สูตรฟิตหุ่นเฟิร์ม ฉบับ "ซีน ปัณณ์ญาณัช"

สาวนักเต้นหนึ่งในสมาชิกทีมแชมป์เต้นโคฟเวอร์ 4 Minute Scott Puree 2010 แถมยังคลุกคลีอยู่กับงานในวงการบันเทิงมามากมาย อาทิ งานโฆษณา,มิวสิกวีดิโอ,งานพิธีกร,งานละคร รวมไปถึงงานภาพยนตร์ที่เข้าโรงไปหมาดๆ อย่างภาพยนตร์เรื่อง “Single Lady” นั่นเอง

“ซีน ปัณณ์ญาณัช จิรโรจน์ธนเกษม”

เธอชื่นชอบการดูแลสุขภาพมาก เพราะด้วยความที่เป็นนักเต้นมาก่อนอีกทั้งยังต้องแคสติ้งงานในวงการค่อนข้างบ่อยทำให้ต้องดูแลรักษาหุ่นตลอดเวลา แต่ใครจะเชื่อว่าเธอเองก็เคยมีประสบการณ์ลดน้ำหนักแบบผิดวิธีมาก่อนหน้านี้เช่นกัน


“ซีนเคยอ้วนมากค่ะ มากที่สุดอยู่ที่ 55 กิโลกรัมเลยทำให้อยากลดน้ำหนัก ซีนเริ่มอ่านหนังสือของแพทย์ญี่ปุ่นที่ดูแลเรื่องระบบย่อยอาหารแล้วซีนก็ลองทำตามที่แพทย์เขาแนะนำในหนังสือ ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารแบบดีท้อกซ์ร่างกาย จนทำได้สองเดือนผ่านไป น้ำหนักลงมาสิบกิโลกรัม”


หลังจากที่น้ำหนักลงแล้วเธอก็เริ่มหันมาออกกำลังกายเพราะรู้สึกว่าน้ำหนักลงเยอะเกินไปแต่ก็ยังเป็นการออกกำลังกายที่หนักเกินไปและผิดวิธีอยู่นั่นเอง แถมร่างกายก็อ่อนแอตามไปด้วยจนถึงขนาดฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนผิดปกติ ประจำเดือนไม่มาหลายเดือน ตัวเหลือง ตาขาวเหลือง เลือดไม่ดี ผมแห้ง ผมร่วงเหมือนเป็นการส่งสัญญาณออกมาทางร่างกายจนต้องเข้าพบหมอแล้วก็ได้คำตอบมาว่าเธอนั้นเข้าข่ายโรคอะนอเร็กเซีย (โรคคลั่งผอม)
 

span style=" color: #0000ff;">“ซีนเริ่มออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะร้อนพอเล่นโยคะไปได้สักพักหนึ่งก็คิดว่าทำไมมันไม่เฟิร์มสักทีทั้งๆ ที่เราก็โยคะบ่อย ทำไมแขนเรายังย้วยๆ อยู่ ซีนเลยหันมาเริ่มเวทแบบนิดๆ หน่อยๆตามวีดิโอ ที่นี้ช่วงที่ซีนเคยทำตามสูตรแพทย์ญี่ปุ่นมาเลยทำให้เรากินน้อย ซึ่งส่วนตัวซีนเองจะคุมแคลอรี่มาเรื่อยๆ ซึ่งมันน้อยมาก (ลากเสียงยาว) กินอะไรไม่ค่อยได้เลย พอเราน้ำหนักลงแล้วก็ไม่อยากให้มันขึ้นอีก วันไหนที่ซีนเผลอหลุดกินซีนก็จะไปออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ตอนนั้นซีนเลยจะเป็นสายคาร์ดิโอมากๆ ออกกำลังแบบเซอร์กิต (Circuit) (เป็นการออกกำลังกายที่เน้นความต่อเนื่องและหลากหลาย) หรือไม่ก็วิ่ง จนซีนคาร์ดิโอไปทำลายกล้ามเนื้อมากเกินไปเพราะว่าออกกำลังกายเสร็จซีนก็ไม่ได้กินอะไรซ่อมแซมเข้าไปทีนี้มันเลยเป็นอารมณ์ที่ว่ายิ่งคาร์ดิโอก็ยิ่งอ้วน ทำมาได้ประมาณหนึ่งปีมันก็ไม่เห็นผลสักที ร่างกายก็ไม่แข็งแรง เผละกว่าเดิม”

