หลังจากที่มีการนำเสนอข่าว การถ่ายทำสารคดีการขุดพบตลับเกมอาตาริจำนวนมากถูกฝังอยู่ในพื้นที่ทะเลทรายแถบนิวเม็กซิโก ล่าสุดอดีตพนักงานของค่ายเกมอาตาริก็ยอมรับแล้วว่าเขาคือผู้ดำเนินการเรื่องนี้เมื่อช่วงเดือนกันยายน ค.ศ. 1983
เจมส์ เฮลเลอร์ ชาวเมืองนัมปา รัฐไอดาโฮ ยอมรับว่า ในตอนที่ยังทำงานให้กับค่ายเกมอาตาริ ทางบริษัทขอให้เขาจัดการกับบรรดาตลับเกมที่ขายไม่ออกจำนวนกว่า 750,000 ตลับ ซึ่งกองอยู่ในโกดังที่เมืองเอลปาโซ รัฐเท็กซัส
เจมส์ เฮลเลอร์ บอกว่า เขาเลือกที่จะเอาตลับเกมพวกนั้นไปทิ้งไว้ในพื้นที่แถบนิวเม็กซิโก ด้วยเหตุผลในเรื่องของค่าใช้จ่ายและความสะดวก
"ผมได้รับมอบหมายให้จัดการกับตลับเกมพวกนี้ให้เร็วที่สุดและประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งผมก็ทำมันไปแล้ว นั่นล่ะงานของผม" เจมส์ เฮลเลอร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น KBOI2
บรรดาตลับเกมที่ไม่ได้รับความนิยมเหล่านี้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานเมืองที่เล่าขานกันมาเกินกว่า 30 ปี จนกระทั่งมีการพิสูจน์ว่าเรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องจริงจากการขุดสำรวจในช่วงที่ผ่านมา
ตลับเกม E.T. หลายพันตลับที่ถูกขุดพบ กลายเป็นสัญลักษณ์ความตกต่ำของอุตสาหกรรมเกมในช่วงแรกๆ ของยุคปี 80 ซึ่งตอนแรกเชื่อกันในวงกว้างว่าจะมีเพียงตลับเกม E.T. เท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วยังมีตลับเกมอื่นๆ ของเครื่อง Atari 2600 ที่ถูกขุดพบด้วย อาทิ Missile Command และ Centipede
เจมส์ เฮลเลอร์ เปิดเผยว่า ตอนนั้นเริ่มมีวัยรุ่นมาขโมยตลับเกมที่ถูกทิ้งไว้ เขาเลยจัดการเอาคอนกรีตประมาณ 6 รถบรรทุกมาทำการฝังตลับเกมเหล่านั้น
เขาบอกอีกว่า สำหรับบรรดาเรื่องลี้ลับและทฤษฎีสมคบคิดทั้งหลายที่ลือกันหนาหูเกี่ยวกับตลับเกม E.T. ที่โดนฝังไว้นั้น ความจริงก็คือเป็นฝีมือของคนนี่เอง
"มันไม่มีเรื่องลี้ลับอะไรทั้งนั้น คนเรานี่ล่ะที่สร้างเรื่องลี้ลับขึ้นมากันเอง" เจมส์ เฮลเลอร์ กล่าว
การขุดสำรวจค้นหาตลับเกมอาตาริครั้งนี้ถูกถ่ายทำเป็นสารคดีออกฉายบนแพล็ตฟอร์มของ Xbox ตลับเกมบางส่วนที่ถูกขุดพบประมาณ 250 ตลับ ได้ถูกมอบให้กับทีมงานถ่ายทำสารคดี ส่วนที่เหลือถูกขายให้กับเมืองอลาโมกอร์โด
ข้อมูลจาก
CVG
ทีมงานผู้จัดการเกม ขอเชิญผู้อ่านร่วมเป็นสมาชิกแฟนเพจ ManagerGame เพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกม