ระบบ Wii (ต้องใช้ วี โมชั่นพลัส เล่น)
เรตเกม ESRB E10+ สำหรับผู้ที่อายุ 10 ปีขึ้นไป
ถ้าพูดถึงเกมที่ทำให้ผู้เล่นใช้ สมองคบคิด คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงเกม สำหรับการศึกษา หรือเกมฝึกสมองอย่าง Brain Age แต่ในความเป็นจริงเกมที่ทำให้ผู้เล่นใช้สมองมากที่สุดเท่าที่เคยเล่นมากลับเป็นเกม แอ็คชั่น RPG นาม The Legend of Zelda
ที่บอกว่าต้องใช้ความพลังสมองในการเล่นมากนั้นเป็นเพราะ เกมตระกูล เซลด้า นั้นมีการออกแบบฉากและดันเจี้ยน ที่ซับซ้อนขั้นเทพ แถมเต็มไปด้วยปริศนา และมีความยาวระดับมหากาพย์ จนมีคนให้นิยามว่า 1 ด่านของเซลด้า อาจเทียบเท่าเกมอื่นทั้งเกมได้เลย โดยความเทพของเกมซีรีย์นี้ ได้สืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกับ The Legend of Zelda: Skyward Sword เกม เซลด้า ภาคที่ 2 บนเครื่อง Wii ที่การมาครั้งนี้ไม่ธรรมดาเพราะเกมรองรับ วีโมชั่น พลัส ตัวช่วยจับการเคลื่อนไหวของ วี โมต และใช้พลังของเครื่อง Wii อย่างเต็มสูบไม่เหมือนภาค Twilight Princess ที่สร้างให้ Game cube ด้วย
สิ่งที่น่าจับตามองก็คือการควบคุมบังคับ ด้วยวีโมชั่น พลัส (ที่เกมบังคับให้ใช้)ว่าจะสมจริงแค่ไหน และแม้จะไม่ใช่เกมแรกที่ใช้การจำลองการฟันดาบ แต่ การบังคับเป็น Link ในภาคนี้มีความสมจริงสูงมาก เรียกว่าเราเคลื่อนไหวมือไปทิศทางไหน Link ก็ทำตามเราหมดทุกท่าโดยแทบจะไม่ดีเลย์ แม้แต่การแทงที่ทำได้เที่ยงตรง และรูปแบบการฟันดาบนั้นจำเป็นต่อการเล่นภาคนี้มาก เพราะนอกจากจะไว้ต่อกรกับเหล่าศัตรูในเกมที่ภาคนี้ดูจะเก่งขึ้น เพราะมีการป้องกันการโจมตีของเราได้แทบทุกทาง ดังนั้นผู้เล่นต้องฝึกฝนฝีมือไว้ให้ดีและโจมตีให้ถูกทิศทางโดยเฉพาะการดวลดาบกับบอสที่มันสะใจที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา นอกจากนี้ดาบยังใช้เพื่อการแก้ปริศนาทั้ง ควงดาบทำให้ประตูดวงตามึน และแทงที่รูประตูแล้วหมุนเพื่อเปิดทางไปต่อได้ ส่วนความเที่ยงตรงของ โมชั่นพลัส เราสามารถเลือกปรับได้ 3 ระดับตามใจผู้เล่น
โดยภาคนี้มีเนื้อเรื่องที่ออกจะแปลกกว่าซีรีย์เซลด้าทั่วไป เพราะเหมือนเรื่องราวจะย้อนไปสู่ต้นกำเนิด และในภาคนี้ เซลด้า ยังไม่ได้เป็นเจ้าหญิง Ganonไม่ได้เป็นหัวหน้าใหญ่ เรื่องก็ไม่ได้เกิดที่ Hyrule แต่เกิดบน อาณาจักรบนท้องฟ้า Sky loft ที่ทุกคนมียานพาหนะเป็นนก และในตอนแรกเกมยังไม่มี Triforce หรือ ดาบ มาสเตอร์ ผู้เล่นจะค่อยๆสร้างตำนานไประหว่างเล่นเกม