หากจะพูดถึงจุดขายของเกมแนว VS ไฟท์ติงแล้ว นอกจากการวัดฝีมือกับผู้เล่นอื่น อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือการสู้กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็เคยมีเกมหนึ่งสร้างตำนานระดับความยากมหากาฬเอาไว้จนทุกแมทช์แทบจะไม่ต่างจากบอสเลย
"อาร์ตออฟไฟท์ติง 2" เป็นผลงานของค่าย SNK ที่ออกมาในปี 1994 จัดเป็นหนึ่งในไม่กี่ซีรีย์ที่ประสบความสำเร็จจนสามารถสร้างภาคต่อได้ท่ามกลางยุคเกมต่อสู้รุ่งเรือง โดยเริ่มต้นจากเกมตู้ก่อนไปลงเครื่องนีโอจีโอทั้งแบบตลับและ CD พร้อมอีกเวอร์ชันบนเครื่องซูเปอร์แฟมิคอมที่แปลงโดยค่าย Saurus
เนื้อเรื่องของเกมจะต่อจากภาคที่แล้วซึ่งคู่หูนักสู้ "ริว ซาคาซากิ" และ "โรเบิร์ต การ์เซีย" ร่วมมือกันช่วยสาวน้อย "ยูริ ซาคาซากิ" จากแก๊งอาชญากรรมได้เป็นผลสำเร็จ จนเมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี นายทุนลึกลับผู้หนึ่งก็ประกาศจัดงานรวมยอดฝีมือทั่วโลกมาไว้ในเมืองเซาธ์ทาวน์ภายใต้ชื่อว่า "คิงออฟไฟเตอร์" โดยที่มีแผนการอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลัง
ตัวละครนักสู้ในครั้งนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 12 คน โดยหน้าใหม่ที่เพิ่มมาได้แก่ "ทาคุมะ ซาคาซากิ" ผู้เป็นอาจารย์ของทั้งสองคู่หู "ยูริ ซาคาซากิ" น้องสาวของริวที่ขอร่วมสู้ด้วย "เอย์จิ คิซารางิ" นินจามือสังหาร และ "เทมจิน" นักมวยปล้ำสไตล์มองโกล ส่วนตัวละครจากภาคก่อนที่โดนตัดทิ้งไปคือนักสู้สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ "ริวฮาคุ โทโด" เพียงคนเดียว
วิธีบังคับเกมจะมีปุ่มซ้ายขวาเดิน บนกระโดดล่างก้ม กดทิศตรงข้ามกับศัตรูตั้งการ์ด ส่วนปุ่มโจมตีจะมี A ต่อย B เตะ ถ้ากดแตะเฉยๆจะออกมาเป็นแบบเบาและกดค้างเป็นแบบแรงเหมือนกันทั้งสองอัน ปุ่ม C พร้อมทิศทางในระยะประชิดเป็นการทุ่ม ถ้ากดปกติจะเป็นการเตะหรือต่อยธรรมดาขึ้นอยู่กับปุ่มที่กดก่อนหน้า
สำหรับการปล่อยท่าพิเศษต่างๆยังคงต้องใช้แถบพลังจิตเหมือนเดิม ถ้าเหลือน้อยก็จะออกท่าได้ไม่เต็มที่ โดยคำสั่งวิธีกดส่วนมากจะเป็นแบบตวัดโค้ง 1 ส่วน 4 หรือครึ่งวงกลม แต่ก็มีตวัดแบบหน้าหลังบนล่างเป็นบางท่า ส่วนไม้ตายใหญ่ในภาคนี้จะใช้กันได้ทุกคนและมีเพิ่ม "ไม้ตายลับ" ที่กดได้เฉพาะตอนพลังชีวิตใกล้หมดด้วย
