โซนี่เปิดเผยผลประกอบการในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา แผนกเกมมียอดขาดทุนกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากรายได้ที่ลดลง 18 เปอร์เซนต์ ด้านเครื่องเกมพกพาเพลย์สเตชัน วีตา มีทำยอดขายจนถึงปัจจุบันได้ 1.8 ล้านเครื่อง
ในงานประชุมผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดของโซนี่ นอกจากจะเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา(สิ้นสุด มีนาคม 2012) ทางโซนี่ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จของเครื่องเกมพกพา "เพลย์สเตชัน วีตา" ที่สามารถทำยอดขายตั้งแต่เปิดวางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ 1.8 ล้านเครื่อง และยังตั้งเป้าว่าในปีงบประมาณปัจจุบัน(สิ้นสุด มีนาคม 2013) จะมียอดขายเครื่องวีตา เพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านเครื่อง
คาซ ฮิราอิ ประธานโซนี่คนใหม่ ได้กล่าวถึงเครื่องเพลย์สเตชัน วีตา ระบุว่ายอดขายสามารถทำได้ดี "เมื่อปีที่แล้ว เครื่องเพลย์สเตชัน วีตา สามารถขายในอเมริกา ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรปรวมกันได้ถึง 1.8 ล้านเครื่อง ผมคิดว่ามันเป็นการออกสตาร์ทที่ดี"
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โซนี่เคยออกมาประกาศว่าเครื่องเพลย์สเตชัน วีตา ทำยอดขายทั่วโลกได้ 1.2 ล้านเครื่อง จากตัวเลขดังกล่าวบ่งบอกว่าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เครื่องเพลย์สเตชัน วีตา ทำยอดขายเพิ่มอีก 600,000 เครื่อง
คาซ ฮิราอิ พูดถึงเครื่องเพลย์สเตชัน วีตา ระบุว่าซอฟต์แวร์เกมเป็นสิ่งสำคัญที่จะสนับสนุนให้เครื่องเกมพกพาตัวนี้ประสบความสำเร็จ "สำหรับเครื่องเกมอย่างวีตา ซอฟต์แวร์เกมเป็นกุญแจสำคัญในการนำไปสู่ความสำเร็จ หากซอฟต์แวร์เกมทำออกมาได้ดีก็เป็นไปได้สูงที่เครื่องวีตาจะประสบความสำเร็จ เราได้พยายามปรับปรุงในส่วนของซอฟต์แวร์ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อปรับปรุงธุรกิจของเรา"
โซนี่ได้อัพเดตตัวเลขยอดขายเครื่องเกมในสังกัดอีกด้วย ในช่วงปีงบประมาณ 2011 เครื่องเพลย์สเตชัน 3 ทำยอดขายได้ 13.9 ล้านเครื่อง ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 14.3 ล้านเครื่อง ด้านเพลย์สเตชัน 2 ทำยอดขายได้ 4.1 ล้านเครื่องลดลงจาก 6.4 ล้านเครื่องเมื่อปีก่อน ส่วนเครื่องเกมพกพา PSP ทำยอดขายได้ 6.8 ล้านเครื่อง ลดลงจาก 8 ล้านเครื่องเมื่อปีก่อน
ด้านซอฟต์แวร์เกม บนเครื่องเพลย์สเตชัน 3 ทำยอดขายทั่วโลกได้ 156.6 ล้านชุด เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนที่มียอดขาย 147.9 ล้านชุด ซอฟต์แวร์เกมบนเครื่องเพลย์สเตชัน 2 ทำยอดขายได้ 7.9 ล้านชุดลดลงจาก 16.4 ล้านชุดเมื่อปีก่อน ส่วนซอฟต์แวร์เกมบนเครื่อง PSP ทำยอดขายได้ 32.2 ล้านชุดลดลงจาก 46.6 ล้านชุดเมื่อปีก่อน
สำหรับตัวเลขผลประกอบการในช่วงปีงบประมาณ 2011 ที่เพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2012 แผนก Consumer Products and Services division ของโซนี่ที่ดูแลธุรกิจด้านเกม มีรายได้ลดลง 18.5 เปอร์เซนต์อยู่ที่ 39,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดทุน 2,880 ล้านเหรียญสหรัฐ แตกต่างกับปีก่อนที่มีกำไร 135.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเลขขาดทุนมหาศาลนี้ ทางโซนี่ระบุว่าเกิดจากปัจจัยปัญหาหลักที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงภัยพิบัติแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นและเหตุการณ์น้ำท่วมในไทย
ด้านธุรกิจรวมของโซนี่ทั้งหมด มีรายได้ 81,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 9.6 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับปีก่อน และมียอดขาดทุนอยู่ที่ 844.5 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปในอนาคต โซนี่คาดว่าบริษัทจะกลับมาทำกำไรได้ในปีงบประมาณปัจจุบัน โดยคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซนต์อยู่ที่ 93,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไร 380 ล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com