ปีหนึ่งๆ จะมีอยู่สองเทศกาลที่หมอเวชศาสตร์วัยรุ่นจะขายดี คือเทศกาลวันวาเลนไทน์กับลอยกระทงใกล้เทศกาลดังกล่าวจะมีนักข่าวดาหน้ากันเข้ามาถามคำถาม หรือชวนไปออกรายการ ที่วนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ...
“เซ็กส์ วาเลนไทน์ และวัยรุ่น”
คำถามก็จะโรมรันพันตูอยู่กับ ทำไมวัยรุ่นถึงชอบเสียตัววันวาเลนไทน์ ทำไมผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่รักนวลสงวนตัว ทำไมวัยรุ่นถึงไม่รักตัวเอง ทำไมๆๆ บลาๆๆ.. คำถามที่ตั้งกำแพงไว้แต่ต้นก็จะพุ่งเป้ามาเอาคำตอบที่สะใจไปพาดหัว
หมอวัยรุ่นก็จะตอบแบบโลกสวยมีหลักการเวลาออกทีวี แต่รู้มั้ยคะว่าจริงๆ หมออยากตอบว่ายังไง
นักข่าว : ทำไมวัยรุ่นชอบเสียตัววันวาเลนไทน์
หมอ: ไม่นี่คะ วัยรุ่นเสียตัวได้ทุกวันค่ะ
นักข่าว: ทำไมผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่รักนวลสงวนตัว
หมอ: เอ่อ ปู่ย่าตาทวด นี่มีลูกกันตั้งแต่ 15-16 กันทั้งนั้นเลยนะคะ เดี๋ยวนี้สามสิบกว่ายังหาผัวเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ค่อนประเทศเลยค่ะ
พิธีกร: คุณหมอมีความคิดเห็นยังไงกับโพลล์ที่ออกมาคะ ว่าวัยรุ่น...
หมอ: คิดเห็นว่า คนคิดโพลล์น่าจะคิดทำอย่างอื่นเป็นบ้างนะคะ ทำมาทุกปี ประเทศก็ไม่เห็นมีอะไรพัฒนาขึ้นเลยค่ะ
พิธีกร: ทำไมวัยรุ่นถึงไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
หมอ: เอ่อ..ที่คุณถามคำถามมาทั้งหมดนี่ คุณคิดว่าคุณเห็นคุณค่าของวัยรุ่นแล้วใช่มั้ยคะ?
แหะๆ ที่ทำปากดีหลังไมค์นี่ แค่อยากสะท้อนให้เห็นว่า หลายๆ ครั้งเลยค่ะ ที่เวลาสังคมเราพบปัญหาอะไร “วัยรุ่น” มักจะตกเป็นจำเลยเป็นต้นตอของปัญหาสังคมอยู่เสมอ มันทำให้เรามีภาพจำเกี่ยวกับ “วัยรุ่นสมัยนี้” ว่าเป็นศูนย์รวมของปัญหาร้าย เซ็กส์ สำส่อน ท้อง ติดโรค ทำแท้ง แม่ใจยักษ์ ไม่รักตัวเอง ใช้ความรุนแรง เสพยา บ้าพนัน ฯลฯ
ว่าแต่...คุณผู้อ่านเคยเห็นแววตาของเด็กๆ ใช่มั้ยคะ มันมีแววตาของคนที่อยากจะลุกขึ้นมาเป็นแม่ใจยักษ์ เป็นอาชญากร เป็นขยะของสังคมรึเปล่า?
