2012 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญอีกปีหนึ่งของบริษัทโซนี่ ในการเปิดตัวเครื่องพกพาเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด "เพลย์สเตชันวีตา" สู่ตลาดโลกหลังชิมลางวางขายที่ญี่ปุ่นไปก่อนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งทางโซนี่ได้ฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับเครื่องตัวนี้ว่ามันจะรุ่งพุ่งแรงกว่าเครื่องรุ่นเก่า PSP
เพลย์สเตชันวีตานั้น เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาตัวใหม่ล่าสุดที่โซนี่ได้ฤกษ์วางจำหน่ายในอเมริกาไปเมื่อช่วงต้นปี 2012 และถือเป็นเครื่องพกพาที่มีขุมพลังแรงสุดในตลาดไม่แพ้คอนโซล พร้อมกับลูกเล่นการบังคับที่ใส่มาเต็มที่ แต่ทว่าตัวเลขยอดขายกลับสวนทางกันไม่แรงเหมือนดั่งสมรรถนะ นับวันยิ่งแย่เหมือนเส้นกราฟที่ดิ่งลง ในวันนี้ทางเราจึงขอวิเคราะห์สาเหตุว่าทำไมเครื่องทรงพลังตัวนี้ไปไกลไม่ถึงฝัน
สำหรับสาเหตุหลักคงต้องย้อนกลับไปที่เครื่องรุ่นพี่ PSP ที่โซนี่ทำออกมาเพื่อแย่งชิงตลาดจากเจ้าพ่อเครื่องพกพาอย่างนินเทนโด โดยตั้งคอนเซปต์หลักให้มันเป็นเครื่องพกพาที่รองรับเกมพอร์ตทั้งหลาย ซึ่งต่างจากนินเทนโดที่เน้นสร้างเกมใหม่สำหรับเครื่องพกพาโดยเฉพาะและหาเล่นไม่ได้จากเครื่องอื่น ทำให้ยอดขายตอนเปิดตัวเครื่อง PSP ออกมาไม่ดีเท่าไรนัก แต่นับว่าโชคยังดีที่มีเกมอย่างมอนสเตอร์ฮันเตอร์และไฟนอลฯมาช่วยกระตุ้นยอดขายให้กลับมาดีขึ้น
ซึ่งทางโซนี่เอง คงได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตว่าความสำเร็จของเครื่องอยู่ที่จำนวนเกมเอ็กคลูซีฟที่มีเฉพาะเครื่องไม่ใช่เกมพอร์ต จึงได้เปลี่ยนชื่อเครื่องพกพารุ่นต่อมาให้เป็น "เพลยสเตชันวีตา" พร้อมกับคอนเซปต์ใหม่ "คอนโซลฉบับพกพา" ที่เน้นสร้างเกมคุณภาพกราฟฟิกระดับ HD ใกล้เคียงกับเครื่องเพลย์สเตชัน 3 แต่ด้วยความแรงนี้เองที่กลับกลายมาเป็นหอกข้างแคร่ทิ่มแทงตัวเอง เพราะยิ่งเกมมีภาพสวยมากขึ้นเท่าไรก็ต้องแลกมาด้วยการลงทุนที่สูงขึ้นตามมา ส่งผลให้บรรดาค่ายเกมต่างๆที่มองในเชิงธุรกิจแล้วไม่คุ้มที่จะเสี่ยง และตัดสินใจเลือกวิธีเซฟ เน้นเจาะกลุ่มตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าบนเครื่องคอนโซล แล้วค่อยพอร์ตลงมาให้กับเครื่องวีตาอีกที ซึ่งการทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีกับเครื่องวีตาเท่าไหร่นัก
หากลองมองดูเกมเอ็กคลูซีฟบนเครื่องวีตาที่ออกมาในปี 2012 ที่ดังๆก็มีเพียงแค่ 2 เกมนั่นคือ "Uncharted: Golden Abyss" จาค่ายโซนี่เอง และ "Call of Duty: Black Ops Declassified" ของค่ายแอคติวิชัน ซึ่งถือเป็นสองเกมฟอร์มยักษ์บนเครื่องตัวนี้ แต่ทั้งคู่กลับมาช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องวีตาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเฉพาะเกม "Black Ops Declassified" ที่ดูเหมือนทางผู้พัฒนาจะไม่ตั้งใจทำ จึงส่งผลให้ตัวเกมออกมาน่าผิดหวังสำหรับคอเกมและสื่อวิจารณ์ โดยปัจจุบันเครื่องเพลย์สเตชันวีตามีตัวเลขยอดขายรวมอยู่ที่ 2.2 ล้านเครื่องทั่วโลก (ผลสำรวจเดือนมิถุนายนปี 2012) และล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอดขายเครื่องวีตาในญี่ปุ่นกลับถูกเครื่องรุ่นก่อน PSP แซงขึ้นนำเสียอีก
และในปี 2013 ที่กำลังจะมาถึงสถานการณ์ยิ่งดูเลวร้ายมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เมื่อดูเหมือนว่าทางบริษัทโซนี่เริ่มถอดใจยอมรับสภาพเครื่องพกพาตัวนี้ เนื่องจากในงานเกมระดับบิ๊กที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น E3, Gamescom หรือ Tokyo Game Show ทางโซนี่ได้มีการเปิดตัวเกมใหม่ฟอร์มยักษ์สำหรับเครื่องวีตาเพียงแค่เกมเดียวนั่นคือ "Tearaway" ของสตูดิโอ Media Molecule ผู้สร้างซีรีส์ลิตเติลบิ๊กแพลเน็ต ซึ่งทำให้หลายคนกังวลว่าปีหน้าจะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความเงียบเหงาของเครื่องวีตาหรือเปล่า และนี่ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกจากเหล่าคอเกมอย่างเดียว ทางฝั่งนักพัฒนาเกมแดนตะวันตกเองก็เริ่มหวั่นใจหลังได้เห็นยอดขายเกมคอลออฟดิวตี้บนวีตา ในขณะเดียวกันบรรดาค่ายเกมญี่ปุ่นที่ต่างเลือกหันกลับมาทำเกมลงเครื่อง PSP เหมือนเดิม