xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องจริงเตือนใจ...ยาแก้ไมเกรน เสี่ยงเนื้อตายเน่า ต้องตัดขา!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อไม่กี่วันก่อน มีการแชร์บทความชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีผู้บอกเล่าเกี่ยวกับการกินยาแก้ไมเกรนยี่ห้อหนึ่งเป็นระยะเวลานาน กระทั่งวันหนึ่ง แพทย์บอกว่าคุณต้องตัดขา เพราะอาการชาที่เป็นมาตลอดที่ปลายเท้า ส่งผลให้เนื้อตายเน่าและอาจลุกลาม

ฟังแบบนี้ หลายคนอาจจะตกใจหรือคิดว่ามันเป็นไปได้อย่างไร? อย่ากระนั้นเลย เรามาทำความรู้จักกับไมเกรนให้ถ่องแท้ รวมถึงรู้จักกับยาแก้ไมเกรนที่ใครหลายคนใช้กันอยู่เป็นประจำกันก่อน...
ภาพจาก redorbit.com
ไมเกรน (migraine) เป็นโรคปวดศีรษะที่พบได้บ่อย สาเหตุของโรคเชื่อว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม หรือ ปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลทำให้หลอดเลือดแดงทั้งด้านในและด้านนอกกระโหลกเกิดการขยายตัวได้มากและง่ายกว่าคนปกติ และทำให้เกิดอาการปวดศีรษะในที่สุด การค้นหาปัจจัยกระตุ้นให้พบและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเหล่านั้นเป็นการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนที่ดีและปลอดภัย

อย่างไรก็ดี การใช้ยารักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนก็อาจมีความจำเป็นในผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ป่วยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นได้ หรือเมื่ออาการกำเริบผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะที่รุนแรง เป็นต้น ยาที่ใช้ในโรคปวดศีรษะไมเกรนอาจแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ ยาที่ใช้รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนฉับพลัน และยาที่ใช้ป้องกันการเกิดไมเกรน ซึ่งยาที่พบว่ามีการใช้บ่อยและมีข้อควรระวังในการใช้ยาค่อนข้างมาก คือ ยา ergotamine ซึ่งเป็นยาประเภทที่ใช้รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนฉับพลัน

Ergotamine คืออะไร

Ergotamine เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน ออกฤทธิ์ในการรักษาอาการปวดศีรษะโดยการกระตุ้นตัวรับของสารสื่อประสาทซีโรโทนิน ชนิด 1B และ 1D ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดที่ขยายตัวผิดปกติเกิดการหดตัวลงและทำให้อาการปวดศีรษะหายไปในที่สุด นอกจากนี้ ergotamine ยังสามารถกระตุ้นตัวรับอื่นๆ ได้ ได้แก่ แอลฟ่า-1 และ โดปามีน-2 ซึ่งการกระตุ้นตัวรับเหล่านี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยา ergotamine

ในประเทศไทยยา ergotamine มีชื่อทางการค้า เช่น Cafergot®, Avamigran® หรือ Poligot-CF® ซึ่งประกอบไปด้วยตัวยาสำคัญ คือ ergotamine tartrate ขนาด 1 มิลลิกรัม ผสมอยู่กับ caffeine 100 มิลลิกรัม ส่วน Ergosia® จะประกอบไปด้วยตัวยาสำคัญ คือ ergotamine tartrate ขนาด 1 มิลลิกรัม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

การใช้ยา ergotamine ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

การใช้ยา ergotamine สำหรับรักษาโรคปวดศีรษะไมเกรนจะต้องใช้เฉพาะเวลาที่มีอาการปวดเท่านั้น ห้ามใช้ติดต่อกันทุกวันเพื่อป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนเด็ดขาด ขนาดการรับประทานยาที่เหมาะสม คือ รับประทานเมื่อมีอาการปวดศีรษะไมเกรนในครั้งแรก 1 หรือ 2 เม็ด จากนั้นทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงหากอาการไม่ดีขึ้นสามารถรับประทานซ้ำอีกครั้งละ 1 เม็ด แต่ห้ามรับประทานเกิน 6 เม็ดต่อวัน และห้ามรับประทานยาเกิน 10 เม็ด ต่อสัปดาห์ เนื่องจากหากรับประทาน ergotamine ในปริมาณที่มากกว่านี้อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น รวมทั้งมีอาการเจ็บหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียนมากกว่าเดิมได้
ภาพจาก migravent.com
การใช้ยา ergotamine อย่างผิดวิธีส่งผลเสียอย่างไร

