ESRB T สำหรับผู้อายุ 13 ปีขึ้นไป
หลังจาก Red Steel ภาคแรกทำเสียชื่อเกมเปิดตัวบนวี เพราะทั้งไม่สนุกและการควบคุมไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ การกลับมาคราวนี้ จึงต้องยกเครื่องใหม่ พร้อมโฆษณาว่าใช้ความสามารถของอุปกรณ์เสริมอย่าง วีโมชั่นพลัส อย่างเต็มกำลัง จึงไม่พลาดที่จะต้องหามาลอง
Red Steel 2 ยังคงเป็นเกมยิง มุมมองบุคคลที่ 1 (FPS) แบบภาคแรกที่เป็นการเปิดตัวด้วยลูกเล่นของวีโมตแทนการใช้ดาบกับปืน และต้องต่อสู้กับยากูซ่าที่ออกแนวเลือดสาดไม่ค่อยเหมาะกับเครื่องวีเท่าไร มาในภาค 2 คราวนี้เกมได้สลัดคราบจากเกมแนวต่อสู้กับยากูซ่า เปลี่ยนแนวมาเป็นการ์ตูนที่ดูแฟนตาซีไซไฟในแบบคาวบอยผสมกับซามูไร ด้วยกราฟิกแบบเซลเฉดที่ดูดีแบบไม่น่าเชื่อ เพราะทั้งฉากและตัวละครออกแบบมาได้อย่างดีกลมกลืนทั้งแบบ คาวบอยตะวันตก และ ซามูไร ตะวันออก รวมทั้งดนตรีและเสียงประกอบก็ยังประสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกไว้อย่างลงตัว แม้มันจะมีกลิ่นนมเนยของความเป็นเกมฝรั่งทำมากกว่า
เสียดายเล็กน้อยที่การออกแบบตัวละครที่ดูธรรมดา รวมทั้งการเขียนเนื้อเรื่องที่ออกจะเชยไปหน่อยสำหรับเกมในยุคนี้ ยังดีที่เกมได้ใส่ภาพยนตร์คัตซีนที่มีคุณภาพกว่าภาคแรกมา ส่วนรูปแบบการบังคับหลักๆ ยังคงใช้วีโมตเล็งแทนปืน และยิงด้วยปุ่ม B และยังคงใช้วีโมตในการควบคุมทิศทาง ส่วนนันชักใช้ควบคุมตัวละคร โดยการใช้ดาบซามูไรของตัวเอกใช้ได้ง่ายดายเพียงแค่สะบัดจอยวีโมต หรือ กด Z เพื่อชักดาบ ส่วนการกด A เพื่อตั้งดาบป้องกัน โดยการจับการเคลื่อนไหว(เกมจะรองรับเฉพาะ วีโมชั่นพลัสเท่านั้น ไม่มีก็เล่นไม่ได้) ก็ทำได้ดีสมราคาคุย มีการจับทิศทางดาบที่แม่นยำ การจับการเคลื่อนไหวของน้ำหนักในการออกแรงสะบัดจอยวีโมตที่ละเอียดมากกว่าเดิม รวมทั้งมีการกดปุ่มร่วมกับการสะบัดจอยที่ทำให้เกิดท่าไม้ตายได้หลายท่า
นอกจากนี้ เกมยังใส่ลูกเล่นเพื่อเพิ่มความสนุก เช่น การกดปุ่มตามจังหวะแบบ Quick Time Event หรือมินิเกมเปิดตู้เซฟด้วยการหมุนวีโมต ที่พอจะเพิ่มความสนุกได้ในระดับหนึ่ง ส่วนตัวเกมจะแบ่งเป็นด่านๆที่มีภารกิจที่มีทั้งภารกิจหลักและย่อยให้ทำ โดยรับภารกิจได้ที่กระดานรับ โดยแต่ละภารกิจไม่ยาวนักและมีจุดเซฟแบบอัตโนมัติเป็นระยะ เมื่อผ่านจะได้เงินมาเพื่อ ซื้อและอัพเกรดอาวุธใหม่ๆ ซื้อท่าไม้ตายใหม่ รวมทั้งอัปเกรดชุดเกราะ และเพิ่มค่าพลังได้ ส่วนการเล่นก็ลื่นไหลไม่มีสะดุดเพราะมีลูกศร และจุดบนแผนที่ที่จะบอกทางไปทำภารกิจตลอดทั้งเกม