โดยมีคู่หูเป็น Fi เทพประจำดาบ ที่จะคอยเป็นผู้ช่วยเราไปตลอดทั้งเกม แม้เนื้อเรื่องจะดูแปลกๆแต่ก็ถูกเขียนมาอย่างดี มีสิ่งให้ประหลาดใจ ซึ่งเมื่อเกมมีจุดเริ่มต้นที่เมืองลอยฟ้าแล้วบินร่อนลงไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้เหมือนเอา ภาค wind waker แต่เปลี่ยนจากเรือเป็นนก ที่ยอดมากคือการขี่นกทำได้ง่ายดายด้วยวีโมต และแม้จะมีที่ให้ไปบนท้องฟ้าเยอะ แต่การเดินทางก็ไม่อืดอาดเหมือนตอนล่องเรือ
รูปแบบของเกมยังคงเป็นแอ็คชั่น RPG ที่ต้องแก้ปริศนาในดันเจี้ยนขนาดมหึมา เหมือนเดิม ที่นอกจากจะมีจุดเด่นที่ความซับซ้อนขั้นเทพแล้ว ยังมีปริศนาแบบ พัซเซิล ที่เกมใส่เข้ามาเพื่อทดสอบพลังสมองกันตลอดเกม โดยเราต้องใช้ไอเท็มพิเศษที่ได้มาในการร่วมแก้ปริศนา อีกทั้งยังมีรูปแบบการเล่นที่ต้องค้นหาของหรือสถานที่ในเกมผ่านการใช้ดาบ หรือมีฉากที่ผู้เล่นต้องคอยหลบหลีกซ่อนเร้นไม่ให้ศัตรูเห็น บางด่านมีการแก้ปริศนาทั้งในอดีตและปัจจุบันไปพร้อมๆกัน ที่ทั้งซับซ้อนและต้องแข่งกับเวลา นอกจากนี้ด่านในน้ำที่ต้องมีทุกภาคยังปรับเปลี่ยนให้เล่นง่ายขึ้น โดยการว่ายน้ำใช้การควบคุมด้วยวีโมชั่นพลัส ที่ทำได้เที่ยงตรงแม่นยำ แถมยังมีท่าพุ่งตัวที่เหมือนโลมาอีก ทำให้การต่อสู้ใต้น้ำในภาคนี้สนุกลื่นไหลมาก
โดยในภาคนี้ตัวเอกอย่าง Link มีแอ็คชั่นมากกว่าทุกภาคที่ผ่านมา เพราะทั้ง วิ่งได้รวดเร็ว และ วิ่งไปบนที่สูงแบบไต่กำแพงได้(เล็กน้อย) อีกทั้งการปีนป่ายห้อยโหนไปที่ต่างๆดูจะรวดเร็วไปหมด แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยค่าพลังความอึดที่จะลดไปเรื่อยๆแต่จะฟื้นคืนได้เอง หรือได้กินผลไม้สีเขียว และในภาคนี้ยังมีระบบ อัพเกรดไอเท็ม ที่เป็นการเพิ่มความสามารถให้กับไอเท็ม รวมทั้ง โล่ ของ Link โดยของที่ใช้ผสมเพื่ออัพเกรดหาได้ทั่วไปในเกม ซึ่งแม้โดยรวมจะไม่มีอะไรแปลกกว่าเกมอื่น แต่ก็เพิ่มสีสันในการเล่น เซลด้าได้ดี ส่วนของที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ การเล่นดนตรี ที่ภาคนี้ Link จะมี ฮาร์ป(พิณ) ไว้เล่นตามเนื้อเรื่องและเพื่อค้นหาของที่ซ่อนอยู่ เพียงแต่รูปแบบการเล่นจะดูแปลกๆเพราะเหมือนกับเกม wii music ที่ผู้เล่นแค่ตวัดจอยวีโมตไปมา ให้ตรงกับจังหวะเพลงเท่านั้น แต่มันก็ทำให้เล่นได้ง่ายเช่นกัน
