xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนอดีตหนังสือเจาะการทำเกม"ดราก้อน เควสต์6"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลับมาอีกครั้งสำหรับการหวนกลับไปอ่านหนังสือรำลึกเกมในอดีตที่เป็นตัวช่วยบันทึกความทรงจำให้คนรุ่นเก่าและปูรากฐานความรู้ให้กับเด็กรุ่นหลังกับหนังสือ “การทำดราก้อน เควสต์6”(The Making Of Dragon Quest VI)ที่ถูกตีพิมพ์ในเดือนเม.ย.ปี 1995 หลังจาก“ฮิโรชิ อิจิมะ”ได้ไปเจาะลึกทำเป็นสกู๊ปพิเศษที่บริษัทเอนิกซ์ (สมัยที่ยังไม่ได้รวมร่างกับสแควร์)ในเดือน ก.พ.ปี 1995

หนังสือเล่มดังกล่าวได้ว่าด้วยเรื่องการพัฒนาเกมดราก้อน เควสต์6บนเครื่องซูเปอร์ แฟมิคอม พร้อมเรื่องราวของทีมงานฝ่ายศิลป์,ผู้ทำเพลงประกอบ,โปรแกรมเมอร์ และอื่นๆ ภาพที่เราเห็นในช่วงต้นของหนังสือได้เปิดเผยให้เห็นถึงแบบร่างบนกระดาษทั้งแผนที่และบทสนทนาในเกม เพื่อให้คนเขียนบทและโปรแกรมเมอร์ทำงานได้ง่ายขึ้น สำหรับบทสนทนาที่ปรากฏบนจอได้พอดิบพอดีนั้นจะต้องมี 17 ตัวอักษรใน 1 บรรทัด จำกัดให้มีสูงสุดได้แค่ 3 บรรทัด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัวให้นักเขียนบทในสมัยก่อนที่จะต้องเลือกคำมาให้เหมาะสมและเข้าใจได้ชัดเจน

“ยูจิ โฮริอิ”เป็นผู้คิดที่สร้างเกมดราก้อน เควสต์ออกมาให้เราได้เล่นกัน ถือเป็นเกม RPG เกมแรกของญี่ปุ่น ภาพที่เห็นกันในหนังสือนั้นเขามีอายุ 40 ปีแล้ว (ปัจจุบันอายุ 57 ปี) การทำเกมใดขึ้นมาจำเป็นจะต้องมีบทสรุปเนื้อหาเกมขึ้นมาก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าจะต้องดำเนินเรื่องไปในทิศทางใดหรือมีตัวละครใดปรากฏมาให้เห็นบ้าง โฮริอิเกิดขึ้นบนเกาะอาวาจิที่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิน(ปีพ.ศ. 2538) หรือแผ่นดินไหวที่โกเบ เขาเล่าว่า ตอนที่ยังเด็กเขาเคยพบศาลเจ้าแห่งหนึ่งขณะที่หาทางออกจากป่า และก็ได้วิ่งเล่นใกล้ๆกับซากปรักหักพังของปราสาทแห่งหนึ่งด้วย ดังนั้น เรื่องราวของดราก้อน เควสต์6จึงเกิดขึ้นบนเกาะที่มีทั้งเมือง หมู่บ้าน ปราสาท ถ้ำ และท้องทะเลให้เห็น สะท้อนถึงช่วงชีวิตในวัยเด็กของเขา แฟ้มหนาๆที่เห็นบนโต๊ะก็คือบทเกมที่เขียนขึ้น

ตามปกติโฮริอิจะตื่นตอน 8 โมงเช้าเพื่อเดินทางไปทำงาน เขาเขียนบทด้วยลายมือมากกว่าการพิมพ์ด้วยเครื่องมือใดๆ เนื่องจากง่ายต่อการกางหน้ากระดาษหลายๆหน้าบนโต๊ะของเขาเพื่อดูภาพรวมทั้งหมดในคราวเดียวกัน ตอนนั่งเขียนก็จะจินตนาการถึงภาพเกมที่จะไปปรากฏบนหน้าจอเสมอ เมื่อใดที่คิดไม่ออกก็จะวางมือ แล้วหันไปเล่นเกมจนกว่าอารมณ์จะดีขึ้น บทเกมดราก้อน เควสต์ 6 ถูกบรรจุอยู่แฟ้ม 13 เล่ม ราวๆ 4,500 หน้ากระดาษ A4

