แนว แอ็คชั่นเอาตัวรอด
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
สัมผัสเรื่องราวแรงแค้นไฟอาฆาตของเหล่าผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ร่วมโลกที่แตกสลายใบเดียวกัน กับเกมที่จะทำให้คุณรู้ซึ้งถึงคำว่า “ใจเขาใจเรา”
The Last of Us Part II คือผลงานภาคต่อสืบสานตำนานเกมดังแห่งยุค PS3 ที่บอกเล่าเนื้อเรื่องสืบเนื่องกันแบบกระชั้นชิด ทิ้งช่วงระยะเวลาห่างจากภาคแรกเพียงแค่ไม่กี่ปี เมื่อสองคู่ซี้ต่างวัย “เอลลี่” และ “โจเอล” ได้ย้ายมาตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ในนิคมผู้รอดชีวิตสุดแน่นหนาปลอดภัย แต่ถึงกระนั้นผลกรรมในอดีตก็ยังคงไล่ล่าติดตามหลอกหลอนพวกเขาอย่างไม่ลดละ แถมยังมีเรื่องของปมปริศนาความลับที่ค้างคาคอยทิ่มตำซ้ำเติมอยู่ในใจ
สำหรับเหตุการณ์ในเกมจะเป็นช่วงเวลา 5 ปีให้หลัง เมื่อหนูน้อย “เอลลี่ “ ปัจจุบันได้เติบใหญ่กลายเป็นสาววัยรุ่น ท่ามกลางการชุบเลี้ยงอุ้มชูของเหล่าบรรดาผู้ใหญ่ใจดีในเมืองแจ็คสัน อันแสนสงบ แต่ทว่าความผาสุกมิอาจคงทนอยู่ได้นาน จากการมาปรากฏตัวของกลุ่มนักล่าต่างถิ่น ผู้ฝากวีรกรรมสุดสะเทือนใจ บีบคั้นกดดันให้เธอต้องสยายปีกโผบินออกจากรัง หวนกลับคืนสู่ถนนแห่งการผจญภัยต่อสู้อีกครั้ง ที่มีเพียงเส้นบางๆคั่นแบ่งกลางระหว่างความยุติธรรมกับความบ้าคลั่ง
รูปแบบเกมเพลย์ยังคงเน้นการเอาตัวรอดเซอร์ไววอลด้วยทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด สลับกับการแก้ปริศนาพัซเซิลรายทาง ควานหาเก็บเกี่ยววัสดุตามตู้ตามพื้นเพื่อมาคราฟต์ของใช้เอง ในขณะที่เหล่าเม็ดยาอาหารเสริมจะใช้ในการอัปเกรดสกิลของตัวละคร ซึ่งในภาคนี้มีให้เลือกอัพมากมายหลากหลายสายมากขึ้น ส่วนเศษเหล็กอะไหล่ก็นำมาใช้ปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอาวุธปืนได้เหมือนเดิม โดยคราวนี้เราจะได้เห็นภาพการถอดประกอบ แยกชิ้นส่วน ติดตั้งลำกล้อง ตะไบด้ามจับกันแบบชัดๆเรียลไทม์เลยทีเดียว
ทางด้านระบบเสริมและลูกเล่นใหม่ๆ เนื่องด้วยไทม์ไลน์ที่เว้นห่างจากภาคแรกนานพอสมควร สภาพบ้านเมือง-ท้องถนนจึงดูรกร้างถูกธรรมชาติกลืนกินกว่าเมื่อคราวก่อน เต็มไปด้วยต้นไม้เถาวัลย์ หญ้าวัชพืชที่สูงปกคลุมเกือบครึ่งตัว ซึ่งอำนวยความสะดวกในการลอบเร้นเป็นอย่างมาก ถึงจะเป็นที่โล่งแจ้งเพียงแค่เรานั่งยองๆก็สามารถเล็ดรอดจากสายตาของศัตรู หรือถ้าอยากปลอดภัยแบบชัวร์ๆก็สามารถหมอบคลานไปกับพื้นได้ อีกทั้งปืนพกก็ยังมีกระบอกเก็บเสียงให้ แถมเวลาต่อสู้ก็มีปุ่มหลบหลีกฉุกเฉิน (L1) เพิ่มเข้ามาให้เราได้ยืนบู๊แลกหมัดวัดมวยกับพวกติดเชื้อกันอย่างเมามัน เรียกได้ว่ารองรับทุกสไตล์การเล่น จะคอเกมสายไหนก็บันเทิงได้เหมือนกัน
