ค่ายเจ้าของแฟรนไชส์เรสซิเดนท์อีวิล ประกาศนโยบายใหม่ของบริษัท พร้อมทุ่มเทเวลาเต็มที่ในการขัดเกลาเกม ดีกว่าใจร้อนรีบเร่งเข็นวางขายเหมือนอย่าง Street Fighter V
หลังจากที่ออกมาน้อมรับความผิดในกรณีเกมสตรีทไฟท์เตอร์ 5 ที่ทำเอาแฟนๆต่อสู้รู้สึกหมดศรัทธา ล่าสุดทาง "เคนโซ ทสึจิโมโตะ" (Kenzo Tsujimoto) ซีอีโอแห่งค่ายแคปคอม ก็ออกมาประกาศร่างแผนนโยบายฉบับใหม่ในการพัฒนาเกม โดยมีเนื้อหาใจความระบุว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทางบริษัทจะขอใช้เวลามากขึ้นในการผลิตแต่ละผลงาน เพื่อรับประกันว่ามันเสร็จสมบูรณ์พร้อมวางจำหน่าย
"สำหรับเกมที่หวังตีตลาดโลก มันต้องเป็นผลงานระดับคุณภาพ และจากแง่คิดดังกล่าวจึงได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยในการพัฒนา และในขั้นตอนของการผลิต สำหรับเหล่าไตเติ้ลเกมที่ยังไม่ถึงระดับมาตรฐาน และเราได้มีการปรับแก้เพิ่มช่วงเวลาพัฒนาให้แก่เกมบางไตเติ้ลเป็นที่เรียบร้อย"
"แทนที่จะยึดตามกำหนดการขาย หรือขีดเส้นตายเดดไลน์ในการพัฒนาแบบเดิมๆ หากหวังในเรื่องคุณภาพอันเป็นที่พึงพอใจของเหล่านักเล่นเกมแล้ว เราจำเป็นต้องเปลี่ยนโฟกัสหันมาพัฒนาเกมโดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องความสมบูรณ์แบบ ต่อให้มันจะส่งผลให้กำหนดการต่างๆถูกเลื่อนออกไปก็ตาม" ทสึจิโมโตะ กล่าว
นอกจากนี้ ทางทสึจิโมโตะ ยังได้กล่าวเตือนไปถึงกลุ่มนักลงทุน และเหล่านักวิเคราะห์ว่า แม้การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายในระยะสั้น แต่ตัวเขาเชื่อว่ามันจะช่วยให้รายได้ต่อปีของบริษัทขยับเติบโตขึ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซนต์ พร้อมทั้งยังเน้นย้ำด้วยว่าผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากเวลาพัฒนาที่เพิ่มขึ้น สุดท้ายแล้วมันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แฟรนไชส์เกมของบริษัท
สำหรับ "Street Fighter V" เกมต้นเหตุที่เป็นตัวการของเรื่องราวทั้งหมด มีรายงานว่าขายไปได้แล้วกว่า 1.4 ล้านชุดเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ (31 มี.ค.) ซึ่งน้อยกว่าเป้าที่แคปคอมตั้งเอาไว้ที่ 2 ล้านชุด โดยปัจจัยที่ทำให้ตัวเกมขายได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ก็คงมาจากปัญหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีมาตั้งแต่ช่วงเบต้า และเรื้อรังมาถึงตอนเกมออก อีกทั้งตัวเกมยังถูกวิจารณ์ว่าขาดแคลนเนื้อหา และฟีเจอร์สำคัญๆอย่างระบบลงโทษผู้เล่นที่ออกจากเกมเวลาใกล้แพ้ จนเกิดช่องให้บางคนฉวยโอกาสเก็บสถิติสวยหรูไต่อันดับสูงเกินฝีมือจริง
จบจากเรื่องสตรีทไฟท์เตอร์ ที่เป็นอดีตไปแล้ว ในอนาคตทางบริษัทแคปคอม ระบุเตรียมแผนที่จะปล่อยวางจำหน่ายเกมฟอร์มยักษ์จำนวน 3 ไตเติ้ลด้วยกัน ภายในช่วงเวลาก่อนสิ้นปีงบประมาณปัจจุบัน (มี.ค. 2017) ซึ่งหนึ่งในสามเกมที่ว่านี้มีภาคใหม่ของ "มอนสเตอร์ ฮันเตอร์" ติดโผรวมอยู่ในนั้นด้วย ในขณะที่อีกสองเกมที่เหลือ ยังไม่มีการเปิดเผย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*