แม้คำว่า "ขายไม่ออกจนต้องเอาไปถมที่ดิน" จะฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่ในยุคแรกๆของวีดีโอเกมก็เคยมีเรื่องเล่าทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้วกับเกม "E.T." บนเครื่องอาตาริ ทำให้บริษัทภาพยนตร์รายหนึ่งคิดจะขุดเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเพื่อค้นหาความจริง
ตัวเกม "E.T. the Extra-Terrestrial" เป็นผลงานของค่ายอาตาริที่สร้างออกมาในปี 1982 ลงบนเครื่องอาตาริ 2600 ซึ่งก็ถูกนักวิจารณ์สับเละว่าเป็นเกมที่แย่ที่สุดเกมหนึ่งในประวัติศาสตร์ แถมยังผลิตออกมาจำนวนมากจนของเหลือค้างสต็อกหลายล้านตลับและกลายเป็นหนึ่งในต้นเหตุของวิกฤติวงการวีดีโอเกมครั้งใหญ่เลยทีเดียว
ในปี 1983 หนังสือพิมพ์ประจำเมือง Alamogordo รัฐนิวเม็กซิโกก็รายงานว่ามีการขนสินค้าจากโกดังของอาตาริเข้ามาใช้ถมที่ดินในเมืองประมาณ 10-20 คันรถบรรทุก โดยทางค่ายออกมาชี้แจงว่าของเหล่านี้เป็นของเสียหายใช้การไม่ได้และทำไปเพื่อเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่คอนโซลยุคใหม่ "อาตาริ 5200" เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สื่อหลายฉบับและคนงานผู้รับเหมาในจุดเกิดเหตุก็แย้งว่าของที่นำมาทิ้งที่จริงแล้วคือสินค้าขายไม่ออกของอาตาริ ประกอบด้วยเกม E.T. ที่เหลือประมาณ 3.5 ล้านตลับพร้อมฮาร์ดแวร์อุปกรณ์เสริมและตลับเกมอื่นๆ ซึ่งทางค่ายก็ไม่เคยออกมายอมรับเหลือไว้เพียงเรื่องเล่าตำนานเมืองจนถึงยุคปัจจุบัน
ล่าสุด สื่อท้องถิ่น KRQE ของเมืองดังกล่าวก็ออกมารายงานว่าคณะกรรมาธิการผู้ดูแลเมืองได้ลงมติอนุญาตให้บริษัทภาพยนตร์ "Fuel" จากรัฐออนแทริโอ ประเทศแคนาดา เข้ามาสำรวจขุดค้นพื้นที่ภายใต้กรอบเวลา 6 เดือนเพื่อถ่ายทำเป็นหนังสารคดี ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาก็คือตลับเกมเหล่านี้นี่เอง
บรรดาของที่ถูกนำมาทิ้งได้โดนบดทำลายและราดด้วยคอนกรีตก่อนจะกลบดินจึงยังไม่แน่ชัดว่าจะออกมาในสภาพใด โดยการฝังครั้งประวัติศาสตร์ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 1983 และจะวนมาครบรอบ 30 ปีพอดีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
"ซูซี กาเลอา" นายกเทศมนตรีของ Alamogordo ตั้งความหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะนำมาความสนใจจากโลกภายนอกมาสู่เมืองมากขึ้น
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
Eurogamer
Kotaku