“ตอนนั้นที่ลดลงได้ 10 กิโลกรัมซีนไม่เฟิร์มเลยนะคะ แต่ถามว่าพอใจไหมช่วงแรกมันก็พอใจนะ แต่พักหลังๆ ก็มีคนทักมาเยอะว่าเราผอมไปจนเราออกแนวจิตๆ ไปแล้วประมาณว่าใครทักว่าผอมไปแต่เราก็ยังคิดว่าเราไม่ผอม เรายังไม่พอใจเลยทำให้ต้องคาร์ดิโอมากขึ้นจนฮอร์โมนผิดปกติเพราะเราแทบจะไม่ได้กินไขมันเลย เนื้อสัตว์ก็ไม่ค่อยได้กิน”

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็โชคดีที่ได้เจอกับโค้ชฟ้าใส พึ่งอุดม (เทรนเนอร์ฟิตเนสชื่อดัง) ที่ให้ความรู้ว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นั้นมันผิดมหันต์ซึ่งวิธีการลดน้ำหนักดังกล่าวเป็นการทำร้ายร่างกายตัวเองทำให้ร่างกายเกิดอาการ Safe Mode

“ซีนได้มีโอกาสมาเจอกับพี่ฟ้า (ฟ้าใส พึ่งอุดม) เทรนเนอร์ฟิตเนสชื่อดัง ซึ่งพี่ฟ้าบอกกับซีนว่าที่ซีนทำเป็นวงจรที่ทำร้ายร่างกายตัวเองมันทำให้ร่างกายเกิดอาการ Safe Mode ประมาณว่าเรากินน้อยแล้วเราก็ไปออกกำลังกายหนัก ร่างกายเลยเป็นอารมณ์ประมาณว่าใกล้จะตายแล้วเพราะมันไม่มีไขมันให้เบิร์นออก ดังนั้นทำให้เรากินอะไรเข้าไปนิดหนึ่งมันเลยเก็บสะสมเอาไว้ ไม่ย่อยเพราะร่างกายจำไว้ว่าร่างกายเราสามารถเบิร์นเองได้โดยที่ไม่ต้องให้ร่างกายช่วย ดังนั้นพอได้รับเข้ามาร่างกายเลยเก็บไว้ก่อนซึ่งอันนี้คือความมหัศจรรย์ของร่างกายมากๆ มันเป็นการตัดการใช้พลังงานของร่างกายซึ่งคุณกินน้อยมันก็ไม่มีพลังงานจะไปเลี้ยงดังนั้นร่างกายก็จะหาทางเลือกแล้วว่าจะตัดออฟชั่นต่างๆ ในร่างกายยังไงดี เช่นถ้าร่างกายประจำเดือนไม่มาจะตายไหมโอเคไม่ตายงั้นตัดไปก่อน อ่ออันนี้ตัดได้นะตัดไปก่อนเหมือนให้ร่างกายอยู่รอดไปก่อน”


“ซีนเองต้องปรับใหม่ จากเดิมที่ออกกำลังกายแบบหักโหมก็เปลี่ยนมาเป็น 4 วันต่อสัปดาห์ เปลี่ยนจากคาร์ดิโอให้เหลือแค่ 2 วันนอกนั้นเป็นเวทเทรนนิ่ง ซึ่งการออกกำลังกายนั้นเราสามารถทำได้ทุกที่ ไม่มีอุปกรณ์ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในยิม อย่างเวลาที่ซีนออกกองต่างจังหวัด หรือไปเที่ยว จะอาศัยเล่นบอดี้เวท หรือหาเก้าอี้ โต๊ะ หนังสือหนาๆ มาเป็นตัวช่วย ออกอย่างต่ำ 45 นาที ดังนั้นเราแทบไม่มีข้ออ้างในการออกกำลังกายเลยค่ะ”

ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารเธอนั้นก็ต้องเน้นทานให้เยอะขึ้น สามารถกินได้ทุกอย่าง กินโปรตีนให้ถึง ไขมันก็ต้องเลือกไขมันดี คาร์โบไฮเดรตก็ต้องครบตามที่ร่างกายต้องการ

แรกเริ่มที่เธอปรับเปลี่ยนการดูแลตัวเอง น้ำหนักก็พุ่งขึ้นมาพราะโยโย่เอฟเฟ็กต์ ซึ่งเป็นโยโย่เอ็ฟเฟ็กต์จากการทำร้ายร่างกายโดยการกินน้อยและออกกำลังกายหนัก ซึ่งเธอบอกไว้ว่าแน่นอนว่าระบบการทำงานร่างกายของเรานั้น กว่าจะพัฒนาหรือให้ปรับเปลี่ยนตามที่เราต้องการได้นั้น ต้องใช้เวลาอย่างมากในการฟื้นฟูขึ้นมา 


“ซีนปรับทุกอย่างเดือนแรกน้ำหนักขึ้นมา 2 กิโลกรัม ตอนนั้นตกใจมากต้องรีบไปถามพี่ฟ้าว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่าซึ่งพี่ฟ้าบอกมาว่าไม่ผิดที่เป็นแบบนี้เพราะโยโย่เอฟเฟ็กต์ ซึ่งโยโย่เอ็ฟเฟ็กต์เป็นได้แม้เราจะไม่เคยกินยาลดน้ำหนักซึ่งของซีนในที่นี้ก็คือซีนทำร้ายร่างกายโดยการกินน้อยและออกกำลังกายหนักๆ ซึ่งถ้าจะรักษาตัวเองต้องใช้เวลานิดหนึ่ง ซีนก็กัดฟันสู้ต่อไปจนถึงเดือนที่สอง"

"ซีนเริ่มสนุกกับการเล่นเวท ซีนจะใช้การเวทแบบง่ายๆ จะทำท่าเบสิก ซึ่งทุกอาทิตย์เราสามารถยกได้หนักขึ้นๆ แถมคาร์ดิโอเราก็ไม่ต้องมาคาร์ดิโอแบบตาถลน จนเดือนที่สองน้ำหนักซีนก็ขึ้นมาทั้งหมด 3 กิโลกรัมเกือบ 4 กิโลกรัมซึ่งซีนก็ถามพี่ฟ้าเลยเพราะอยากรู้ว่ามันขึ้นมาได้ยังไงมันเป็นกล้ามเนื้อหรือว่าไขมันที่ขึ้นมา ทีนี้พี่ฟ้าเลยเช็คโปรแกรมการกินที่ซีนจะแท็กแคลอรี่ในแต่ละวันในแอพลิเคชั่นมือถือ ซึ่งซีนเองเป็นคนมีระเบียบเรื่องการกินมากๆ อยู่แล้วนะคะเพราะว่าส่วนตัวกลัวที่ทำมาแล้วไม่ดี กลัวโยโย่ แต่พี่ฟ้าก็บอกว่าโอเคแล้วเพราะที่เพิ่มขึ้นมาคือกล้ามเนื้อ ซึ่งพี่ฟ้ายังบอกอีกด้วยว่าถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นแต่รู้สึกแข็งแรงขึ้นก็โอเคแต่ถ้ายังอ่อนแอปลวกเปียกอยู่นั่นคือสัญญาณอันตรายแล้ว ซึ่งซีนรู้ตัวเองดีว่าเราแข็งแรงมากขึ้นแทบจะเป็นสาวบึกได้เลยค่ะ”

“ตอนนี้ซีนเพิ่มระบบการเผาผลาญเข้าเดือนที่ 4 แล้วค่ะ เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากๆ และยังคงต้องเพิ่มแคลอรี่อยู่เรื่อยๆ แต่ยืดให้นานกว่าเดิม ด้วยงานการแสดงที่ซีนทำอยู่ ก็ต้องเดินมาหากันคนละครึ่งทาง เพราะไม่สามารถที่จะอ้วนขึ้นได้มากกว่านี้ค่ะ (โดยส่วนตัวซีนอยากจะให้เพิ่มตามระยะเวลาที่พี่ฟ้ากำหนดด้วยซ้ำ เพื่อร่างกายเราจะเพิ่มระบบการเผาผลาญเร็วขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเวลาที่เราต้องการลีนนั้นจะทำได้ง่ายและเร็วกว่า แต่อาจจะต้องอ้วนกว่านี้ค่ะ) ในตอนนี้ซีนไม่สามารถที่จะลีนได้เพราะเรายังมีมวลกล้ามเนื้อไม่พอ ทำได้เพียงแต่ค่อยๆ เพิ่มแคลอรี่ช้าๆ และเล่นโปรแกรมให้มีแรงมากขึ้น ซึ่งนี่อาจจะเป็นตัวช่วยให้กล้ามเนื้อเราเพิ่มขึ้นอีกทาง อย่าลืมว่าการจะทำให้มีแรงได้นั้น จะต้องนอนให้พอ ทานให้พร้อมก่อนออก ไม่เครียดด้วย”

