แนว แอ็คชั่นล่ามอนสเตอร์
ระบบ PS4, Xbox One (PC ออก 9 ม.ค.)
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
***จำเป็นต้องเคลียร์ภาคหลักก่อน ถึงจะสามารถเล่นเนื้อหา Iceborne***
ภาคเสริม Expansion ที่ถูกสร้างมาเพื่อเอาใจเหล่าสาวกนักล่า ผู้โหยหาความท้าทายอยากมีอะไรใหม่ๆสนุกๆทำต่อหลังจากจบเกม และมันก็ไม่ได้ทำให้เราต้องผิดหวัง
เรื่องราวของ Monster Hunter World: Iceborne จะดำเนินสืบเนื่องต่อจากตอนจบในเกมภาคหลักแบบฉับพลัน ภายหลังจากที่พวกเราต่อสู้ปกป้องโลก New World ให้รอดพ้นภัยพิบัติจากสัตว์ประหลาดลาวาขนาดยักษ์ และโค่นล้มเอลเดอร์ดราก้อนในตำนานลงได้สำเร็จ ไม่นานนักก็เกิดเหตุเภทภัยครั้งใหม่จากการย้ายถิ่นฐานของเจ้ามังกรน้ำแข็ง Legiana ที่พากันบินอพยพข้ามน้ำข้ามทะเลไปสู่ดินแดนเยือกแข็งตกสำรวจขนาดใหญ่ ที่ไม่เคยมีมนุษย์ผู้ใดเคยเหยียบย่างกรายเข้าไป จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราเหล่าคณะ Research Commission ที่ต้องออกสืบเสาะค้นหาและทำลาย
การเข้าถึงเนื้อหา Iceborne ได้นั้น มันมีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียว นั่นคือผู้เล่นต้องเคลียร์เกม Monster Hunter World ภาคหลักให้จบเสียก่อน โดยตัวเกมจะมอบชุดเกราะ Guardian Armor ที่มาพร้อมสกิลเอาตัวรอดยอดนิยมอย่าง Health Boost ขยายหลอดเลือดพลังชีวิต และ Divine Blessing ลดทอนแดมเมจการโจมตีทุกประเภทลงครึ่งหนึ่งมาให้ตั้งแต่เริ่มเกม เพื่อเป็นตัวช่วยเซฟประหยัดเวลาสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ให้สามารถไล่ทันชาวบ้านที่รุดหน้าไปไหนต่อไหนอย่างรวดเร็ว รวมถึงผู้เล่นหน้าเก่าๆที่เลิกราไปนานแล้วไม่ได้อัปเกรดจัดชุดเทพเอาไว้รอต้อนรับภาคเสริม ชุดเกราะเหล็กสำหรับเด็กน้อยแบเบาะนี้ หากอัปเกรดจนสุดก็ยังพอใช้ต่อกรกับเหล่ามอนสเตอร์ในช่วงแรกๆของ Iceborne ได้บ้าง
สำหรับลูกเล่นใหม่ที่เพิ่มมาพร้อมในภาคเสริมดังกล่าว หลักๆที่เห็นเด่นชัดสุดคงจะเป็นระบบ Clutch Claw อุปกรณ์เครื่องยิงกรงเล็บที่สามารถดึงตัวเราขึ้นไปเกาะอยู่ตามจุดต่างๆของมอนสเตอร์ (สามารถทำได้ด้วยการกดปุ่ม L2+O) โดยเมื่อเราขึ้นไปเกาะอยู่บนตัวมอนฯแล้วจะปรากฏออพชั่นสองทางเลือก คือหนึ่งกดปุ่มสามเหลี่ยมตามทันทีจะเป็นการฟัน-ยิงโจมตีทำลายลดเกราะเฉพาะตรงจุดนั้นบนตัวมอนฯ หรือสองเลื่อนขยับตำแหน่งไปเกาะที่หัวมอนฯแล้วกดปุ่มวงกลม เพื่อเบนเข็มเปลี่ยนทิศทางให้มอนสเตอร์หันหน้าเข้ากำแพงแล้วกดปุ่ม R2 ระเบิดกระสุนสลิงเกอร์อัดใส่บ้องหูให้มันตกใจวิ่งพุ่งชน