"อามีร์ เมอร์ไซ เฮกมาติ" ชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่านผู้กำลังเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกในขณะนี้หลังถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาสายลับ เปิดเผยผ่านคำสารภาพที่ตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์ Tehran Times ว่าเขาเคยเป็นผู้ผลิตวีดีโอเกมมาก่อน
ส่วนหนึ่งของคำสารภาพจากเฮกมาติระบุว่า "หลังทำงานให้กับ DARPA ผมก็ไปเข้าบริษัทเกม Kuma ซึ่งบริษัทนี้รับเงินจากซีไอเอไปใช้ผลิตภาพยนตร์พิเศษและเกมสำหรับแจกจ่ายแบบฟรีๆเพื่อใช้ในการควบคุมทัศนคติของผู้คนในตะวันออกกลาง เป้าหมายของบริษัทดังกล่าวคือการชักจูงชาวอิหร่านและผู้คนบนโลกว่าสิ่งที่สหรัฐทำในประเทศอื่นเป็นมาตรการที่ดี"
สำหรับผลงานเกมของบริษัท Kuma ที่เคยผลิตออกมาก็มีหลากหลายแนวทั้งไดโนเสาร์ อาชญากรรม สงครามโลกครั้งที่สอง แต่ส่วนสำคัญคือซีรีย์ Kuma/War ที่เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แบ่งออกเป็นตอนย่อยๆอิงจากเหตุการณ์ในโลกจริงอย่างการสังหารอุซามะฮ์ บิน ลาดิน กัดดาฟี หรือแม้กระทั่งการบุกโจมตีอิหร่านซึ่งมีเนื้อหาให้ผู้เล่นแทรกซึมเข้าไปในฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์เพื่อหาหลักฐานและช่วยเหลือคนที่เป็นสายอยู่ภายใน
แม้ทางบริษัทจะปฏิเสธการให้ความเห็นเรื่องเฮกมาติและความเกี่ยวข้องกับซีไอเอ แต่ก็มีเอกสารยืนยันจากเว็บไซต์ของรัฐบาลสหรัฐเองว่ากระทรวงกลาโหมเคยว่าจ้างบริษัทนี้เป็นเงิน 95,920 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3 ล้านบาท) เพื่อให้พัฒนาโปรแกรมสอนภาษาสำหรับทหารและก็มีชื่อของเฮกมาติติดอยู่ในโครงการด้วย ส่วนบรรดาเกมยิงแนวต่อต้านอิสลามนั้นยังไม่มีหลักฐานว่าทางการสหรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
เฮกมาติผู้เคยเป็นนาวิกโยธินมาก่อนโดนคุมตัวระหว่างการเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวในอิหร่านเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเขาถูกกล่าวหาว่ารับคำสั่งจากซีไอเอมาแสร้งทำเป็นแปรพักตร์เปิดเผยข้อมูลลับ แต่ก็โดนจับได้เพราะไปปรากฏตัวที่ฐานทัพอากาศอเมริกันในเมืองบากรัม อัฟกานิสถาน
ทางการสหรัฐและครอบครัวของเฮกมาติยังไม่ยืนยันว่าคำให้การของเขาที่ถูกเผยแพร่ออกมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมด พร้อมโต้กลับไปว่าทางการอิหร่านมีประวัติการกล่าวหาผู้คนเป็นสายลับอย่างผิดๆ บังคับให้รับสารภาพ และจับตัวชาวอเมริกันผู้บริสุทธิ์เพื่อหวังผลทางการเมือง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
Kotaku
Gamasutra