แนว แอ็คชั่นผจญภัย
ระบบ PS4 (รองรับอุปกรณ์ PS VR)
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ผจญภัยท่องสู่โลกเหนือจินตนาการ ไปกับเรื่องราวของหนูน้อยวัยซน ผู้มอบชีวิตจิตวิญญาณให้กับผลงานภาพเขียน และเติมเต็มหัวใจของเราทุกคนให้พองโต
Concrete Genie เป็นเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัยจากฝีมือทีมพัฒนา Pixelopus (สตูดิโอเล็กๆผู้อยู่เบื้องหลังเกมจังหวะดนตรี Entwined) ที่นำเสนอเนื้อหาในลักษณะ Anti Bully ต่อต้านการรังแกอันเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนมักมองข้าม โดยสะท้อนออกมาผ่านสายตามุมมองของ "แอช" (Ash) หนุ่มน้อยโดดเดี่ยวตัวลำพังผู้มักถูกกลุ่มเด็กวัยเดียวกันกลั่นแกล้งเสมอเป็นประจำในเมืองชายทะเลบ้านเกิดของเขาที่มีชื่อว่า Denska
สำหรับ แอช เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่มักใช้เวลาว่างไปกับการวาดภาพทิวทัศน์สวยงาม สร้างสตอรี่เขียนแต่งเรื่องราวลายเส้นเพื่อหลบหนีจากปัญหาชีวิตที่ผ่านพ้นเข้ามา จะว่าไปแล้วตัวเขาค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับตัวละคร "ป๋อง" ที่เราเคยรู้จักจากหนังไทยเรื่อง เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ ซึ่งเดินตามรอยคอนเซปต์แบบเดียวกัน เพียงแต่เกมนี้จะพาเราถลำลงลึกไปไกลยิ่งกว่านั้นมากนัก เมื่อจู่ๆภาพวาดของเขาดันเกิดมีชีวิตขึ้นมา และทำให้เจ้าตัวได้รับรู้ว่าสกิลทางด้านศิลปะสามารถนำพาความสว่างสดใสกลับคืนมาสู่เมืองของเขาได้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสุดสร้างสรรค์ที่ชวนให้คุณสงสัยว่านี่มันคือเรื่องจริง หรือจินตนาการเพ้อฝันกันแน่
เป้าหมายของเกมนั้นเรียบง่ายชัดเจนตรงไปตรงมา เพราะหน้าที่หลักของเราคือการใช้พู่กันหรรษาขนาดยักษ์ไซส์เบิ้มที่พกเหน็บติดตัวไว้ตลอด วาดบรรเลงลายเส้นสร้างรูปทรงต่างๆตามที่ต้องการลงไปบนฝาผนังกำแพง เพื่อทำให้รูปหลอดไฟที่ห้อยอยู่ทั่วเมืองติดสว่าง ยิ่งถ้าหากเราวาดภาพได้ถูกใจตรงตามความปรารถนาเรียกร้องของ Genie (เหล่าภาพวาดภูติยักษ์ที่เรามอบชีวิตให้) ด้วยแล้ว เจ้าพวกนั้นก็จะตบรางวัลตอบแทนกลับคืนเป็นเกจพลัง "สีแห่งมนตรา" ที่เราสามารถใช้ในการขจัดปัดเป่า "เชื้อราแห่งความมืด" ร่องรอยคราบสกปรกสีดำม่วงที่กำลังก่อตัวกัดกินเมืองอันแสนสงบสุขแห่งนี้ ให้หมดสิ้นไปได้
เมือง Denska จะมีลักษณะเป็นสภาพแวดล้อมโอเพ่นเวิลด์ขนาดย่อมเยาว์ ให้เราได้เดินสำรวจปีนป่ายไต่หลังคาได้อย่างอิสระ โดยตามซอกตามหลืบจะมีแผ่นหน้ากระดาษสมุดภาพวาดของ แอช ถูกฉีกทิ้งกระจัดกระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ หากตามเก็บได้เราก็จะมีไอเดียภาพร่างใหม่ๆให้ได้วาดลงไปบนผนัง อีกทั้งระหว่างทางภายในฉากยังมี กลุ่มแก๊งค์เด็กอันธพาล คอยเดินเพ่นพ่านหาเรื่องชาวบ้าน ซึ่งเราต้องคอยระวังหลบหลีกหรือทำเสียงหลอกล่อให้พวกมันไปอีกทาง รวมถึงยังมีเหล่าปีศาจภาพวาดสุดน่ากลัวที่เราต้องเผชิญหน้าต่อสู้ด้วย แต่ผู้ปกครองไม่ต้องหวั่นวิตกกังวลไป เพราะเนื้อหาตลอดทั้งเกมนี้ปลอดความรุนแรง ไม่มีเลือดตกยางออกให้ได้เห็นแน่นอน อย่างมากสุดก็แค่ลงโทษให้ผู้เล่นเสียเวลานิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง
สิ่งสำคัญที่ทำให้ตัวเกมโดดเด่นเกินหน้าเกินตา คงต้องยกให้กับเรื่องของ สีสันความมีชีวิตชีวาของเหล่ายักษ์ผนัง ที่ไม่ใช่เพียงแค่ขยับแขนขยับขาเดินตามเราไปมาบนกำแพงได้เท่านั้น แต่เรายังสามารถเล่นหยอกล้อมันราวกับสัตว์เลี้ยงหรือเพื่อนสนิทในชีวิตจริงได้ เช่น ทำสายตาเว้าวอนอยากได้นั่นได้นี่, บางทีก็แสดงอาการหิวให้เราวาดรูปอาหารของกินให้มัน, สามารถเข้าไปใกล้แล้วเอาพู่กันหยอกล้อจั๊กกะจี้, เอามือแปะผนังทำท่าไฮไฟฟ์กับมันเวลาที่ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน หรือแม้กระทั่งเล่นกีฬาด้วยกันก็ยังได้ แล้วแต่ว่าสถานที่ ณ ตรงจุดนั้น มันมีลูกบอล วัตถุสิ่งของ อุปกรณ์อะไรให้เราได้เล่นบ้าง