ท้ายนี้เธอยังบอกอีกด้วยว่าไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่าเพราะการทำอะไรเร็วๆ ขึ้นเร็ว ลงเร็วมันเป็นสัญญาณอันตรายและไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพเลย ให้ค่อยๆ ปรับการทานอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมันให้เหมาะสมกับพลังงานที่เราต้องใช้ต่อวัน ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เท่าที่ร่างกายไหว ถ้าช่วงไหนทำแล้วเหนื่อยเกินไป หรือทำงานมาเครียดๆ แล้วต้องมาออก อย่าฝืน เอาที่เรามีความสุข ทำได้ตลอดชีวิตจะดีกว่า แม้จะใช้เวลายาวนานแต่มันเป็นการลงทุนที่ได้ผลในระยะยาว ซึ่งในตอนนี้ เป้าหมายของเธอคือ รับประทานให้ได้เยอะขึ้น กล้ามเนื้อเยอะขึ้น ระบบเผาผลาญดีขึ้น หุ่นดีกระชับ และที่สำคัญคือแข็งแรง สุขภาพดีจากภายในและภายนอก

สิ่งที่จำเป็นต้องทำถ้าอยากดูแลสุขภาพ

1.  ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน

2.  พักผ่อนให้เพียงพอ

3.  มีความสุขกับสิ่งที่ทำ พึงพอใจกับรูปร่างตัวเองทุกๆวัน และมั่นใจคิดว่าตัวเองทำได้แน่นอน ถ้ามีทั้งหมดนี้ ก็จะทำให้ปัจจัยอื่นที่สำคัญๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นความสม่ำเสมอในการไปออกกำลังกาย หรือเวลาเราเหนื่อย ท้อ พอนึกถึงสิ่งที่ตั้งใจว่าต้องทำให้ได้นั้น เราก็จะไม่ยอมแพ้

เคล็ดลับการรับประทานอาหารแบบฉบับดาราสาว

1. ก่อนอื่นเราก็ต้องรู้ว่าระบบเผาผลาญของเราตอนนี้เท่าไหร่ ซึ่งของซีนปรับจาก1,000 แคลอรี่ มาเป็น1,400 แคลอรี่ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเพิ่มนานมากๆ

2. กินของหวานได้ กินได้หมดทุกอย่างแต่ซีนจะเลี่ยงของผัด ของทอดอยู่แล้วเพราะว่ามันจะมีไขมันพืช มีสารก่อมะเร็งด้วย

3. ซีนจะเลือกกินปลา หรืออย่างถ้าส้มตำซีนจะสั่งว่าไม่ใส่ผงชูรสหรือว่าเอารสที่ไม่จัดมากคือเราก็กินตามปกติทั่วไป กินเกาเหลา ข้าวหน้าเป็ดซีนจะเลือกให้เขาแยกน้ำมาก่อน ข้าวหมูแดงหมูกรอบซีนก็กินนะคะแต่เราต้องฉลาดที่จะกินมากขึ้นโดยที่ไม่อ้วนได้ อย่างไปต่างประเทศซีนก็จะพกเวย์โปรตีนไป พกหญ้าหวานไป ไปบอกให้เขาชงให้ คือการเลือกกินแบบนี้มันสามารถทำให้เรากินได้เยอะขึ้น