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้แววตาที่สดใสคู่นั้น ได้กลายพันธุ์มาเป็นแววตาของวัยรุ่นเจ้าปัญหา โดยเฉพาะที่สังคมตราหน้าว่า ”วัยรุ่นสมัยนี้”
จริงๆ วัยรุ่นยุคไหนๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยค่ะ ความอยากรู้อยากลอง ความคึกคะนอง ความสนใจในเรื่องเพศ ความที่คิดหน้าคิดหลังยังไม่ดี เพราะสมองของวัยรุ่น “ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้นค่ะ” สมองของวัยรุ่นยังพัฒนาไม่เต็มที่ สมองส่วนคิดทำงานน้อยกว่าสมองส่วนอยาก มันเป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ยุคนุ่งซิ่นเสมอเข่าจนเข้าสู่ยุคนุ่งสั้นเสมอจิ๋ม
แต่สิ่งหนึ่งที่ “วัยรุ่นสมัยนี้” กำลังพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็คือ “สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป”
สภาพครอบครัวที่โหวงๆ เหวงๆ พ่อไปทางแม่ไปทาง อยู่ด้วยกันแต่ก็ไม่มีเวลาพูดคุย ไม่มีแม้เวลาที่จะทำให้ลูกรู้ว่า “รักนะลูก” (ผลสำรวจพบว่าเด็กวัยรุ่นบ้านเรามีเพียง 30% เท่านั้นที่ได้อยู่กับพ่อหรือแม่ ที่เหลืออยู่กับปู่ย่าตายาย กับอยู่เองเพียงลำพัง)
โรงเรียนที่เน้นให้จำ แต่ไม่ได้ทำให้คิด เรื่องเพศศึกษาที่ก็กระเมี้ยนกระมิด (แถมบางทีนักเรียนนักศึกษารู้ดีกว่าครู) สื่อเรื่องเพศที่หาง่าย ยิ่งกว่างมน้ำในมหาสมุทร ฯลฯ
เด็กหลายคนอยากจะรักและเห็นคุณค่าในตัวเอง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่า มีใครที่รักและเห็นคุณค่าในตัวเค้าจริงๆ กลับบ้านไปก็มีแต่เสียง “ก่นด่า” อยู่โรงเรียนก็รู้สึกแต่ว่า “ไม่ได้เรื่อง” เปิดรับสื่อก็มีแต่ “แย่ๆๆๆ พวกขยะสังคม” เมื่อมีผู้ชายสักคนมารัก... ทำไมผู้ชายคนนั้นจะไม่เป็นทุกอย่างในชีวิต
ที่เขียนมาทั้งหมด ก็แค่อยากชวนให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ช่วยกันคิด ช่วยกันเปลี่ยนมุมมองที่มีกับวัยรุ่นด้วยความเข้าใจที่มากขึ้น
เพราะวัยรุ่นอาจไม่ใช่ “ตัวปัญหา” แต่พวกเค้าต่างหากที่กำลัง “เผชิญกับปัญหา”
เผื่อเมื่อเข้าใจวัยรุ่นมากขึ้น
บางทีเราจะได้มาเริ่มทำโพลล์วันวาเลนไทน์ใหม่ๆ กัน ...
“ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ ในฐานะที่คุณเป็นผู้ใหญ่...
คุณจะลุกขึ้นมาทำอะไร..เพื่อบอกรักวัยรุ่นของพวกเรา?”
บทความโดย : อ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร (หมอโอ๋) กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://talkaboutsex.thaihealth.or.th
ข้อมูลโดย สสส.สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ
“เซ็กส์ วาเลนไทน์ และวัยรุ่น”
คำถามก็จะโรมรันพันตูอยู่กับ ทำไมวัยรุ่นถึงชอบเสียตัววันวาเลนไทน์ ทำไมผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่รักนวลสงวนตัว ทำไมวัยรุ่นถึงไม่รักตัวเอง ทำไมๆๆ บลาๆๆ.. คำถามที่ตั้งกำแพงไว้แต่ต้นก็จะพุ่งเป้ามาเอาคำตอบที่สะใจไปพาดหัว
หมอวัยรุ่นก็จะตอบแบบโลกสวยมีหลักการเวลาออกทีวี แต่รู้มั้ยคะว่าจริงๆ หมออยากตอบว่ายังไง
นักข่าว : ทำไมวัยรุ่นชอบเสียตัววันวาเลนไทน์
หมอ: ไม่นี่คะ วัยรุ่นเสียตัวได้ทุกวันค่ะ
นักข่าว: ทำไมผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่รักนวลสงวนตัว
หมอ: เอ่อ ปู่ย่าตาทวด นี่มีลูกกันตั้งแต่ 15-16 กันทั้งนั้นเลยนะคะ เดี๋ยวนี้สามสิบกว่ายังหาผัวเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ค่อนประเทศเลยค่ะ
พิธีกร: คุณหมอมีความคิดเห็นยังไงกับโพลล์ที่ออกมาคะ ว่าวัยรุ่น...
หมอ: คิดเห็นว่า คนคิดโพลล์น่าจะคิดทำอย่างอื่นเป็นบ้างนะคะ ทำมาทุกปี ประเทศก็ไม่เห็นมีอะไรพัฒนาขึ้นเลยค่ะ
พิธีกร: ทำไมวัยรุ่นถึงไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
หมอ: เอ่อ..ที่คุณถามคำถามมาทั้งหมดนี่ คุณคิดว่าคุณเห็นคุณค่าของวัยรุ่นแล้วใช่มั้ยคะ?