Ergotamine เป็นยาที่ใช้เฉพาะเวลาที่มีอาการปวดศีรษะกำเริบเท่านั้น แต่ผู้ป่วยบางรายกลับรับประทานยา ergotamine ติดต่อกันทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการปวดศีรษะไมเกรน ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ยาอย่างผิดวิธีที่อาจส่งผลเสียรุนแรงต่อชีวิตของผู้ป่วยได้ การรับประทานยา ergotamine ติดต่อกันไปเรื่อยๆ จะส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดในสมองแตก หรือ หัวใจวายได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมองอยู่แล้ว นอกจากนี้ในระหว่างที่ผู้ป่วยรับประทานยา ergotamine ติดต่อกันทุกวันนั้น หลอดเลือดแดงที่ผิดปกติจะถูกยา ergotamine ทำให้หดตัวอยู่ตลอดเวลาซึ่งผู้ป่วยจะไม่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนเลย แต่เมื่อใดที่หยุดรับประทานยาหลอดเลือดดังกล่าวจะขยายตัวอย่างมากและทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนอย่างรุนแรง (rebound headache )

ข้อควรระวังในการรับประทานยา ergotamine

ผู้ป่วยที่รับประทานยา ergotamine อาจมีอาการดังต่อไปนี้

คลื่นไส้ อาเจียน : เป็นผลจากการกระตุ้นตัวรับ ชนิด โดปามีน-2 ซึ่งถ้าอาการรุนแรงสามารถแก้ไขได้โดยการรับประทานยาต้านอาเจียนกลุ่ม dopamine-2-receptor antagonist คือ domperidone (Motilium-M®)

ความดันโลหิตสูงขึ้น : เป็นผลจากการกระตุ้นตัวรับชนิด แอลฟ่า-1 ทำให้หลอดเลือดส่วนปลายหดตัว

ปลายมือ-เท้าเย็น หรือ ชา (numbness) : เป็นผลจากการกระตุ้นตัวรับชนิด แอลฟ่า-1 เช่นกัน หากมีอาการรุนแรงร่วมกับมีอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณแขน มือ ขา หรือเท้า ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ใจสั่น เจ็บหน้าอก : เป็นผลมาจากการกระตุ้นตัวรับ ซีโรโทนิน ชนิด 1B ที่บริเวณหลอดเลือด coronary ที่หัวใจ หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์

ปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ หรือ ยาตีกัน (drug interaction) : ยา ergotamine ถูกทำลายโดยใช้เอนไซม์ที่มีชื่อว่า Cytochrome P450 ชนิด 3A4 (CYP 3A4) ดังนั้นอาจต้องระมัดระวังในการรับประทานร่วมกับยาที่มีผลยับยั้งเอนไซม์ดังกล่าว เช่น azithromycin, clarithromycin, ketoconazole, ritonavir หรือ verapamil เป็นต้น เนื่องจากการรับประทานยาร่วมกันจะส่งผลทำให้ระดับยา ergotamine ในกระแสเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยอาจได้รับผลข้างเคียง หรือความเป็นพิษจากยาเพิ่มขึ้นได้ และเพื่อป้องกันการเกิด drug interaction ดังกล่าว ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งว่ายาที่ตนเองรับประทานอยู่มีอะไรบ้าง

“ergotism” คืออะไร??? ทำไมต้องตัดขา???

ergotamine เป็นยาที่ต้องระมัดระวัง เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ที่อันตราย นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการที่เรียกว่า “ergotism” ซึ่งเป็นภาวะการไหลเวียนของเลือดลดลง ทำให้เกิดความรู้สึกเย็นหรือชาบริเวณปลายมือปลายเท้าซึ่งอาจเกิดภาวะเนื้อตายเน่า (gangrene) ได้ในที่สุด ถึงแม้อาการดังกล่าวจะพบได้ไม่มากนัก แต่หากผู้ป่วยมีการใช้ยาเกินขนาดที่แนะนำ, มีภาวะของโรคตับหรือไต หรือรับประทานยาergotamine ร่วมกับกลุ่มยาที่เกิด drug interaction กัน ก็จะมีโอกาสพบอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวมากขึ้น

ข้อห้ามใช้ของยา ergotamine

มีประวัติแพ้ยา ergotamine หรือสารที่เป็นอนุพันธ์ของ ergot alkaloid
มีประวัติหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (peripheral arterial disease)
ความบกพร่องในการทำงานของตับ และไต
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary artery disease) และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (angina)
ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ยังควบคุมไม่ได้
ผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด (sepsis)
ผู้หญิงตั้งครรภ์ (ทุกไตรมาส)

Ergotamine เป็นยารักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนที่มีประสิทธิภาพดี แต่มีข้อควรระวังและข้อห้ามใช้ค่อนข้างมาก ดังนั้น การรับประทานยาอย่างถูกต้อง และ การเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จึงเป็นหนทางที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากยา ergotamine ได้ดีที่สุด
ขอขอบคุณ ภญ.บงกช มหาคีตะ Pharmacy Department Manager MISSION HOSPITAL
................................................................................................................
แหล่งข้อมูล
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ยาแก้ปวดศีรษะไมเกรน Ergotamine ใช้อย่างไรจึงจะปลอดภัย
   http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=15
- Ergotamine. In: DRUGDEX® Evaluations. [Online]. 2010 Jan 27. Available from: MICROMEDEX® Healthcare Series; 2010. [cited 2010 Apr 12].

กำลังโหลดความคิดเห็น