xs
xsm
sm
md
lg

Review: White Knight Chronicles 2 (PS3) สงครามอัศวินกายสิทธิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรต ESRB T เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 13 ปีขึ้นไป

เมื่อพูดถึงเกม RPG จากญี่ปุ่นในยุค HD ที่อาจจะดูเงียบๆไป เพราะด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่ได้แปลกใหม่ เนื้อเรื่องที่แม้จะมีการปรับเปลี่ยน แต่ก็ยังคงหนีไม่พ้นกลุ่มวัยรุ่นหน้าใสออกกอบกู้โลก ทำให้หลังๆเกม RPG จากตะวันตกโดดเด่นเหนือกว่า เพราะด้วยรูปแบบที่หลากหลาย กราฟิกโดดเด่นกว่า

แต่ความจริงเกม RPG จากแดนปลาดิบก็พยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สดใหม่ตลอด และหนึ่งในนั้นคือเกม White Knight Chronicles ที่เกมได้ปรับเปลี่ยนโดยผสมผสานรูปแบบของเกมออนไลน์แบบ MMORPG เข้ามาได้อย่างลงตัว บวกกับกราฟิกงามๆจากพลังของเครื่อง PS3 และ มีอัศวิน ร่างยักษ์เท่ๆให้แปลงร่างใช้ แม้เกมจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ก็มีความสดใหม่ เล่นออนไลน์ได้สนุกเกินคาด และการมาของภาค 2 คราวนี้ไม่ธรรมดาเพราะในแผ่น blu-ray ความจุมหาศาลพอที่จะใส่ ภาค 1 ฉบับที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นเข้ามาไว้ด้วยกัน โดยผู้เล่นสามารถเลือกเล่นภาคไหนก่อนก็ได้ และถ้าคุณมี Save ภาค 1 แล้วเอามาเล่นต่อได้เลยทำให้เกมนี้คุ้มค่าสุดๆ (แต่ถ้ายังไม่เคยเล่นแนะนำให้เล่นภาคแรกก่อน)

โดยการกลับมาครั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นห่างจากภาคแรก 1 ปี เรายังคงได้รับบทเป็น Leonard หนุ่มน้อยที่ตอนนี้กลายเป็น อัศวิน เต็มตัวแล้ว และยังคงต่อสู้กับพวก Magiโดยมีการย้อนเวลาไปในอดีตเพื่อทำเนื้อเรื่อง ทำให้เกมดูหลากหลายขึ้น ตัวเอกของเรายังคงแปลงร่างเป็น อัศวินขาว ร่างยักษ์ได้เหมือนภาคแรก เสียดายที่กราฟิกแม้จะดูดีแต่ก็ไม่ได้อัพเกรดจากภาคแรกไปมากนัก หลายส่วนยังดูหยาบเกินไปนิด และการเคลื่อนไหวของตัวละครที่แข็งไปหน่อย ส่วนดนตรีประกอบก็ยังได้มาตรฐาน และมีการลงทุนแต่งเพลงใหม่เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ดูเป็นสากลมากขึ้น

ส่วนของระบบการเล่น ทางค่าย Level 5 ก็ได้ปรับปรุงใหม่ แม้รูปแบบการเล่นหลักๆจะแทบเหมือนเดิมโดยเป็นเกม RPG ที่มีรูปแบบคล้ายกับเกมออนไลน์แบบ MMORPG เดินต่อสู้ในฉากกว้างๆ ดันเจี้ยนยาวๆ แต่ไม่มีฉากบนแผนที่ใช้เลือกสถานที่ไปเอา และมีการเลือกคำสั่งเป็นช่องๆ และยังคงบังคับตัวละครได้แค่ตัวเดียว จาก Party ทั้งหมด 3 คน ในการต่อสู้แบบเวลาจริง โดยภาคนี้ได้ปรับปรุงเรื่องความลื่นไหลของการเล่นให้ดีขึ้น มีความรวดเร็วในการต่อสู้ A.I. ก็ดูฉลาดขึ้นบ้าง เสียดายที่มุมกล้องแย่ๆของภาคแรกยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมทั้งการใช้ปุ่มกดก็ยังซ้ำซ้อนกัน ทำให้กดผิดกดถูก โดยเฉพาะกดเพื่อแปลงร่างเป็น อัศวิน หรือกดเพื่อเรียกหน้าต่างเพื่อเขียนคำพูด ซึ่งการกดผิดบางครั้งมีผลถึงตายได้เลย ซึ่งผู้เล่นต้องทำความเข้าใจกับปุ่มสักนิดก่อนจะเล่น

