น้ำตำลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลำ 1 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพำ ½ ถ้วย
ยอดโหระพาสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ล้างสายบัวด้วยน้าเกลือเจือจางเพื่อเอายางออก แล้วนำไปลวกในหม้อน้าเดือดด้วยไฟแรงจนสุก ตักขึ้นผ่านน้ำเย็นที่ใส่น้ำแข็ง บีบน้ำออก ใส่ชาม เตรียมไว้

2. โขลกพริกชี้ฟ้าสีเหลือง พริกขี้หนูกระเทียม 9 กลีบ หอมแดง และกะปิ เข้าด้วยกันพอแหลก แล้วนำไปผัดในกระทะน้ามันมะกอกร้อนด้วยไฟกลางจนหอม ใส่กุ้ง ผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้าตาล และน้าปลา ผัดพอทั่ว ใส่สายบัวที่เตรียมไว้ ผัดพอสุกหอม ใส่กระเทียมที่เหลือ และใบโหระพา ผัดพอสุกทั่ว ปิดไฟ

3. ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยยอดโหระพาเสิร์ฟร้อนๆ

2. แกงส้มสายบัว

** สำหรับ 4 คน
ปลาช่อนนา (500 กรัม) 1 ตัว
น้ำ 4½ ถ้วย
น้ำปลา_2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2½ ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
สายบัวลอกเยื่อหักท่อน 2 นิ้ว 200 กรัม
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง (ปริมาณ ½ ถ้วย)
พริกแห้งเม็ดใหญ่ผ่าเอาเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม 7 เม็ด
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ 9 เม็ด
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ) ½ ช้อนชา
หอมแดงหั่น 7 หัว
กระชายขูดเปลือกหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 1½ ช้อนชา

วิธีทำ

1. ขอดเกล็ดปลา ผ่าท้องเอาดีออก ล้างด้วยน้ำปูนใสจนหมดเมือก ล้างน้ำอีกครั้งแล้วหั่ท่อนหางประมาณ 3 นิ้ว ส่วนที่เหลือหั่นแว่นหนา 1 ซม. หัวปลาสับชิ้น แล้วนำปลาช่อนที่หั่นล้างน้ำอีกครั้งจนสะอาด ใส่พักในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ

2. ตั้งหม้อน้ำบนไฟแรงจนเดือด ใส่ปลาช่อนท่อนหางลงต้มจนสุก ตักขึ้น ปิดไฟแกะเอาแต่เนื้อปลา ใส่ถ้วย เตรียมไว้

3. ทำน้ำพริกแกงส้มโดยโขลกพริกแห้งเม็ดใหญ่ พริกขี้หนู และเกลือ เข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่หอมแดง กระชาย และกะปิ โขลกรวมกันจนละเอียดเข้ากันดี ใส่เนื้อปลาช่อนต้ม โขลกต่อจนละเอียดเข้ากันดี เตรียมไว้

4. ตั้งหม้อน้ำต้มปลาบนไฟกลาง ใส่น้ำพริกแกงส้มที่โขลก คนให้ทั่ว เคี่ยวให้เดือดสักครู่ ปรุงรสด้วยน้ำ ปลา น้ำ ตาลปี๊บ น้ำ มะขามเปียก และเกลือ ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มเผ็ด พอเดือดใส่สายบัว เคี่ยวพอสุก พอเดือดอีกครั้งใส่ปลาช่อน (ห้ามคน ปลาจะมีกลิ่นคาว)พอสุก ใส่น้ำมะนาว ปิดไฟ

5. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟร้อนๆ

3. ยำสายบัว

** สำหรับ 4 คน
สายบัวแดงซอยเส้น 1 ถ้วย
กุ้งแชบ๊วย (ตัวละ 25-30 กรัม)
แกะเปลือกผ่าหลังลวก 4 ตัว
ก้านผักบุ้งนาซอย 1 ช้อนโต๊ะ
แครอทซอยเส้น 1 ช้อนโต๊ะ
เต้าหู้ขาวยีชิ้นเล็กทอดพอเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูดขาวคั่วจนเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิเคี่ยว 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ต้มสุกหั่นแว่น 1 ฟอง
พริกขี้หนูแห้งทอดและผักชีสำหรับตกแต่ง
ผักสดมี ผักกาดขาว ผักบุ้งท้องนา ฯลฯ
น้ำยำ (ปริมาณ ½ ถ้วย)
น้ำพริกเผา_2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
น้ำปลา_1½ ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ) ½ ช้อนชา

วิธีทำ

1. ทำน้ำยำโดยผสมเครื่องปรุงทั้งหมดในถ้วยจนน้ำตาลละลาย ชิมให้มีรสหวาน เค็ม เปรี้ยว เตรียมไว้

2. ใส่สายบัว กุ้งลวก ก้านผักบุ้ง และแครอทซอย ในอ่างผสม ใส่น้ำยำปริมาณตามชอบ คลุกเคล้าเบาๆให้เข้ากันทั่ว ใส่เต้าหู้ทอดถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้ง มะพร้าวขูดคั่ว หอมแดงเจียว และกระเทียมเจียว เคล้าอีกครั้งพอทั่ว

3. ตักใส่จาน ราดหัวกะทิ วางไข่ต้ม ตกแต่งด้วยพริกขี้หนูแห้งทอดและผักชี เสิร์ฟกับผักสด
__________________________________________
สนับสนุนบทความโดย สำนักพิมพ์แสงแดด Facebook/Sangdadpublising

กำลังโหลดความคิดเห็น