ในภาคนี้เกมมีจุดเซฟที่รูปปั้นนก ทำให้การเล่นง่ายขึ้น และเราสามารถขึ้นกลับไปบนฟ้าได้เกือบตลอดเวลา โดยระบบแผนที่มีการทำให้ดีขึ้นเพราะทั้งปรับมุมกล้องได้ และยังทำเครื่องหมาย ว่าจุดไหนน่าสนใจ ซึ่งจะปรากฏในเกมเป็นจุดแสงออกมาทำให้ดูง่าย แม้เกมจะมีการปรับเปลี่ยนให้ดูง่ายขึ้นบ้าง แต่ความซับซ้อนในการออกแบบด่านยังคงมีครบ แถมยังมีความยาวระดับเทพ ชนิดว่าบางด่านแก้ปริศนาแทบตาย ได้แค่เปิดทางเข้าดันเจี้ยนของจริงเท่านั้น โดยคุณอาจใช้เวลามากกว่า 35 ชั่วโมงเพื่อจบ นี่ยังไม่นับ เควสย่อยและการค้นหาไอเท็ม หรือหัวใจให้ครบ ซึ่งถ้าเอาครบๆคงใช้เวลามากกว่า 40-50 ชั่วโมง นับว่ายาวสะใจกันเลย แถมจบแล้วยังมี โหมดฮีโร่ ที่เพิ่มระดับความยากขึ้นมาให้เล่นอีกรอบด้วย
ส่วนกราฟิกในเกมแม้จะลงแค่เครื่อง Wii แต่การออกแบบทำได้สุดยอดเพราะเหมือนเกมถูกสร้างด้วยภาพสีน้ำ ที่งดงาม การออกแม้จะดูการ์ตูน แต่ก็ไม่ได้ดูเด็กๆ เหมือนเอา Twilight Princess มาผสมกับ wind waker แม้จะไม่ละเอียดแต่กราฟิกก็มีลูกเล่นที่หลากหลาย เพราะเมื่อเรามองไปที่ฉากไกลๆ จะเห็นว่ามันจะเบลอๆเหมือนภาพวาดสีน้ำมัน ที่ดูน่าตื่นตามาก และนับเป็นกราฟิกแบบ เซลเฉดที่สวยที่สุดเท่ามีมา ดนตรีประกอบในเกมที่ส่วนมากจะเป็นเพลงแต่งใหม่ที่ไพเราะติดหู ส่วนเพลงธีมเดิมๆก็ยังคงอยู่และให้ผู้เล่นร่วมค้นหาเพลงไปด้วยกัน ด้านเสียงพากย์ที่ยังคงไม่มี มีเพียงแค่เสียงของตัวละคร เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมเซลด้าทุกภาคอยู่แล้ว
สรุปแล้ว Zelda: Skyward Sword ยังคงเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ระดับตำนานเช่นเดิม เพราะเกมมีทั้ง การออกฉากแบบระดับเทพ ที่คุณต้องใช่เซลสมองระดับเตรียมสอบ มีเนื้อเรื่องโดนๆ มีแอ็คชั่นสุดเร้าใจกับวีโมชั่นพลัส ที่ทั้งเที่ยงตรงสมจริง ถ้าคุณเป็นแฟน เซลด้า มายาวนานเชื่อได้เลยว่าต้องสุขสมหวังกับการรอคอย ส่วนคอเกมที่ไม่เคยเล่นก็อยากให้ลองสักครั้ง เพราะถ้าคุณได้สัมผัสแล้วพบว่า เซลด้านั้นไปเป็นต้นแบบของเกมแอ็คชั่นรุ่นใหม่หลายต่อหลายเกม และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เกมเซลด้า ก็ยังคงยืนหยัดเป็นแถวหน้าของวงการเกมได้ตลอด
| เกมการเล่น | 10 |
| กราฟิก | 10 |
| เสียง | 10 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
| ความคุ้มค่า | ระดับตำนาน |
| ภาพรวม | 10 |
ข้อดี : กราฟิกสวยแปลกตา, เกมเพลย์สนุกซับซ้อน, การจับการเคลื่อนไหวที่เที่ยงตรง
ข้อเสีย : ยังหาไม่เจอ
ข้อแนะนำ : แฟนเซลด้าห้ามพลาด
Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)
สนับสนุน บทความโดย ร้านเกม NADZPROJECT