หนึ่งในไฮไลท์เอกของเกมที่เราชื่นชอบโปรดปรานเป็นพิเศษ คงเห็นจะเป็นเรื่องที่เราสามารถเลือกกำหนดปรับแต่งประสบการณ์การเล่นได้ตามใจฉัน ตั้งแต่ความยากที่มีให้เลือกหลายระดับ ไม่ว่าสายฮาร์ดคอร์ที่ต้องการความท้าทายขั้นสุด หรือสายแคชชวลหวังเพียงเสพเนื้อเรื่อง ตัวเกมก็พร้อมจัดให้ ไหนยังมีระบบเชคพอยท์อัจฉริยะ ที่คอยเซฟตรงศัตรูตัวล่าสุดที่เรากำจัดขณะอยู่ในโหมดลอบเร้นเอาไว้ให้ ยามพลาดพลั้งจะได้ไม่ต้องเสียเวลารับมือกับพวกมันทั้งฝูงใหม่ และยิ่งไปกว่านั้นที่หน้าจอออพชั่นยังปรากฏเมนู ตัวช่วยการเข้าถึง ให้เราได้ปรับแต่งรายละเอียดเกมเพลย์ปลีกย่อยลึกลงไปได้อีก อาทิเช่น เปิดใช้งานฟังก์ชันคลื่นสะท้อน โซนาร์ ช่วยเราสแกนหาไอเทมที่ซ่อนอยู่ตามฉาก ไม่ต้องเหนื่อยเดินงมหาหรือกังวลว่าเราจะพลาดของดีอะไรไป ส่วนใครที่มีปัญหากับการเล็งยิง เราขอแนะนำให้เปิดใช้งานโหมด สโลว์โมชัน ที่ทำให้ทุกสิ่งขยับช้าลงเวลาเล็งเป้าหมาย ซึ่งนอกจากมันจะดูเท่เหมือนหนังฮอลลีวูดแล้ว ยังช่วยเราประหยัดกระสุนได้มากจากการที่ยิงเข้าเป้าหมดไม่พลาดเลยสักนัด
ปัญหาใหญ่ที่เคยทำหลายคนกุมขมับในภาคแรกอย่างเรื่อง สมองกล AI ในภาคนี้ก็ได้รับการปรับปรุงแก้ไข ทั้งฝ่ายศัตรูที่จะไม่ออกอาการเอ๋อเดินมั่วซั่วติดนั่นติดนี่อีกต่อไป ขยันกระจายกำลังปูพรมตรวจตรา พยายามตีวงโอบล้อมผู้เล่น และมีการใช้ สุนัขดมกลิ่น เพื่อบีบให้เราออกจากที่ซ่อน ขณะเดียวกันมิตร AI ฝ่ายเราเองที่ภาคก่อนเคยเล่นตบแปะกับศัตรู มาภาคนี้พวกเขาแต่ละคนล้วนมีประโยชน์พึ่งพาได้มาก ยิงแรงและแม่น แถมเก่งถึงขนาดต่อให้ศัตรูยกขบวนพาพวกกันมาเป็นโขยง คุณก็แค่วิ่งหนีวนไปมารอบๆ เดี๋ยวเพื่อนก็จัดการทุกอย่างให้คุณเอง
เนื่องด้วยตัวเกมออกมาในช่วงท้ายปลายยุค PS4 งานด้านภาพและเสียงจึงอลังการงานสร้างจัดเต็ม สมกับเป็นเกมเอ็กคลูซีฟล็อตสุดท้ายทิ้งทวนสั่งลา วัดจากสายตาดูแล้วคุณภาพน่าจะสูสีพอฟัดพอเหวี่ยงกับเกมต้นยุคเน็กซ์เจน โดยนอกจากความสวยงามจนแทบลืมหายใจแล้ว ฉากหลังสภาพแวดล้อมในภาคนี้ยังกว้างใหญ่กว่าภาคที่แล้วมากมายนัก เดินสำรวจกันจนเหนื่อย บางฉากก็ทำมาในลักษณะโอเพ่นเวิลด์ขนาดย่อมๆ พร้อมเทคนิคซ่อนการโหลดฉากโหลดวัตถุอยู่เบื้องหลังแบบเนียนๆ เพื่อให้การเล่นดูราบรื่นต่อเนื่องไม่มีสะดุด และที่สำคัญคือมันรองรับภาษาไทย ช่วยให้เราเข้าใจดำดิ่งอินไปกับเรื่องราวไม่ต่างจากการนั่งดูหนังแปลไทยมาสเตอร์
ส่วนประเด็นดราม่าที่หลายคนพูดถึงกัน เกี่ยวกับตัวบทพล็อตเรื่องที่อาจไม่ถูกใจแฟนคลับบางกลุ่มสักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าถามความเห็นส่วนตัว เรามองว่ามันเป็นอะไรที่หักมุมดี อาจเพราะด้วยความที่เคยผ่านตาฉากซีนสุดช็อคทำนองนี้มาจนชาชินแล้วจากหนังและการ์ตูนเรื่องอื่นๆ เลยไม่ค่อยรู้สึกสะทกสะท้านสักเท่าไหร่ จะมีติก็เพียงแค่การตัดสินใจของตัวละครที่แสนสิ้นคิดไปหน่อย แต่อย่างว่าด้วยวุฒิภาวะของตัวเอกในช่วงวัยแตกเนื้อสาวฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน อายุเพิ่งก้าวย่าง 19 ปี เจอเหตุการณ์แบบนั้นเข้าไป เป็นใครก็คงสติแตกเลือกหนทางเดินที่พลาดผิด ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราทำใจรับไม่ได้เลยจริงๆ นั่นคือการที่ผู้คนรายรอบข้างกายตัวเอก ไม่ว่าแก่หรือเด็ก