ผู้สร้างซีรีย์เมทัลเกียร์ออกมาเปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ระบุว่าโปรเจกต์เกมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Fox Engine โค้ดเนม "Project Ogre" นั้นจะเปลี่ยนแนวฉีกกฏดั้งเดิมของภาคก่อนๆ หันมาเน้นแนวโลกอิสระให้เล่นได้นานนับร้อยชั่วโมง
หลังจากที่เมื่อสามวันก่อน "ฮิเดโอะ โคจิมะ" (Hideo Kojima) ผู้บุกเบิกซีรีย์เกมจารชนลอบเร้นอันโด่งดังเมทัลเกียร์ ได้ออกมาเปิดเผยภาพสกรีนช็อตแรกผ่านทวิตเตอร์สำหรับโปรเจกต์เกมใหม่ที่ใช้ Fox Engine ในการพัฒนา พร้อมโชว์ฟีเจอร์เทคโนโลยีโปร่งแสงที่เป็นกุญแจสำคัญในเกม ทำให้สามารถมองเห็นทะลุเสื้อผ้าบางๆได้
ล่าสุดในบทสัมภาษณ์กับทาง CNN โคจิมะก็ได้ออกมายืนยันว่าโปรเจกต์เกมใหม่ดังกล่าวที่รู้จักในนาม "Project Ogre" นี้ จะทิ้งรูปแบบการเล่นในพื้นที่จำกัดแบบดั้งเดิมประจำซีรีย์เมทัลเกียร์ แล้วเปลี่ยนมาใช้โครงสร้างแนวเกมโลกอิสระแทน "รูปแบบเกมที่ผมกำลังสร้างขึ้นมานี้ มันจะเป็นเกมที่มีขอบเขตอันกว้างใหญ่มากๆ แทนที่จะทำสิ่งที่มีลักษณะเหมือนกับภาพยนตร์ แต่ผมวางแผนที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่มีความอิสระเอามากๆ แนวโลกเปิดนี้จะเป็นที่ซึ่งผู้เล่นสามารถท่องไปรอบๆและสำรวจสิ่งต่างๆได้อย่างอิสระ ขณะเดียวกันผู้เล่นยังจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ใหม่ๆที่คุ้มค่าสำหรับเวลาที่เสียไปในการเล่นเกมมากถึง 100 ชั่วโมง" โคจิมะกล่าว
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเกมภาคก่อนๆในซีรีย์เมทัลเกียร์ ที่ยังคงยึดรูปแบบการดำเนินเกมที่เป็นเส้นตรงมาตั้งแต่ภาคแรกต้นฉบับสมัยเครื่อง NES ในปี 1987 จนมาถึงภาค Metal Gear Solid 4 บนเครื่องเพลย์สเตชัน 3 ที่บอกเล่าเรื่องราวแอ็คชั่นแสนเข้มข้นแบบเป็นเส้นตรง และมีช่องว่างสำหรับการนอกเรื่องแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้เกมที่จะออกมาในปีหน้าอย่าง Metal Gear Rising: Revengeance ที่พัฒนาโดยสตูดิโอแพลททินัมเกมส์นอกเหนือการกำกับของโคจิมะยังคงไม่แน่ชัดว่าจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม
นอกจากนี้บนทวิตเตอร์ของโคจิมะล่าสุด ยังได้มีการโพสต์รูปภาพอัพเดทใหม่จาก Fox Engine ที่เป็นรูปเกี่ยวกับระบบปรับแต่งอวตาร์ที่ทางสตูดิโอ Kojima Productions กำลังทดลองกันอยู่ ณ ตอนนี้ โดยระบบอวตาร์นี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้างตัวละครอวตาร์ของตัวเองที่เสมือนจริงได้ ด้วยวิธีง่ายๆเพียงแค่การเลือกชิ้นส่วน ซึ่งทาง "ไลโอเนล" (Lionel) หนึ่งในทีมงาน Kojima Productions ก็ได้สาธิตการทำงานของระบบ ผลที่ได้ออกมาเป็นตัวละครอวตาร์ที่สมจริงด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
joystiq
kotaku
andriasang