4. ซีนมีหลุดกินเค้ก กินของหวานนะคะเพราะว่าซีนคิดว่าเราเป็นมนุษย์เราอยากกินอะไรเรากินได้เลย แต่เราต้องรู้ปริมาณ รู้ลิมิต รู้พลังงานที่ร่างกายเราต้องการใช้ไปต่อวัน ซีนจะเลือกแท้กแคลอรี่เข้าไปในแอพลิเคชั่นในมือถือว่าเรากินอะไรไปบ้าง เราเละเทะแค่ไหน ซึ่งวิธีที่ทำแบบนี้บางทีมันอาจจะมีข้อยับยั้งให้ตัวเองได้ว่าบางทีเราก็กินมากไปแล้วนะ ซีนว่าเราต้องให้รางวัลตัวเองบ้างนะคะคือหลุดไปอาทิตย์หนึ่งไขมันเราก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเยอะหรอกค่ะ อันนี้ซีนพูดเรื่องจริงนะ เราสามารถหลุดได้แต่ว่าเราต้องมีจุดที่เรากลับมาได้เหมือนกัน

คำแนะนำ :: ความเชื่อผิดๆ ที่คนลดน้ำหนักไม่ควรทำ


1. ผู้หญิงเวทแล้วบึก

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาน้ำหนักเท่ากัน ก่อนเวทจะเผละมาก แต่พอเวทแล้วมีกล้ามเนื้อแล้วเฟิร์มมากขึ้น เห็นริ้วๆ อาจจะไม่ได้ดูผอมบางเพรียว แต่คุณก็คือคนที่หุ่นดี สดชื่น สุขภาพดี คล่องแคล่ว บางคนเวทแล้วไม่เห็นริ้วๆ แต่รู้สึกแน่น และรู้สึกว่าตัวใหญ่ไม่ผอมเลย อันนั้นเป็นเพราะเราเวทแล้วไขมันเรายังไม่ลงเต็มที่ค่ะ สิ่งที่ช่วยก็คือต้องคาร์ดิโอแบบพอประมาณ ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะบางคนอาจจะบวมน้ำจากการทานเค็มเกินไป ควบคุมเรื่องอาหาร ให้ไม่เกิดไขมันสะสมโดยทานปริมาณที่ร่างกายเราต้องการต่อวัน ใครอยากลงเร็วหน่อยก็อาจจะลดแคลอรีต่อวันลง โดยที่คาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันอยู่ในอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม

2. คาร์ดิโอเยอะๆ แล้วผอม

ข้อนี้ซีนไม่เถียงค่ะว่าการคาร์ดิโอนั้นจุดประสงค์คือเพื่อเบิร์นไขมันออก วิธีการนี้เราสามารถใช้ได้ชั่วคราว แบบว่ารีบทำเพราะจะถ่ายงาน หรือต้องไปเป็นเจ้าสาวหรือเหตุผลอื่นๆ โดยวิธีนี้ทำบ่อยๆ ถี่ๆ ก็ไม่ดีเพราะจะทำให้ร่างกายจำ และทำให้ร่างกายไม่เผาผลาญไขมันเอง เพราะถ้าเราคาร์ดิโอแบบหักโหมและไม่ทานอาหารเข้าไปซ่อมแซมหลังออกกำลังกาย กล้ามเนื้อเราก็จะถูกทำลายหายไป นั้นแสดงว่าระบบเผาผลาญเราก็จะลดลง ยิ่งถ้าใครมีกล้ามเนื้อน้อยอยู่แล้วยิ่งไม่ควรเลย อีกอย่างนึกซีนขอเปรียบเทียบน้ำเป็นไขมัน ถุงทรายเป็นกล้ามเนื้อ หากบ้านไหนไม่มีถุงทรายกั้นน้ำ พอเกิดน้ำท่วม (คือวันช่วงที่เราทานเยอะ) น้ำก็จะเข้ามาได้ง่าย เกิดไขมันสะสมได้ง่ายนั่นเอง จึงเป็นสาเหตุให้ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่คาร์ดิโอบ่อยๆ นั้นจะอ้วนเร็วผอมเร็ว ซึ่งมันเหนื่อยค่ะวิธีนี้ และเราไม่สามารถทำแบบนี้ได้ตลอดชีวิตหรอกจริงไหม