ซึ่งจะสามารถสร้างแดมเมจและน็อกมันลงไปนอนชักดิ้นชักงอกับพื้นให้เรามีเวลาเข้าไปรุมกระหน่ำซ้ำเติม จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เด็ดสำคัญในการพิชิตมอนสเตอร์ หลังจากที่เมื่อก่อนเราต้องคอยหาจังหวะกระโดดขึ้นหลังมันอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะกดติดทำกันได้บ่อยๆและค่อนข้างเสียเวลา
ทางด้านอาวุธทั้ง 14 ชิ้นจากภาคหลัก ยังคงอยู่ครบถ้วนเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาจะเป็นแอ็คชั่นท่าโจมตีใหม่ๆอย่างละนิดอย่างละหน่อยให้ใช้งานได้ลื่นไหลคล่องตัวมากยิ่งขึ้น อันดับแรกเลยคือท่าจบสามเหลี่ยมหลังจากใช้ Clutch Claw ขึ้นไปเกาะบนตัวมอนสเตอร์ ซึ่งแต่ละอาวุธก็จะมีท่าผละตัวออกจากมอนสเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ดูเท่ไม่แพ้กันเลยโดยเฉพาะธนู ต่อมาคือท่าคอมโบผสม Sling Burst (กด L2 ในระหว่างการโจมตี) ที่เป็นการฟันสลับกับยิงกระสุนสลิงเกอร์ไปด้วยเพื่อให้มอนฯชะงัก และสุดท้ายกับท่าไม้ตายเผด็จศึกใหม่ของอาวุธบางชนิดที่มาช่วยเติมเต็มอุดช่องว่างที่ขาดหาย โดยวิธีการกดท่าใหม่ๆทั้งหมดของอาวุธทุกชิ้นในเกม สามารถดูได้ตามคลิปวิดีโอที่แปะอยู่ด้านล่าง
ในส่วนของ สกิลและเพชร บรรดาชุดเกราะใหม่ๆที่พบในเนื้อหา Iceborne ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับ ช่องใส่เพชรเลเวล 4 เพื่อรองรับเพชรเม็ดเป้งที่มอบสกิลอย่างใดอย่างหนึ่งระดับขั้น 2 ให้กับเรา (หรือไม่ก็มาทีเดียวสองสกิลสกิลละหนึ่งขั้น) เช่น สกิลจำพวก Resistance กันธาตุทั้งหลาย เพียงแค่ใส่เพชรเลเวล 4 เม็ดเดียวเราก็จะได้การป้องกันธาตุนั้นถึงขั้นสองเลยทีเดียว นับเป็นการเซฟประหยัดพื้นที่ช่องใส่เพชรที่มีอยู่จำกัดไปได้มาก และช่วยให้เราสามารถจัดเซตแม็กซ์สกิลที่ต้องการได้ง่ายดายขึ้น
นอกจากนี้ทาง แคปคอม ยังมีการนำเสนอระบบถ่ายรูปแชะเก็บภาพที่เรียกว่า Lynian Research Request เข้ามา อันเป็นเควสต์ย่อยให้เราได้ไปออกท่องตามหาตามถ่ายภาพเหล่าแมวป่าที่อาศัยอยู่ตามฉากจากคำบอกใบ้ ซึ่งบางภาพจำเป็นต้องสังเกตช่วงเวลาของวันและสภาพอากาศ มิเช่นนั้นอาจเสียเที่ยวไม่ได้ภาพตามโจทย์ ตบท้ายด้วยมินิเกม Steamworks ของคุณลุงผู้ดูแลเครื่องจักรไอน้ำ ที่เราต้องคอยเดาทางกดปุ่มสามปุ่มให้ถูกต้องเรียงตามลำดับที่จะมีการสุ่มสลับไปมาตลอดเวลา เดาผิดได้ของธรรมดา เดาถูกได้ของแรร์ พูดไปแล้วมันก็คล้ายกับการเล่นกดสุ่มตู้กาชาปองที่ต้องอาศัยพึ่งพาดวงล้วนๆ เพียงแค่ต่างกันตรงที่เราไม่ต้องเสียเงิน หากแต่เป็นวัตถุดิบแร่ธาตุอย่างพวก Dragonvein Coal หรือ Dragonvein Shard ที่เก็บไว้กับตัวก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อันใด จัดว่าเป็นมินิเกมที่มีแต่ได้กับได้ไม่มีอะไรต้องเสีย