สำหรับ Concrete Genie จัดอยู่ในหมวดหมู่เกมที่รองรับการเล่นร่วมกับแว่น Playstation VR แต่ถึงกระนั้นตัวเกมก็ไม่ได้บังคับให้คุณต้องหยิบอุปกรณ์เทอะทะสายยาวเกะกะดังกล่าวขึ้นมาปัดฝุ่น เนื่องจากคุณสามารถใช้คอนโทรลเลอร์ปกติของเครื่อง PS4 ในการวาดรูปต่างๆลงไปบนพื้นผนังได้ด้วยคุณสมบัติเซนเซอร์ตรวจจับการเอียงที่มีอยู่ในตัว ซึ่งสามารถใช้ทดแทนจอย PS Move แบบพอไปวัดไปวาได้ ถึงแม้จะไม่ได้เที่ยงตรงแม่นยำดั่งใจนึกเท่าไหร่นัก แต่ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบสมบูรณ์เพอร์เฟกต์ เราคงต้องบอกให้ทำตามที่ตัวเกมแนะนำจะดีกว่า เพราะเพียงแค่การวาดตามกรอบปาดขึ้นลงซ้ายขวาธรรมดาง่ายๆ เซนเซอร์ Dualshock 4 เจ้ากรรม ก็ทำให้มันเป็นเรื่องลำบากยากเข็ญได้เช่นกัน
ในส่วนของเรื่อง การแปลภาษาไทย คงไม่มีประเด็นอะไรให้พูดถึงมากนัก เพราะยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานอันสูงส่ง จากประสบการณ์การแปลเมนู-ซับไตเติ้ลภาษาไทยตลอดเรื่อยมาทั้งในเกมฟอร์มเล็กไปจนถึงแฟรนไชส์ฟอร์มใหญ่ มีการตกแต่งเลือกใช้ถ้อยคำที่ดูเหมาะสมสอดรับกับสถานการณ์ ซึ่งมาคราวนี้ในเกมตีมเด็กวัยซน ทุกประโยคถ้อยคำที่ถูกพ่นออกจากปากทั้งฝ่ายที่กระทำและฝั่งที่ถูกกลั่นแกล้ง ล้วนเป็นคำที่สื่อสารได้ชัดเจนชวนให้เรารู้สึกเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครตัวนั้นจริงๆ จนอาจพูดได้ว่า ภาษาไทย ปัจจุบันได้กลายเป็นสกิลความถนัดช่ำชองเชี่ยวชาญอีกอย่างหนึ่งของบริษัท โซนี่ ไปเสียแล้ว
ด้วยความที่ Denska เป็นเพียงเมืองท่าเล็กๆ และจุดประสงค์หลักของทีมงานคือการได้ลองนำเสนอไอเดียแปลกๆใหม่ๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เนื้อหาของเกมจะดูสั้นกระชับไม่ยืดเยื้อเหมือนเกมอื่นๆทั่วไป ว่ากันตามตรงหากเน้นพุ่งไปที่เรื่องราวเมนหลักไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มันก็ไม่น่าจะกินเวลายาวนานเกิน 5 ชั่วโมงในการเล่นเคลียร์ เรียกได้ว่าพอปมปริศนาทุกอย่างถูกคลี่คลายหมดเสร็จสิ้นก็พร้อมตัดเข้าสู่ฉากจบเอนดิ้ง บีบให้เราลุกออกจากที่นั่งปิดทีวีแล้วกลับไปทำกิจวัตรประจำวันด้วยรอยยิ้มจากภาพความทรงจำสุดประทับใจในมิตรภาพและความผูกพันที่มิได้พบเห็นกันได้บ่อยๆในเกมยุคปัจจุบัน
"หากพูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้เกมโนเนมอย่าง Concrete Genie สามารถมัดใจเหล่าผู้เล่นที่ได้สัมผัสและเป็นที่กล่าวขวัญในวงกว้าง ส่วนหนึ่งคงต้องยกให้ประเด็นเนื้อหาที่หยิบเอาเรื่องราวใกล้ตัวที่ชีวิตทุกคนต้องเคยเจอมานำเสนอ กับช่วงเวลาวัยเด็กแสนซุกซนที่ได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งแม้แต่เด็กเกเรที่มักถูกมองในแง่ร้าย ต่างก็มีเหตุผลในการกระทำของพวกเขา และเราเองก็จะได้มาเรียนรู้ทำความเข้าใจในเกมฟีลกู้ดสะท้อนสังคม อันถือเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามที่ควรค่ายิ่งแก่การเจียระไนผลักดันให้เป็นแฟรนไชส์ใหญ่ระดับแม่เหล็กของ โซนี่"
เกมการเล่น | 9 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ความคุ้มค่า | 8 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี : ภาพสีสันสวยสดงดงาม, ฝึกใช้จินตนาการในทางสร้างสรรค์, เหล่ายักษ์จีนี่บนผนังที่แสนมีชีวี, นำเสนอเรื่องราวใกล้ตัวที่ทุกคนสัมผัสได้, งานแปลไทยคุณภาพ และนับเป็นไอเดียแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ข้อเสีย : เนื้อหาสั้นไปหน่อย กับเซนเซอร์จอย PS4 ที่ไม่แม่นยำเท่าที่ควร
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES) และบริษัท Next Generation InnovationNGIN
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*