ส่วนศัตรูหลักในเกมก็มีหลากหลายรูปแบบให้ต่อกรด้วย เพราะมีทั้งใช้ปืน ใช้ดาบ และอาวุธเบาหนัก อีกสารพัดรูปแบบ โดยมีวิธีการจัดการที่ไม่ง่ายนัก บางตัวต้องใช้ท่าไม้ตาย หรือต้องโจมตีด้านหลัง หรือใช้ท่าปัดป้องดาบเพื่อให้ศัตรูชะงักเพื่อโจมตีสวน ส่งผลให้ตัวเกมสนุกกว่าที่คาดไว้มาก และเกมยังปรับอุปสรรคในด่านเช่นจุดกระโดดหรือปีนป่ายให้เล่นได้ง่ายเพราะ กดแค่ปุ่มเดียว โดยรวมแล้วเป็นเกมที่เข้าถึงได้ง่าย แต่ตัวเกมก็ไม่ได้ง่ายนัก
สิ่งที่ต้องชมก็คือการจับการเคลื่อนไหวที่ทำได้ดี แม้จะไม่เที่ยงตรงเท่าเกมฟันดาบในวีสปอรต์รีสอร์ท ต้องเข้าใจว่าเกมนี้ต้องบังคับตัวละครเดินด้วย ดังนั้น ทำได้เท่านี้ถือว่าเยี่ยมแล้ว ส่วนการใช้ท่าไม้ตาย แม้จะมีหลายท่าแต่ก็ใช้ไม่ยุ่งยาก รวมทั้งการสลับการใช้อาวุธระหว่างปืนกับดาบก็ทำได้ลื่นไหลมาก และถ้าคุณคุ้นเคยกับการบังคับด้วยวีโมตแล้ว อาการมึนหัวจากการเล่นเกมแนว FPS จะแทบไม่มี สำหรับผู้ที่ลงทุนซื้อวีโมชั่นพลัส มาแล้วบ่นว่าไม่มีเกมออกมารองรับ แนะนำว่าต้องรีบหามาลอง โดยรวมแล้ว Ubisoft สามารถแก้ตัวจากความล้มเหลวของภาคแรกได้อย่างดี แถมความรุนแรงก็มีไม่มาก เพราะภาพเป็นการ์ตูน เด็กๆที่โตแล้วสามารถเล่นได้
สรุปแล้วในยุคที่เครื่องเกมหลายเครื่องพยายาม เดินตามแนวทางความสำเร็จของนินเทนโด แต่วีก็ยังคงเป็นผู้นำในส่วนของเกมที่เน้นการขายไอเดีย และสานต่อด้วยความความสำเร็จด้วยวีโมชั่นพลัส ที่ทำให้เกมบังคับได้สมจริงมากขึ้น และสำหรับ Red Steel 2 ก็สามารถดึงเอาความสามารถของวีโมชั่นพลัสออกมาสร้างเป็นเกม FPS ที่สนุกเล่นได้เพลินๆ แถมได้ออกท่าทางที่สมจริง เสียดายที่ไม่มีโหมดออนไลน์ให้ได้ฟาดฟันกับเพื่อนๆ แต่อย่างไรก็ตาม Red Steel 2 ได้พิสูจน์แล้วว่า เกมบนวียังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกไกล และยังคงสร้างความสนุกให้ผู้เล่นได้อีกนาน
เกมการเล่น | 8.5 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 8 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
ความคุ้มค่า | สนุกกว่าภาคแรก |
ภาพรวม | 8 |
ข้อดี : รูปแบบการเล่นที่ลงตัว ลื่นไหล
ข้อเสีย : ไม่มีโหมดออนไลน์ , เนื้อเรื่องกับตัวละครออกแบบได้เชยไปหน่อย
ข้อแนะนำ : ถ้าคุณมี วีโมชั่นพลัส ต้องไม่พลาด
Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)
ติดตาม twitter ผู้เขียนได้ที่ http://twitter.com/darthdome
สนับสนุน วีโมชั่นพลัสโดย ร้านเกม 4 Player ชั้น 6 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
(ใกล้โรงหนังชั้นบน โซนตู้เกม และคาราโอเกะ)
โทร 02 -884-5545