ในเมื่อเรื่องราวดำเนินต่อเนื่องจากตอนจบของภาคหลัก มอนสเตอร์ที่พบเจอย่อมต้องโหดดุดันยิ่งกว่าเดิม จากความยากที่ถูกยกสูงขึ้นไปอีกขั้นในระดับ Master Rank ซึ่งมีความยาวอัดแน่นพอๆกับการนั่งเล่นเคลียร์เนื้อหามอนฮันฯภาคหลัก โดยมันจะพาคุณไปสัมผัสความร้ายกาจของมอนสเตอร์หน้าใหม่ๆในเขตโซนพื้นที่อันหนาวเหน็บ Hoarfrost Reach สลับกับการแวะเวียนกลับไปทักทายมอนสเตอร์หน้าเดิมๆในฉากเก่าๆ ที่ผ่านการโมดิฟายอัปเกรดยกเครื่องเพิ่มท่าใหม่ๆ โจมตีแรงขึ้น และอยู่ไม่สุขยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะที่เห็นชัดเจนสุดคงเป็นเรื่องของหลอดเลือด HP ของมันที่เพิ่มพูนสูงขึ้นมากจากเดิมหลายเท่าตัว ใช้เวลาโค่นนานกว่าเมื่อคราวก่อนที่พบเจอ หากถามว่ายากไหม? มันก็เหมือนกับตอนคุณเพิ่งขึ้น High Rank ใหม่ๆโดยที่ยังคงใช้อาวุธชุดเกราะ Low Rank นั่นแหละ แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางได้อาวุธชุดเกราะในระดับที่ทัดเทียมกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แถมยิ่งถ้าใครเคยผ่านประสบการณ์มอนฯม่วง-มอนฯส้มมาจนชินแล้ว ก็คงไม่มีอะไรในเกมภาคเสริมนี้ที่คุณต้องหวาดกลัว
ภาคเสริม Iceborne นี้เป็นเหมือนกับการยำรวมมิตรเหล่ามอนสเตอร์สุดฮิตยอดนิยมจากเกมมอนฮันฯภาคเก่าๆ อาทิ Freedom / Portable 2nd G / Freedom 2 / Tri / Tri Ultimate / Generations ที่พร้อมใจตบเท้ายกขบวนกันมาให้พวกเราได้หายคิดถึง ในขณะที่มอนสเตอร์หน้าเดิมๆจากภาคหลักหลายต่อหลายตัว ก็ได้ถูกทาง Capcom ปรับโฉมรูปลักษณ์แต่งสีย้อมแมวจนกลายเป็นตัวใหม่ ที่มีการโจมตีและการแพ้ธาตุที่แปรเปลี่ยนไป ซึ่งเท่าที่เห็นคงจะมีเพียงบอสใหญ่-บอสลับประจำภาคเสริม กับเหล่ามอนสเตอร์หางแถวไม่กี่ตัวเท่านั้นแหละ ที่สามารถกล้าพูดได้เต็มปากว่าเป็นมอนสเตอร์ใหม่เอี่ยมอ่องแกะกล่องจริงๆ
ด้วยความที่มันเป็นเกมภาคเสริม ใช้เอนจิ้นตัวเดียวกันกับตัวเกมภาคหลักที่ออกมาเมื่อปีกลาย เราจึงไม่สามารถแยกแยะได้ถึงความแตกต่าง หรือมองเห็นพัฒนาการทางด้านกราฟิกที่เด่นชัดนัก จนอาจพูดได้ว่ามันยังคงรักษาคุณภาพความสวยงามเอาไว้เท่าเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคงจะเป็นเรื่องของ เฟรมเรตของภาพ ที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้ดูสมูธลื่นไหลมากยิ่งขึ้นหากเปิดเล่นบนเครื่องคอนโซล PS4 Pro แต่สำหรับใครที่ยังเล่นบนเครื่องรุ่นเก่าอยู่ ก็คงต้องยอมรับสภาพอดทนกับปัญหาเฟรมตกภาพกระตุกกันไปในบางฉากบางสถานการณ์