แหะๆ ที่ทำปากดีหลังไมค์นี่ แค่อยากสะท้อนให้เห็นว่า หลายๆ ครั้งเลยค่ะ ที่เวลาสังคมเราพบปัญหาอะไร “วัยรุ่น” มักจะตกเป็นจำเลยเป็นต้นตอของปัญหาสังคมอยู่เสมอ มันทำให้เรามีภาพจำเกี่ยวกับ “วัยรุ่นสมัยนี้” ว่าเป็นศูนย์รวมของปัญหาร้าย เซ็กส์ สำส่อน ท้อง ติดโรค ทำแท้ง แม่ใจยักษ์ ไม่รักตัวเอง ใช้ความรุนแรง เสพยา บ้าพนัน ฯลฯ
ว่าแต่...คุณผู้อ่านเคยเห็นแววตาของเด็กๆ ใช่มั้ยคะ มันมีแววตาของคนที่อยากจะลุกขึ้นมาเป็นแม่ใจยักษ์ เป็นอาชญากร เป็นขยะของสังคมรึเปล่า?
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้แววตาที่สดใสคู่นั้น ได้กลายพันธุ์มาเป็นแววตาของวัยรุ่นเจ้าปัญหา โดยเฉพาะที่สังคมตราหน้าว่า ”วัยรุ่นสมัยนี้”
จริงๆ วัยรุ่นยุคไหนๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยค่ะ ความอยากรู้อยากลอง ความคึกคะนอง ความสนใจในเรื่องเพศ ความที่คิดหน้าคิดหลังยังไม่ดี เพราะสมองของวัยรุ่น “ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้นค่ะ” สมองของวัยรุ่นยังพัฒนาไม่เต็มที่ สมองส่วนคิดทำงานน้อยกว่าสมองส่วนอยาก มันเป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ยุคนุ่งซิ่นเสมอเข่าจนเข้าสู่ยุคนุ่งสั้นเสมอจิ๋ม
แต่สิ่งหนึ่งที่ “วัยรุ่นสมัยนี้” กำลังพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็คือ “สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป”
สภาพครอบครัวที่โหวงๆ เหวงๆ พ่อไปทางแม่ไปทาง อยู่ด้วยกันแต่ก็ไม่มีเวลาพูดคุย ไม่มีแม้เวลาที่จะทำให้ลูกรู้ว่า “รักนะลูก” (ผลสำรวจพบว่าเด็กวัยรุ่นบ้านเรามีเพียง 30% เท่านั้นที่ได้อยู่กับพ่อหรือแม่ ที่เหลืออยู่กับปู่ย่าตายาย กับอยู่เองเพียงลำพัง)
โรงเรียนที่เน้นให้จำ แต่ไม่ได้ทำให้คิด เรื่องเพศศึกษาที่ก็กระเมี้ยนกระมิด (แถมบางทีนักเรียนนักศึกษารู้ดีกว่าครู) สื่อเรื่องเพศที่หาง่าย ยิ่งกว่างมน้ำในมหาสมุทร ฯลฯ
เด็กหลายคนอยากจะรักและเห็นคุณค่าในตัวเอง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่า มีใครที่รักและเห็นคุณค่าในตัวเค้าจริงๆ กลับบ้านไปก็มีแต่เสียง “ก่นด่า” อยู่โรงเรียนก็รู้สึกแต่ว่า “ไม่ได้เรื่อง” เปิดรับสื่อก็มีแต่ “แย่ๆๆๆ พวกขยะสังคม” เมื่อมีผู้ชายสักคนมารัก... ทำไมผู้ชายคนนั้นจะไม่เป็นทุกอย่างในชีวิต
ที่เขียนมาทั้งหมด ก็แค่อยากชวนให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ช่วยกันคิด ช่วยกันเปลี่ยนมุมมองที่มีกับวัยรุ่นด้วยความเข้าใจที่มากขึ้น
เพราะวัยรุ่นอาจไม่ใช่ “ตัวปัญหา” แต่พวกเค้าต่างหากที่กำลัง “เผชิญกับปัญหา”
เผื่อเมื่อเข้าใจวัยรุ่นมากขึ้น
บางทีเราจะได้มาเริ่มทำโพลล์วันวาเลนไทน์ใหม่ๆ กัน ...
“ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ ในฐานะที่คุณเป็นผู้ใหญ่...
คุณจะลุกขึ้นมาทำอะไร..เพื่อบอกรักวัยรุ่นของพวกเรา?”
บทความโดย : อ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร (หมอโอ๋) กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://talkaboutsex.thaihealth.or.th
ข้อมูลโดย สสส.สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