แนว แอ็คชั่น
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โล้นซ่าบ้าเลือด กับดาบโซ่คู่ใจ กลับมาใหม่ให้แฟนๆได้รำลึกหายคิดถึงกันอีกครั้งในเกมก็อดออฟวอร์ที่ไม่ใช่ภาคต่อ แต่เป็นภาคเก่าที่ถูกนำมาปัดฝุ่นให้ดูคมชัดในระดับฟูลเอชดี
โอกาสอันดีสำหรับเกมเมอร์วัยละอ่อนที่อ้อนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ซื้อคอนโซลเพลย์สเตชัน 4 ได้สำเร็จ เพราะตำนานสงครามสะสางหนี้แค้นระหว่างลูกชายจอมห่าม "เครโทส" กับเทพเจ้าสายฟ้า "ซุส" ผู้เป็นพ่อ ที่เคยสร้างความฉิบหายวายป่วงทั่วแคว้นแดนโอลิมปัส และติดตาตรึงใจเหล่าสาวกโซนี่ทุกคนเมื่อ 5 ปีก่อน ได้หวนกลับมาเยือนให้แฟนๆคอนโซลรุ่นใหม่ได้สัมผัสกันแล้วในเกมที่มีชื่อว่า "God of War III Remastered"
สำหรับคนที่เพิ่งจับมันเป็นครั้งแรก เนื้อเรื่องในเกมจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินต่อเนื่องจากภาคสอง เมื่อตัวเอก "เครโทส" พาเหล่าทัพไททันร่างยักษ์บุกปีนขึ้นเขาโอลิมปัสเพื่อหวังโค่นซุส และท้าทายอำนาจของเหล่าทวยเทพ ซึ่งสงครามการต่อสู้ที่ยืดเยื้อกันมาเนิ่นนานจะมาถึงจุดบทสรุปรู้ผลกันในภาคนี้ โดยคำว่า "รีมาสเตอร์" ต่อท้ายชื่อนั้นมาจากการที่ตัวเกมได้อัพความละเอียดภาพจาก 720p ต้นฉบับมาสู่ระดับฟูลเอชดี 1080p ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที หากใครนึกไม่ออกว่าภาพมันชัดขึ้นขนาดไหนก็ให้เทียบเวลาดูหนังบนแผ่นดีวีดี แล้วย้ายมาดูหนังเรื่องเดียวกันบนแผ่นบลูเรย์
โดยตัวเกมในเวอร์ชันรีมาสเตอร์นี้ เหล่าใบไม้หรือพื้นสนามจะถูกตีขอบเห็นเป็นเส้นหญ้า สามารถมองเห็นรายละเอียดบนร่างกายเครโทสและตัวศัตรูได้มากขึ้น รวมไปถึงแสงเงาที่สะท้อนระยิบระยับตามพื้นผิว ซึ่งภาพกราฟิกที่คมชัดขึ้นช่วยให้การเล่นนั้นง่ายและสบายตากว่าเดิมเยอะ แต่ด้วยเอฟเฟกต์โมชั่นเบลอเวลาตัวละครเคลื่อนไหวอาจทำให้คนที่เคยจับต้นฉบับมาก่อนไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในขณะเล่น ซึ่งรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้จะมองเห็นได้ชัดก็ต่อเมื่อทำการหยุดภาพเกมเอาไว้แล้วนำทั้งสองเวอร์ชันมาวางเปรียบเทียบกัน
นอกเหนือจากภาพที่ถูกอัพเกรดแล้ว ตัวเกมยังได้เสริมเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ที่อาจฟังดูไม่ค่อยสำคัญน่าสนใจเท่าไหร่นักอย่าง Photo Mode หรือโหมดถ่ายรูปที่ให้เรากดทัชแพดบริเวณฝั่งซ้ายของจอย PS4 เพื่อหยุดภาพเกมแล้วถ่ายแอ็คชั่นตัวละครแชร์ให้คนอื่นได้เห็น แต่ข้อจำกัดของมันคือทำได้เพียงแค่ซูมเข้าซูมออก ไม่สามารถหมุนมุมกล้องแบบสามมิติเพื่อเลือกดูแอ็คชั่นในมุมมองอื่นๆได้ ทำให้มันไม่ต่างอะไรไปจากการถ่ายภาพสกรีนช็อตธรรมดาที่เพิ่มตัวเลือกปรับแต่งโทนสีกับใส่กรอบรูปเข้ามาเท่านั้น ซึ่งของแบบนี้โปรแกรมโฟโต้ช็อปในคอมฯก็ทำได้