3. การตัดคาร์โบไฮเดรตแล้วผอม


อันนี้ยิ่งเป็นข้ออันตรายเพราะร่างกายเราไม่ว่าจะเดิน วิ่ง ทำกิจกรรมทุกอย่างนั้นต้องเอาพลังงานมาใช้ โดยได้จากแหล่งคาร์โบไฮเดรต ในช่วงแรกที่เราตัดคาร์โบไฮเดรตนั้นแน่นอนว่าร่างกายเราต้องเบาลงเพราะร่างกายเริ่มเอาคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในกล้ามเนื้อหรือไกลโคเจนมาแปลงเป็นพลังงาน นั้นหมายความว่ากล้ามเนื้อเราหายไป กล้ามเนื้อสำหรับซีนคือสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดเลยค่ะ ถ้ามันหายไปนี่ต้องเสียใจมากแน่ๆ ประมาณ 5กิโลกรัมแรกที่ลดไปจากการลดคาร์โบไฮเดรตนี่คือ กล้ามเนื้อเราหายไป ถึงแม้ว่าเราจะทานโปรตีนเยอะจริง หรือเวทเยอะจริง แต่เราก็ออกกำลังกายได้แค่ช่วงแรกๆเท่านั้นเพราะพอเราไม่มีพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต เราก็จะไม่มีแรงยกเวทเลย ทำให้รู้สึกว่าออกไม่ไหว ไม่ออกแล้ว เราผอมแล้วไม่ออกก็ได้ แสดงว่าตัวที่เราอยากให้หายไปจริงๆ คือไขมัน มันไม่ได้ลงไปซะเท่าไหร่เลย นอกจากวิธีนี้เราจะไม่ได้ตลอดชีวิตแล้ว หลังจากที่เรากลับมากินเหมือนเดิม ร่างกายจะเข้าสู่สภาวะ save mode คือจะไม่เผาผลาญ เพราะเคยอดมาก่อน ก็จะโยโย่เอฟเฟ็คตามมา ก็จะยากหน่อยถ้าจะให้ผอมอีกครั้ง


4.การกินแต่ผักผลไม้อย่างเดียว

อันนี้แม้จะได้วิตามินครบถ้วนแต่ถ้าเราทานโปรตีนไม่ครบนั้น กล้ามเนื้อเราก็จะไม่มาค่ะ การที่จะสร้างกล้ามเนื้อมาได้เราต้องห้ามอดสารอาหารใดๆ เลย เพราะในกล้ามเนื้อที่ได้จากโปรตีนที่เรากิน ก็จะมีไกลโคเจนที่ได้จากคาร์โบไฮเดรต และน้ำอีกด้วย ถึงแม้ว่าคนที่ไม่มีได้เป้าหมายที่จะเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่ถ้าเราทานแต่ผักผลไม้เกินความจำเป็น ร่างกายเราก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันอยู่ดี สิ่งที่ตามมาคือไม่เฟิร์ม ดูนุ่มนิ่ม


Profile

ชื่อ :ปัณณ์ญาณัช จิรโรจน์ธนเกษม
ชื่อเล่น : ซีน
วันเกิด : 12 กุมภาพันธ์ 2536
อายุ : 22 ปี
น้ำหนัก : 48 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 165 เซ็นติเมตร

ผลงานที่ผ่านมา
- รับบท “สมหญิง” ซิทคอมเรื่อง “ระเบิดเที่ยงตรง”
- โฆษณา โค้ก เรโซน่า ซิตร้า

ผลงานปัจจุบัน
- รับบท “น้องมิ้น” ภาพยนตร์เรื่อง “Single Lady” ที่กำลังเข้าฉายอยู่
- รับบท “น้ำหวาน” ละครของป้าแจ๋วเรื่อง “ลูกผู้ชายเลือดเดือด” เร็วๆนี้ ทางช่อง 3
- รับบท “แชมพู” ละครเรื่อง “เทวดาเพื่อนรัก” เร็วๆนี้ ทางช่อง 3
- รับบท “ลี่อิน” ภาพยนตร์เรื่อง “Twin Monkey” ฉายกลางปีนี้
ขอบคุณสถานที่ :
Fitjunctions studio
ชั้น 17 ตึกพญาไทพลาซ่า BTS พญาไททางออกที่ 1
091-873-6066
fitjunctionstudio@gmail.com
fitjunctions.com
เรื่อง: วรัญญา งามขำ
ภาพ :วชิร สายจำปา และอินสตาแกรม zozeen.eatiibeautii