นอกจากนี้ ลูกเล่นในการบังคับอื่นจะมีการกด D เพื่อใช้ท่ายั่วยุลดแถบพลังจิตของคู่ต่อสู้ กดปุ่มใดก็ได้พร้อมกันสองปุ่มค้างเป็นการชาร์จแถบพลังจิตของตนเอง กดตวัดทิศทางข้างหน้าหรือหลังสองทีแล้วค้างเพื่อพุ่งตัว กด C ที่มุมจอโดดชิ่งกำแพงใช้ได้เป็นบางคน และสุดท้ายคือตอนโดนจับทุ่มถ้ากดปุ่มตรงจังหวะลงพื้นพอดีจะพลิกตัวลดความเสียหายได้
ในโหมดเล่นคนเดียว ผู้เล่นจะเลือกใช้นักสู้ได้ทั้งหมดไม่จำกัดแค่สองคู่หูตัวเอกเหมือนคราวก่อน แถมยังสามารถเลือกใครเป็นคู่ต่อสู้คนแรกก็ได้ยกเว้น "มิสเตอร์บิ๊ก" ที่ถูกกันไว้เป็นบอส และเมื่อผ่านด่านไปจำนวนหนึ่งจะมีฉากโบนัสให้เล่นเกมย่อยเพื่อขยายแถบพลังทั้ง 2 อันและปลดล็อกท่าไม้ตายใหญ่ได้อีก
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ "อาร์ตออฟไฟท์ติง" ภาคนี้กลายเป็นที่เลื่องลือในหมู่คอเกมต่อสู้คือความยากของคอมพิวเตอร์ที่เป็นรูปแบบตายตัวเกินเหตุ ถ้าผู้เล่นโดดขึ้นก็จะมีท่าตามสอยมาทันที เมื่อเดินเข้าหาก็จะโดนดักเตะก่อนเมื่อถึงระยะ และการตั้งการ์ดของศัตรูก็หนาจนแทบจะอัตโนมัติ แต่ในขณะเดียวกันถ้าหาจุดบอดได้ การใช้วิธีสิ้นคิดอย่างดักเตะต่ำหรือรอสวนในจังหวะเดิมก็ได้ผลตลอดโดยที่คอมดิ้นไม่หลุดเช่นกัน
นอกจาก A.I. ที่เป็นปัญหา ตัวเกมโดยรวมก็ถือว่ามีการปรับปรุงไปมากเมื่อเทียบกับภาคก่อนที่เหมือนยังทำไม่เสร็จดี บรรดาตัวละครมีท่าต่อสู้หลากหลายเท่าเทียมกัน การวางปุ่มเตะต่อยและคำสั่งไม้ตายก็ค่อนข้างลงตัวใช้งานง่าย ส่วนกราฟิกที่เป็นจุดเด่นก็มีรายละเอียดสวยงามขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากเกมนี้ ภาคต่อของ "อาร์ตออฟไฟท์ติง" ก็ออกมาโดยใช้ชื่อเป็นตอนแยก (ไกเด็น) ในฝั่งญี่ปุ่น พร้อมกับโละบรรดานักสู้ของเดิมทิ้งหมดเกลี้ยงเหลือไว้เพียงสองคู่หูตัวเอกริว ซาคาซากิและโรเบิร์ต การ์เซียเท่านั้น
Ryuuko no Ken 2 /Art of Fighting 2
Official Site (Virtual Console)
เครื่อง: Neo Geo
ภาษา: ญี่ปุ่น /อังกฤษ 1994
บริษัท: SNK
แนวเกม: VS Fighting
จำนวนผู้เล่น: 1-2 คน
สูตรลับ (สปอยล์...หากต้องการดูให้กด Ctrl+A)
- เล่นโหมดคนเดียวโดยไม่แพ้เลยจนถึงตัวสุดท้ายจะเจอกับบอสลับ "กีสโฮเวิร์ด"
***********************
**งดเกมเก่าเล่าใหม่ประจำวันที่ 28 ก.พ. เนื่องจากผู้เขียนป่วยกระทันหัน**