โฮริอิมีลูก 2คน คือ มารินะและนันเป เขาชอบสะสมกล้อง ต่อโมเดลรถไฟและโมเดลเรือ ตอนเด็กๆเคยมีฝันว่าอยากจะเขียนหนังสือการ์ตูนสักเล่มที่สร้างความบันเทิงให้ผู้อ่านได้ก็เลยนำแนวความคิดนั้นถ่ายทอดออกมาเป็นวิดีโอเกมที่สามารถสร้างความสนุกได้อย่างแท้จริง

หนึ่งในบุคลากรที่ทำให้เกมดราก้อน เควสตเป็นที่น่าจดจำก็คงมีชื่อของ “อากิระ โทริยามา” (ตอนนั้นอายุ 39 ปี)ผู้สร้างดราก้อนบอลมาร่วมงานด้วย การที่จะนำแต่ละตัวละครออกมาให้มีชีวิตจริงบนหน้าจอได้ โฮริอิต้องเขียนบรรยายให้ชัดเจนทั้งรูปร่างหน้าตา,เสื้อผ้า,ความสูง และอายุกำกับมาด้วย โดยอาจจะร่างแบบคร่าวๆแนบไปให้โทริยามาดู ทุกๆวันโทริยามาใช้เวลาทำงานตอนบ่ายโมงถึงสามทุ่ม นานๆครั้งก็จะเล่นเกม "Donkey Kong Country" กับเด็กๆ แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นประจำก็คือการฟังเพลงและฟังวิทยุ ด้านผู้ที่แต่งเพลงประกอบเกมดราก้อน เควสต์ก็คือ “โคอิจิ ซุกิยามะ” ส่วน “ชินทาโร มาจิมะ”ทำเป็นดูแลทางด้านคอมพิวเตอร์ กราฟิก และมี “มานาบุ ยามานะ” ทำหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์เขียนเกมขึ้นมา

"มาจิมะ" เป็นคนที่แปลงภาพวาดในกระดาษของโทริยามาไปสู่ภาพบนจอทีวี ไปจนถึงการนำภาพต่างๆไปประกอบกันในแผนที่และฉากของเกมในคอมพิวเตอร์ด้วยเมาส์ หากจะใส่ฉากผนังในเกมก็ต้องตัดสินใจว่าเป็นผนังรูปแบบไหนหรือสีอะไร กรณีเป็นต้นไม้ก็ต้องระบุถึงรูปทรงและสีสัน บนหนึ่งหน้าจอจะมีองค์ประกอบภาพประมาณ 700 ชิ้น ทั้งนี้ มาจิมะได้รับคำเชิญให้ไปร่วมทำเกมหนึ่งเมื่อตอนอายุ 20 ปี พ่อของเขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของการทำแอนิเมชันการ์ตูนเรื่อง “แอสโตร บอย” เขาจึงซึบซับและเรียนรู้ทักษะการแปลงภาพไปเป็นแอนิเมชันมาตั้งแต่เด็ก

ขณะที่งานของ “ยามานะ” โปรแกรมเมอร์คนสำคัญของเกมนั้นก็เปรียบเสมือนคอนดัคเตอร์วงออร์เคสตร้าที่ต้องนำเอางานจากหลายๆคนข้างต้นมาผนวกรวมเข้าด้วยกัน ในสมัยก่อนวิดีโอเกมถูกบรรจุอยู่ในตลับที่มีสิ่งที่เรียกว่า “ROM”ภายใน อย่างหน้านิตยสาร 1 หน้ามันมีพื้นที่จำกัดให้จัดวางสิ่งต่างๆลงไป พื้นที่ใน ROM ก็มีประมาณจำกัดเช่นกัน เขาเป็นคนทำให้ทุกๆสิ่งบนหน้าจอเคลื่อนไหวด้วยการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์เข้าไป


ยูจิ โฮริอิ

อากิระ โทริยามา



โคอิจิ ซุกิยามะ
ชินทาโร มาจิมะ



มานาบุ ยามานะ




เรียบเรียงข้อมูลจาก...
www.chrismcovell.com
กำลังโหลดความคิดเห็น