xs
xsm
sm
md
lg

สถานการณ์ข่าว

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่การโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการย้ายแบบล้างบาง และเรื่องต่อเนื่องกรณีอภัยโทษที่ฝ่ายค้านมองว่า รัฐบาลควรแก้ปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ มากกว่า เช่น ปัญหาน้ำท่วมหรือปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องดูแลแทนที่จะมาสนใจกรณีอภัยโทษษให้กับคนคนเดียว เพราะในภาพรวมรัฐบาลต้องทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศ

อีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นสถานการณ์ข่าวที่คนติดตามคือ กรณีนายกรัฐมนตรีไปเยือนกัมพูชาโดยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลเตรียมปล่อยตัวนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ซึ่งถูกจับในกัมพูชาด้วยข้อหาเป็นจารชน และว่าคนทั้งสองจะเดินทางกลับพร้อมกับคณะนายกรัฐมนตรีหลังเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนกัมพูชาด้วย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของอำนาจรัฐบาลกัมพูชา และนายกรัฐมนตรีก็กล่าวว่าในฐานะคนไทยก็ห่วงใยคนไทยทุกคน และจะไปหารือว่าจะไปช่วยบุคคลทั้งสองได้อย่างไรเมื่อพบกับสมเด็จฮุนเซน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประสานงานกัน

ส่วนเรื่องที่ว่าตนเดินทางไปจะเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าตนเดินทางไปในฐานะตัวแทนประเทศไทยไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณที่จะเดินทางไปในจังหวะเดียวกัน ตนไปทำหน้าที่ให้กับประเทศไทย ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณไปไหนเป็นเรื่องส่วนตัวและไปหลายประเทศ ตนเองไม่ทราบและไม่รู้ว่าเดินทางมากัมพูชาเพื่อมาทำอะไรด้วย

นอกจากคณะนายกรัฐมนตรีจะมาเยือนกัมพูชาแล้ว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำนปช.ก็จะเดินทางพร้อมกลุ่มเสื้อแดงไปเล่นฟุตบอลกระชับมิตรกับกัมพูชาในจังหวะเดียวกันด้วย โดยเป็นเรื่องระหว่างเอกชนต่อเอกชนซึ่ง รมว.มหาดไทยกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศโดยใช้กีฬาเป็นสื่อและการเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ของแกนนำนปช.ทางศาลอนุญาตให้เดินทางออกได้ชั่วคราว ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณจะร่วมเล่นฟุตบอลหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของเอกชนเช่นกัน

เรื่องอื้อฉาวอีกเรื่องหนึ่งคือ กรณีสมเด็จฮุนเซนออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เคยมีการเจรจาแบบลับในเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลกับเรื่องน้ำมัน โดยมีการเจรจากัน ๓ ครั้ง ทำให้นายสุเทพฯ ออกมาตอบโต้ว่าน่าเสียดายที่เรื่องนี้เกิดขึ้นทั้งที่ตนพยายามที่จะแสดงความเป็นมิตรกับสมเด็จฮุนเซนตลอดมา ตนเคยไปพบท่านที่บ้านจริงและได้คุยกันในหลายๆ เรื่องเป็นเรื่องทั่วๆ ไปส่วนการเจรจาเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ในทะเลนั้นสมเด็จฮุนเซนบอกกับตนว่าให้ไปคุยกับนายซก อานรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกัมพูชาส่วนตนก็เจรจาในฐานะตัวแทนฝ่ายไทย ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการหารือที่บ้านสมเด็จฮุนเซนไม่ได้หอบเอกสารอะไรไปเป็นพิเศษ เอกสารก็เป็นที่รู้กันว่าอยู่ในคณะกรรมการของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องลับ “ท่านฮุนเซ็นไม่ควรมาโจมตีผม เพราะจะกลายเป็นท่านเข้ามายุ่งเรื่องการเมืองในประเทศไทยมากเกินไป” นายสุเทพให้ความเห็นตอบโต้สมเด็จฮุนเซนในตอนท้ายและยังกล่าวด้วยว่าสมเด็จฮุนเซนเลือกข้างแล้วชัดเจน โดยเลือกข้างพ.ต.ท.ทักษิณและสมเด็จฮุนเซนไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชาแต่ปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ

กล่าวได้ว่าการโต้ตอบของนายสุเทพครั้งนี้ยังไม่สามารถเคลียร์เรื่องทั้งหมดได้ และเรายังไม่สามารถรู้ได้ว่าเรื่องการเจรจาแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะตัวบุคคลนั้นมีจริงหรือไม่

กลับมาถึงเรื่องการไปเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เมื่อเดินทางไปถึงก็มีข่าวออกโดยสำนักข่าวเอเอฟพีออกมาว่าการเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีจากประเทศไทยครั้งนี้จะมีการพบปะกับสมเด็จฮุนเซนโดยคาดว่าจะมีการประกาศถึงการหวนคืนสู่ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างสองประเทศ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเผยว่า จะมีความร่วมมือกันทุกด้านและความสัมพันธ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว

ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ปฏิเสธรายงานข่าวที่ปรากฏในสื่อบางฉบับว่า รัฐบาลกัมพูชากำลังดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ๒ คนไทยที่ถูกจับในข้อหาสายลับ โดยกระทรวงต่างประเทศขอยืนยันอีกครั้งว่า คดีของทั้ง๒ คนไทยต้องเป็นไปตามกฎหมายกัมพูชา ซึ่งต้องรับโทษจำคุก ๒ ใน ๓ ของบทลงโทษก่อน จึงจะได้รับพิจารณาพระราชทานอภัยโทษ

ในการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุนเซนนั้น สมเด็จฮุนเซนยืนยันว่าคำตัดสินของศาลไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่ด้วยเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาในรัฐบาลนี้ที่ดีขึ้นมาก สมเด็จฮุนเซนรับปากจะหาช่องทางที่จะลดโทษให้บุคคลทั้งสอง จนถึงจุดที่สามารถขอพระราชทางอภัยโทษได้

ครับ สถานการณ์ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีอยู่แค่นี้ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น