มิตรหรือศัตรู ต่างก็มีการตัดสินใจที่ไม่ค่อยเมคเซนส์แบบเดียวกับเธอ ซึ่งในเกมคุณจะได้พบหลายฉากหลายซีนที่ค่อนข้างเวอร์เกินจริงไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ตั้งแต่การที่คนๆหนึ่งยอมเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อคนที่ตนเพิ่งพลอดรักกันชั่วข้ามคืน หรือการที่ผู้มีอำนาจเคร่งครัดต่อกฎระเบียบไม่ยอมให้เรื่องส่วนตัวมาทำลายเป้าหมายหลัก แต่กลับปล่อยให้ทหารทั้งหน่วยไปตามรอยแก้แค้นคนๆเดียว หรือการที่หญิงท้องโย้ใกล้คลอดเต็มทนขอติดรถไปทำภารกิจด้วย และที่น่าประหลาดใจเหนืออื่นใด คือการที่ตัวเอกของเราผู้มีเพียงแค่ทักษะเอาตัวรอดขั้นพื้นฐานกับจิตใจอันแรงกล้า แต่กลับสามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะถูกรุมล้อม โดนอสูรยักษ์ไล่ล่า หรืออยู่ท่ามกลางดงชายฉกรรจ์ตัวสูงใหญ่แค่ไหน เธอก็ไม่หวั่นยำเกรง เอาเป็นว่าหากคุณเคยทึ่งกับฉากถล่มโรงพยาบาลในภาคแรก คุณจะยิ่งอึ้งเมื่อได้เห็นสกิลทักษะผนวกความเฮงดวงแข็งของอีสาวซาดิสต์จิตวิปลาสในภาคนี้ ที่ไม่ใช่ “เอลลี่” คนเก่าที่พวกเรารู้จักอีกต่อไป
"พูดไปก็น่าเศร้าใจสำหรับเกม The Last of Us Part II ที่พอองค์ประกอบทุกอย่างเริ่มลงตัว ทั้งภาพกราฟิกและเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้สตูดิโอ Naughty Dog สามารถนำเสนอเกมเพลย์ได้ดั่งใจหวัง ไม่ต้องดาวน์เกรดตัดลดดร็อปอะไรไปเหมือนภาคแรก แต่พวกเขาดันมาพลาดเองแบบง่ายๆในส่วนของเนื้อเรื่อง ที่พยายามฉีกหักมุมไปจากความคาดหวังของแฟนๆ ซึ่งถ้าบรรจงเรียบเรียงดีๆให้ดูน่าเชื่อสมเหตุสมผลก็คงไม่มีใครต่อว่า แต่ในเมื่อผลลัพธ์สุดท้ายออกมาเต็มไปด้วยรอยรั่วช่องโหว่ยุบยับ มันจึงกลับกลายเป็นการทำร้ายตัวละคร ทำลายแฟรนไชส์ที่ทั้งโลกต่างหลงรัก ซึ่งก็คงขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วละว่า จะเลือกจมปลักอยู่กับความโกรธเคืองเคียดแค้นทีมงาน หรือจะยอมปล่อยวางให้อภัยแล้วเปิดใจรับแง่คิดอันดีงามที่ตัวเกมพยายามจะสื่อสารยิงตรงเข้าสู่หัวใจของพวกเราในสังคมทุกวันนี้ที่มีแต่ความเกลียดชัง"
เกมการเล่น | 10 |
กราฟิก | 10 |
เสียง | 10 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ตรรกะเหตุผล | 6 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี: กราฟิกระดับน้องๆ PS5, เรื่องราวที่หักมุมเข้มข้นเปี่ยมไปด้วยอารมณ์, ออพชั่นตัวช่วยการเข้าถึงมากมายช่วยให้เล่นสบายขึ้น, สนุกได้ทั้งผู้เล่นสายแคชชวล-ฮาร์ดคอร์, ฉากกว้างขวางซ่อนการโหลดแบบแนบเนียน, ซับใหญ่สะใจแปลไทยคุณภาพ, ด่านเยอะเนื้อหายาวเหยียด (แม้ครึ่งหนึ่งจะไม่ใช่สิ่งที่เราอยากรู้) และเป็นเกมที่ทำให้เราเข้าใจหัวอกคนอื่นๆ
ข้อเสีย: เกมเพลย์ค่อยๆคืบคลานบางทีก็ชวนเหนื่อยท้อ, เนื้อเรื่อง-การตัดสินใจของตัวละครที่ไม่เมคเซนส์ และเส้นทางของสาวเอลลี่ ฆ่าหมดถ้าสดชื่น ที่ทำคนเล่นอึดอัดยากจะลุ้นเอาใจช่วย
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*