หลังเล่นจบเคลียร์เนื้อเรื่องแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เหล่านักล่าทุกคนมองหา ก็คือเหล่าคอนเทนต์ End Game ที่จะดึงดูดเราให้ติดอยู่กับเกมไปได้นานๆ ซึ่งครั้งนี้ดูเหมือนทาง Capcom จะทำการบ้านมาเป็นอย่างดี และได้มีการหยิบนำปัญหาที่ผู้เล่นบ่นอุบกันมาปรับแก้ในภาค Iceborne ด้วยการนำเสนอดินแดนพิเศษเอาใจเหล่านักล่าสายฟาร์มโดยเฉพาะที่มีชื่อว่า Guiding Land แม็พแผนที่ขนาดใหญ่ที่รวบรวมเอาสภาพพื้นที่ทุกรูปแบบในเกมมาเชื่อมต่อรวมไว้ด้วยกัน มีทั้งโซนป่าดงดิบ, ทะเลทราย, แดนเน่าเปื่อย และลาวาภูเขาไฟ ให้คุณได้ไล่ล่ามอนสเตอร์แบบมาราธอนข้ามวันข้ามคืนเพื่อฟาร์มวัตถุดิบมา Augment อัปเกรดอาวุธชุดเกราะจนหนำใจ โดยไม่มีเวลาจำกัดหรือเกมโอเวอร์ ซึ่งเหล่ามอนสเตอร์สุดแกร่งจะค่อยๆสุ่มปรากฏขึ้นมาในฉาก หากเรานั่งเล่นสะสมเลเวลพื้นที่โซนนั้นบ่อยๆ และอาจต้องใช้เวลานานซักหน่อย แต่อย่างน้อยๆหนทางยาวไกลที่มองเห็นเส้นชัย มันก็ยังดีกว่าการนั่งฟาร์มสุ่มของไร้จุดหมายแบบเก่า คุณว่าจริงมั้ย?
"ด้วยเนื้อหาความยาวที่เทียบเท่ากับตัวเกมภาคหลัก และระบบต่างๆที่ถูกปรับปรุงใหม่ตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆ จึงอาจพูดได้ว่า Monster Hunter World: Iceborne มันคือภาคใหม่ที่มาช่วยตอบโจทย์ต่อลมหายใจให้กับสุดยอดเกมแอ็คชั่นอาร์พีจีแห่งยุคอย่างแท้จริง ซึ่งหากใครยังไม่เคยลิ้มลองสัมผัส ทาง Capcom ก็ได้จัดแพคเกจมัดรวมภาคหลักกับภาคเสริมไว้ให้ในราคาเกมเดียว เรียกว่าคุ้มค่ากว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว"
เกมการเล่น | 10 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ภาพรวม | 9.5 |
ข้อดี : เกมเพลย์ล่ามอนฯยืนหนึ่งในใต้หล้า, ท่าใหม่สุดคูลของอาวุธแต่ละชิ้น, บิลด์สกิลเต็มแม็กซ์ได้ง่ายขึ้น, สารพัดลูกเล่นอำนวยความสะดวกในการล่า, เฟรมเรตไหลลื่นสำหรับ PS4 Pro, คอนเทนต์เอนด์เกมดีกว่าเก่า และอัดแน่นเนื้อหาคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
ข้อเสีย : การเล่าเรื่องแข็งทื่อลอกสูตรเดิมเป๊ะไม่คิดปรับปรุง, เหล่าอสูรย้อมแมวตีเนียนเป็นตัวใหม่ และระบบจับคู่จอยห้องที่ยังดูยุ่งยากลำบากเหมือนเดิม
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท ไซคอม Sicom
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*