ส่วนการต่อสู้ที่ยังคงเอา วงแหวนเวลาที่กำหนดการโจมตีมาใช้ โดยเราสามารถเลือกกำหนดท่าไม้ตายได้อย่างอิสระเหมือนเดิม โดยแบ่งท่าฟันแทง ท่าไม้ตาย เวทมนต์ และอีกมาก ที่มีทั้งเสียค่า MP และท่าคอมโบที่เสีย AC รวมทั้งการแปลงร่างเป็น อัศวิน ร่างต่างๆที่ต้องใช้ค่า AC ที่ได้มาจากการต่อสู้และใช้ยาเติม แต่การเป็น Knight ก็ยังคงจำกัด ใช้ฟุ่มเฟือยไม่ได้ เพราะในแต่ละดันเจี้ยนมีศัตรูโหดๆรออยู่จำนวนมากแถมเกิดใหม่ได้เรื่อยๆเสน่ห์ของเกมจึงอยู่ที่การคิดวางแผนการต่อสู้และเก็บพลัง AC เพื่อแปลงร่างไว้ใช้ในจังหวะที่ถูกที่ควรเหมือนเดิม และในการต่อสู้ยังสามารถโจมตีตามส่วนต่างๆของร่างกายให้เกิดผลกระทบได้เช่นการฟันขาให้ศัตรูล้มแล้วอัดซ้ำ

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ดันเจี้ยนในภาคนี้ กลับมีการใส่ฉากจากภาคแรกมาหลายด่าน จึงดูเหมือนไม่ค่อยลงทุนนัก และปริศนาในด่านที่ดูอ่อนด้อย หรือการออกแบบฉากที่เมื่อไปผิดทางจะต้องเริ่มใหม่ทำให้น่าหงุดหงิดก็ยังปรากฏให้เห็น ยังดีที่มีจุดบอกว่าต้องไปไหนตลอดเกมทำให้ไม่ต้องเดินหา แต่ความจริงไหนๆก็จะรื้อทำใหม่น่าจะยกเครื่องฉากมากกว่านี้ ทำให้การเล่นเกมถูกจำกัดอยู่ในฉากที่เส้นทางที่เหมือนจะดูกว้างแต่จำกัดทิศทางในการเดินเป็นไปหน่อย ยิ่งเมื่อเทียบกับเกม RPG เทพๆ (แต่ภาพไม่สวย) อย่าง Xenoblade Chronicles โลกของ White Knight Chronicles ดูจะเล็กไปเลย แถมยังโหลดนานไปเล็กน้อย

แต่แม้การเล่นจะมีข้อเสียบ้าง แต่เมื่อออนไลน์ เพื่อเล่นทำเควสกับเพื่อนแล้วความสนุกจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ด้วยการสร้าง AVATAR ที่เล่นแบบออฟไลน์มาออนไลน์ และการสร้างเมืองที่ภาคนี้ได้ขยายให้สร้างได้ ใหญ่ และมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งการเล่นกับเพื่อนที่ร่วมกันทำเควสได้ 6 คน ที่ยอดมากคือภาคนี้เราสามารถสร้าง อัศวินร่างยักษ์ได้ รวมทั้งยังปรับแต่งได้เองเพื่อมาเล่นในโหมดนี้ อีกทั้งเควสก็หลากหลาย แถมยังมีการอัพเดทเควสใหม่ๆตลอดอีก เรียกได้ว่าคุณอาจจะนั่งเล่นโหมดออนไลน์ได้นับร้อยๆชั่วโมงโดยไม่เบื่อเลย

สรุปโดยรวมแม้เกมจะไม่ได้อัพเกรดจากภาคก่อนไปเท่าไร ข้อเสียเดิมๆจากภาคแรกก็ยังมีให้เห็น แต่ถ้าคิดว่าซื้อ 1 แผ่นได้เกมถึง 2 เกม ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะเนื้อเรื่องหลักของทั้ง 2 ภาคก็ร่วม 40 กว่าชั่วโมงแล้ว ไหนจะโหมดออนไลน์ที่เล่นได้นาน ทำให้การมาครั้งนี้ของเหล่าอัศวินเกราะกายสิทธิ์ แม้จะไม่สดใหม่ แต่ก็คุ้มค่าน่าเล่น และเป็นหนึ่งในเกม RPG จากญี่ปุ่นที่ยังยืนหยัดสู้กับเกมฝั่งตะวันตกได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ใครมี PS3 ไม่ควรพลาด

Review: White Knight Chronicles(PS3) อัศวินเกราะกายสิทธิ์
Review : "Xenoblade"

เกมการเล่น8.5
กราฟิก8
เสียง8
ความคิดสร้างสรรค์8
ความคุ้มค่าซื้อ 1 ได้ถึง 2
ภาพรวม8.5


ข้อดี : เกมเพลย์ลื่นไหลขึ้น , แถมภาค 1 มาด้วย , โหมดออนไลน์ที่สนุก
ข้อเสีย : ระบบยังไม่ได้พัฒนามากนัก , มุมกล้องยังไม่ดี
ข้อแนะนำ : ออนไลน์หาเพื่อนมาร่วมเล่นซะ

Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)
สนับสนุน บทความโดย ร้านเกม NADZ PROJECT













กำลังโหลดความคิดเห็น