อีกหนึ่งลูกเล่นของตัวเกมฉบับรีมาสเตอร์ ที่ทีมงานได้แอบใส่ไว้โดยไม่บอกกล่าวจนบางคนไม่ทันสังเกตเห็นในขณะที่ตากำลังจดจ่ออยู่กับฉากบู๊อันตระการตาบนหน้าจอทีวี นั่นคือแถบไฟไลท์บาร์ด้านหลังจอยดูอัลช็อคโฟร์ ที่จะมีการเปลี่ยนสีสันไปตามอาวุธที่เครโทสถืออยู่ อย่างดาบโซ่ติดตัวเริ่มแรกที่แทนด้วยสีแดงส่องสว่าง หรือตะขอเกี่ยววิญญาณของฮาเดสที่จะเปล่งแสงสีม่วงออกมาอะไรแบบนี้เป็นต้น ส่วนเหล่าคอนเทนต์ดาวน์โหลดเสริมที่ถูกรวบรวมเอาไว้ในแผ่น เราจำเป็นต้องเคลียร์เกมให้จบรอบหนึ่งเสียก่อนถึงจะถูกปลดล็อคออกมา โดยมีทั้งคอสตูม DLC อันหลากหลายของตัวละครเครโทสที่แอบแฝงความสามารถพิเศษใหม่ๆมากมาย รวมไปถึง Challenge of Exile ที่บรรจุชาเลนจ์ใหม่ทั้ง 7 ให้ได้เล่นกัน
ข้อบกพร่องประการเดียวที่พบเจอในเกม คงเป็นเรื่องปัญหาภาพไม่เต็มจอ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีกรอบดำสี่เหลี่ยมมาบดบังหน้าจอขณะที่กำลังเล่น แต่ปัญหานี้มีวิธีแก้ที่ง่ายแสนง่ายเพียงแค่เราเข้าไปที่เมนู Settings ของเครื่องเพลย์สเตชัน 4 เลื่อนลงมาที่ Sound and Screen เลือกหัวข้อ Display Area Settings แล้วปรับขยายภาพให้สุดจนเต็มจอก็เป็นอันเสร็จ ซึ่งหากใครที่กลัวว่าหลังขยายภาพแล้วจะทำให้ภาพเกมปกติอื่นๆถูกซูมขยายตามไปด้วย ก็ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลไปเพราะการปรับขยายในส่วนนี้จะส่งผลเฉพาะกับบางเกมที่ให้ภาพไม่เต็มจอเท่านั้น
ถึงแม้มันจะเป็นเกมเก่าที่แค่ผ่านการรีมาสเตอร์ แต่ทว่าความสนุกและภาพแสงสีเสียงของ "God of War III Remastered" นั้นกลับสู้บรรดาเกมใหม่ๆบนเครื่อง PS4 ได้อย่างสบาย ซึ่งนับว่าเป็นการตอกย้ำให้ประจักษ์เห็นถึงคุณภาพความใส่ใจในเกมต้นฉบับ ที่ทำให้มันยังคงร่วมสมัยอยู่ได้แม้กาลเวลาจะผ่านมาหลายปี และคงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องตำหนิกับการนำของที่ดีอยู่แล้วมาใส่กรอบเลี่ยมทองเหมือนอย่างที่เกมนี้ได้ทำ
เกมการเล่น | 9 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี : กราฟิกคมชัดขึ้น, เฟรมเรตลื่นไหลกว่าเดิม และเหล่าคอนเทนต์เสริม DLC
ข้อเสีย : ภาพไม่เต็มจอ (แต่แก้ได้)
ปู่ชิน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Next Generation InnovationNGIN
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*