xs
xsm
sm
md
lg

Review : "FinalFantasy XIII-2" สงครามทะลุเวลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระบบ : PS3 , Xbox เรต: Cero B เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป

หลังจากสร้างชื่อ เสีย(ง) จากภาคหลัก FinalFantasy XIII ที่มีทั้งคนรัก(เช่นผู้เขียนเอง) หรือคนเกลียด ไม่ชอบ ในความตรงเป็นไม้บรรทัดของเนื้อเรื่อง แม้เกมจะมีระบบต่อสู้ที่รวดเร็วเร้าใจก็ไม่ช่วยให้เกมพ้นจากข้อครหา และเสียงบ่นจากคอเกมทั่วโลก มาวันนี้สแควร์เอนิกซ์ขอกลับมาแก้ตัวอีกครั้งกับภาค XIII-2 ซึ่งเป็นต่อจากภาคหลัก

สัมผัสแรกคอเกมอาจรู้สึกผิดหวัง เพราะกราฟิกในเกมดูจะดรอปลงมาจากภาคหลักพอสมควร เพราะนอกจากรายละเอียดจะแย่ลง ยังมีอาการ เฟรมเรตตก ภาพกระตุก เป็นระยะ ซึ่งเมื่อเทียบกับภาคหลักที่ผู้เขียนเล่นมา 2 เวอร์ชั่น ทั้งภาษาอังกฤษ และ ญี่ปุ่น บน PS3 ทำให้ความรู้สึกว่าภาค XIII-2 กราฟิกดูด้อยลง แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ส่วนเพลงประกอบที่ภาคที่แล้ว มีเพลงบรรเลง ยังเสริมเพลง Jazz มาภาคนี้ จัดหนักจัดเต็ม เพราะใส่มาทั้ง เพลง ป็อป แดนซ์ แนวเทคโน หรือมันสุดๆกับเพลง เฮฟวี่เมทัล ในเพลงบอสที่ต้องโยกหัวไปเล่นไป

การกลับมาของภาคต่อจากภาคหลักต่อท้ายด้วยเลข 2 ที่ข้อเสียในภาคหลักได้ถูกปรับปรุงตามเสียงติของแฟนเกมทั่วโลก โดยเฉพาะ เนื้อเรื่องที่จากเดิมแค่เล่นตามเกมกำหนดในฉากที่แทบจะเป็นเส้นตรงตลอดเกม เปลี่ยนมาเป็น การย้อนไปมาในช่วงเวลาตามยุคสมัย ผ่านประตูเวลา ทำให้เกมมีการดำเนินเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น เพราะนอกจากสถานที่จะหลากหลายแล้ว ยังมีความแตกต่างกันของช่วงเวลา ส่งผลให้เกมต่างกับต้นฉบับโดยสิ้นเชิง

เพราะเราต้องแก้ปริศนาในการเดินทางไปๆมาๆ ระหว่างยุคต่างๆ ตลอดเกม แถมดันเจี้ยน และฉากในเกมที่ทำได้ซับซ้อนมากขึ้น ผิดจากภาคหลักที่เดินตามเส้นทางที่เกมกำหนดให้อย่างเดียว ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนที่ชาญฉลาด เพราะไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนระบบหลัก แค่สร้างมิติเวลาที่หลากหลาย เกมก็สนุกขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และในภาคนี้ผู้เล่นต้องมีอาการเล่นผ่านเนื้อเรื่องไม่ได้จนต้องหาบทสรุปมาอ่านแน่ ไม่เหมือนภาคหลัก ที่เน้นการต่อสู้มากกว่า และนอกจากการเล่นที่หลากหลายขึ้นแล้ว เกมยังได้ใส่เควสย่อยอีกจำนวนมหาศาลให้เล่น และมีอิสระในการทำเนื้อเรื่อง รวมทั้งฉากจบที่มีหลายแบบ ทำให้การเล่นสดใหม่กว่าเดิมมาก ซึ่งเนื้อเรื่องของเกมจะเริ่มต่อจากภาคหลัก ที่เป็นการออกตามหาพี่สาว Lightning ของ น้องสาว Serah พร้อมๆกับ หนุ่มน้อย Noel

