ผู้ให้กำเนิดซีรีส์มาริโอ ออกมายอมรับถึงศักยภาพเครื่องเกมพกพาตัวใหม่ล่าสุดของโซนี่ เพียงแต่มันขาดซอฟต์แวร์เกมที่จะมาเติมเต็มทำให้มันลงเอยแบบเดียวกับตอนเปิดตัวเครื่อง 3DS แนะโซนี่ควรขนทัพเกมมารองรับให้มากกว่านี้
ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับทางนิตยสาร Edge "ชิเงรุ มิยาโมโตะ" ผู้สร้างเกมระดับตำนานของบริษัทนินเทนโด ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นเรื่องยอดขายที่ย่ำแย่สำหรับเครื่องเกมพกพาของบริษัทคู่แข่ง "เพลย์สเตชันวีตา" แนะทางโซนี่ไม่มีจำนวนซอฟต์แวร์เกมที่เพียงพอกับความสามารถของตัวเครื่อง
"เห็นได้ชัดว่าวีตามันเป็นเครื่องเกมที่มีสเปคสูงมากเลยทีเดียว และคุณสามารถทำอะไรได้ตั้งมากมายหลายอย่างกับมัน แต่ผมยังไม่เห็นการผสมผสานเข้ากันระหว่างซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์ที่จะทำให้มันกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้จริงๆ" มิยาโมโตะ กล่าว
อีกทั้งมิยาโมโตะ ยังได้ทำการเปรียบเทียบยอดขายเครื่องวีตาในปัจจุบันกับช่วงก่อนหน้านี้ที่เครื่อง 3DS ประสบปัญหาทุลักทุเลหลังวางจำหน่าย โดยเขาระบุว่า "เมื่อช่วงที่เราเปิดวางจำหน่ายเครื่อง 3DS ครั้งแรก ตอนนั้นเรายังไม่มีเกมแม่เหล็กดังๆอย่าง Super Mario 3D Land, Mario Kart 7 หรือ Kid Icarus: Uprising ถึงแม้ว่าเราพยายามอย่างหนักเพื่อดันให้เกมเหล่านี้ออกวางขายพร้อมกับตัวเครื่อง แต่ทว่าเรากลับไม่สามารถทำมันได้ทัน ดังนั้นเราจึงทำได้แต่หวังว่าอย่างน้อยผู้เล่นก็จะซื้อเครื่องไปเพียงแค่อยากสัมผัสลูกเล่นใหม่ๆบนตัวฮาร์ดแวร์ 3DS เท่านั้น ซึ่งพอเรามองย้อนกลับไปเราจึงได้ตระหนักว่าตัวซอฟต์แวร์ที่เป็นกุญแจสำคัญมันได้ขาดหายไปในช่วงที่เราเปิดวางจำหน่ายตัวเครื่อง"
ซึ่งจากการที่เครื่อง 3DS ขาดเกมแม่เหล็กดึงดูดนี้เอง ที่ทำให้ตัวเครื่องทำยอดขายตอนเปิดตัวออกมาได้ไม่ดีนัก จนกระทั่งนินเทนโดตัดสินใจประกาศหั่นราคาเครื่องลงหลังเปิดวางจำหน่ายไปได้เพียงแค่ไม่กี่เดือน จากนั้นทางบริษัทก็ทยอยส่งเกมซีรีส์ดังของตนออกมาในช่วงหยุดยาวปลายปี 2011 ทั้ง Mario Kart 7 และ Super Mario 3D Land อย่างไรก็ตามแม้ว่าการหั่นราคา 3DS จะทำให้นินเทนโดต้องยอมขาดทุนขายเครื่องในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการในปีงบประมาณก่อนของบริษัทออกมาขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี แต่ทางบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถกลับฟื้นคืนกำไรได้อีกครั้งในปีงบประมาณใหม่นี้
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
ign
joystiq
kotaku
gamasutra
gematsu