นอกจากธีมของเกมเป็นการเจาะเวลาหาอดีตแล้ว เกมยังแบ่งเป็นตอนๆ เหมือนดูซีรีย์ที่ฉายทางทีวี โดยการผ่านแต่ละตอนมีทางเลือกให้ผู้เล่นมีอิสระมากขึ้นว่าจะทำภารกิจไหนก่อน แต่ก็ไม่ได้อิสระชนิดไปไหนก็ได้ แบบเกม RPG จากตะวันตก ส่วนสิ่งที่เพิ่มเติมมาคือระบบ การเล่นแบบพัซเซิ่ล เพื่อเชื่อมต่อประตูเวลา อีกจุดที่เปลี่ยนไปคือการเจอศัตรูที่เปลี่ยนมาเป็นเจอแบบสุ่ม ที่มันจะโผล่ออกมาเมื่อผู้เล่นเข้าใกล้ ซึ่งเราเลือกได้ที่จะโจมตี หรือเดินหนี สุดท้ายที่เกมใส่การกดปุ่มเข้ากับจังหวะเหตุการณ์แบบ ควิกไทม์อีเว้น ในการต่อสู้ที่ดูธรรมดาไปหน่อย

เกมยังคงระบบการต่อสู้ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีที่สุดของภาคหลักเอาไว้ ซึ่งก็ยังคงเป็น ระบบParadigm Shift ที่มีความเร็วในการเล่นสูงมาก และไม่ต้องเลือกใส่คำสั่งมาก เพราะคำสั่งของสายต่างๆรวมกันอยู่ในคำสั่งเดียว ที่แบ่งออกเป็น Attacker ที่เน้นการโจมตี Jammerไว้ใช้เวทรบกวนศัตรู Enhancer เพิ่มค่าพลังเช่นเพิ่มพลังโจมตี Blaster เน้นการโจมตีด้วยเวท และ หรือสาย Defender เน้นการป้องกัน และ Healer ที่ใช้เวทเติมพลัง ที่แม้ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเท่าไรแต่ก็เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ เหมือนเดิม โดยเกมไม่มีระบบ เลเวล และใช้การอัพค่าพลังตามการเดินสาย ที่ปรับให้ง่ายกว่าเดิม เพราะมีแค่สายเดียว แต่แบ่งตาม Paradigm ทำให้เลือกง่ายกว่าเดิมเยอะ อีกทั้งระบบ Save ในเกมก็เปลี่ยนมาเป็น Save ได้แทบจะทุกที่ทุกเวลา แต่ร้านขายของภาคนี้จะแยก ไม่ได้อยู่ที่จุด Save

อีกหนึ่งระบบที่เพิ่มเข้ามา และสร้างสีสันให้ภาคนี้ คงหนีไม่พ้นระบบ เลี้ยงมอนสเตอร์ ที่เราจับได้ และมีสัตว์ให้จับมากมาย หลายประเภท อาจเป็นเพราะตัวละครหลักในภาคนี้มีน้อย ซึ่งการมาของระบบจับมอนสเตอร์ ทำให้เกมมีความหลากหลายมาก โดยแต่ละตัวก็ถูกกำหนดด้วยสายของ Paradigm เช่นกัน อีกทั้งเรายังสามารถ ผสมสกิลของมอนสเตอร์ มารวมกันได้ ส่วนการ อัพค่าพลัง ก็ใช้ไอเท็มที่เก็บหรือซื้อมา เพื่อเดินตามสายเหมือนการอัพเกรดตัวละครที่เป็นมนุษย์ เชื่อได้เลยว่าคอเกมต้องติดใจกับระบบการเลี้ยงมอนสเตอร์แน่

สรุปแล้ว การกลับมาของ Final Fantasy XIII-2 ที่มีชื่อเล่นๆว่า เกมตีเต่า ในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้ฉีกไปจากเดิม และเนื้อเรื่องในเกมอาจจะไม่ได้อลังการเท่าภาคหลัก กราฟิกก็ดูด้อยลง แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็มากมายเพียงพอที่จะลบข้อด้อยได้ อีกทั้งเกมมีอิสระในการทำเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนขึ้น มีระบบเลี้ยงมอนสเตอร์ที่ดี เมื่อทุกอย่างมารวมกันแล้วส่งผลให้เกมยังคงมีความสดใหม่น่าเล่น แม้จะเป็นเพียงภาคเสริมก็ตามที

Review : "Final Fantasy XIII" มหาสงครามสุดอัศจรรย์
เกมการเล่น9.5
กราฟิก8.5
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์9
ความคุ้มค่าภาคเสริมที่สนุก
ภาพรวม9


ข้อดี : ระบบการเล่นปรับให้ดีขึ้น, การดำเนินเนื้อเรื่องหลากหลาย
ข้อเสีย : กราฟิกดูด้อยกว่าต้นฉบับ
ข้อแนะนำ : ถ้าชอบความหลากหลาย แนะนำ

Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)
สนับสนุน บทความโดย ร้านเกม NADZPROJECT
















กำลังโหลดความคิดเห็น